รร.นายร้อยตำรวจ รับลูกพัฒนายอดตร.ไซเบอร์ ดร.กมล รอดคล้าย เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา สภาการศึกษา โรงเรียนนายร้อยตำรวจ (รร.นรต.) ได้เสนอต่อที่ประชุมสภาฯ ถึงการเริ่มใช้แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2560-2579 อย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับการจัดการศึกษาของ รร.นรต. ถือว่าเป็นการจัดการศึกษาเฉพาะทาง โดยกฎหมายการศึกษาเปิดโอกาสให้กระทรวง กรม รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ สามารถจัดการศึกษาที่มีลักษณะเฉพาะ มุ่งเน้นให้เกิดการเรียนรู้ด้านใดด้านหนึ่งตามความต้องการและความชำนาญของหน่วยงานนั้น ๆ ซึ่งล้วนแต่มีความสำคัญต่อกลไกขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศในอนาคต และสอดคล้องกันทั้ง6ยุทธศาสตร์ในแผนการศึกษาชาติ ระยะ20ปี ดร.กมล กล่าวต่อไปว่า สิ่งสำคัญที่รัฐบาลเน้นย้ำและให้ความสำคัญมากที่สุด คือการผลิตกำลังคนที่มีสมรรถนะสูง สอดคล้องทิศทางประเทศไทย 4.0ตามยุทธศาสตร์ที่ 2ซึ่งเห็นว่านักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่นใหม่ ที่สำเร็จการศึกษา ควรมีคุณสมบัติเหมาะสมและตรงกับความต้องการของประเทศ ไม่ใช่แค่มีอาชีพตำรวจ แต่ต้องมีมาตรฐานตำรวจระดับสากล ที่ตำรวจนานาชาติยอมรับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำรวจไทยสมัยใหม่ ต้องสามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่มีความโดดเด่น เช่น การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาส่งเสริมงานนิติวิทยาศาสตร์ได้อย่างน่าเชื่อถือ และต้องเท่าทันสถานการณ์โลก อย่างกรณีการโจมตีของมัลแวร์เรียกค่าไถ่ WannaCryใน150ประเทศทั่วโลกขณะนี้ "หาก นรต.สามารถก้าวขึ้นมาเป็นตำรวจไซเบอร์ชั้นแนวหน้าของโลก ต่อต้านแฮกเกอร์เจาะระบบต่าง ๆ ได้รวดเร็วและทรงประสิทธิภาพ จะเสริมความแข็งแกร่งและศักดิ์ศรีตำรวจไทย เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ตำรวจในอาเซียนและนานาชาติ ต้องหันมาเรียนรู้งานกับตำรวจไทย ซึ่งกรอบขับเคลื่อนการจัดการศึกษาเฉพาะทางตามแผนการศึกษาชาติ ระยะ20ปี เป็นการลงลึกเพื่อให้เกิดความเชี่ยวชาญนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน โดยสร้างความรู้และนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้อย่างสอดคล้องกับยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศในอนาคตได้" ดร.กมล กล่าวและว่า ที่ประชุมสภาการศึกษา รร.นรต.ได้หารือแนวทางพัฒนาหลักสูตรนักเรียนนายร้อยตำรวจอย่างกว้างขวาง และเห็นชอบกับแนวทาง สกศ.ที่เสนอตั้งเป้าหมายตำรวจไทยมีความโดดเด่นด้านไซเบอร์ต่อต้านอาชญากรรมไฮเทค และเชี่ยวชาญเทคโนโลยีนิติวิทยาศาสตร์ โดยจะมีการปรับหลักสูตรอย่างเหมาะสมเพื่อเสริมสมรรถนะตำรวจแห่งอนาคตต่อไป