เจ๊สุ-นายทุนเงินกู้เลื่อนฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ หลังลูกหนี้ฟ้องตัดสินจำคุกลูกหนี้แห่ลุ้น อ้างเหตุผลป่วยกะทันหัน ลุ้นต่อรอศาลอุทธรณ์มีคำสั่งใหม่ เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลจังหวัดนครพนม ได้มีชาวบ้านกลุ่มลูกหนี้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมเกี่ยวกับคดี นายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยโหด นำโดย นายวิทยา มีดี ตัวแทนชาวบ้าน รวมถึง นางสาลิกา คนฉลาด อายุ 69 ปี ลูกหนี้ ชาวบ้านเหล่าภูมี ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม ซึ่งเป็นลูกหนี้นายทุนเงินกู้ อีกทั้งยังเป็นโจทย์ ฟ้องร้อง นางสาวสุพิชญ์ฌา อภิชัจฐ์โภคิน อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นนายทุนเงินกู้รายใหญ่ และประกอบธุรกิจโชว์รูมรถจักรยานยนต์รายใหญ่ ของ จ.นครพนม ในข้อหาเบิกพยานเท็จต่อศาล ตั้งแต่ปี 2554 ได้เดินทางมารอฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 4 เกี่ยวกับคดี นางสาลิกา คนฉลาด อายุ 69 ปี ลูกหนี้ได้นำโฉนดที่ดินไปจำนองกู้เงินกับ เจ้าแม่เงินกู้ดังกล่าว เป็นเงินจำนวน 580,000 บาท ซึ่งรับจริง 520,000 บาท แต่หลังผิดชำระ กับถูกฟ้องร้องรวมเป็นเงิน จำนวน 1.9 ล้านบาท ทำให้ต่อสู้คดีจนลูกหนี้ชนะ ศาลจังหวัดนครพนม สั่งให้ชดใช้เพียง 520,000 บาท เมื่อปี 2557 ต่อมาทางลูกหนี้ได้มีการฟ้องร้อง ดำเนินคดี กับเจ้าแม่เงินกู้ดังกล่าว เกี่ยวกับความผิดเบิกความเป็นเท็จต่อศาล และศาลจังหวัดนครพนม มีคำพิพากษาตัดสินเมื่อปี 2559 ให้จำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา และมีการอุทธรณ์ต่อสู้คดี ซึ่งมีนัดอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2560 โดยมีคำสั่งให้ศาลจังหวัดนครพนม เป็นผู้อ่านคำพิพากษา โดยในวันนี้ทาง นางสาวสุพิชญ์ฌา อภิชัจฐ์โภคิน อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นนายทุนเงินกู้รายใหญ่ ที่อยู่ระหว่างตำรวจดำเนินคดีจับกุม หลังมีชาวบ้านมาร้องทุกข์เพิ่มเติม ในข้อหา กระทำความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และให้บุคคลอื่นยืมเงินโดยคิดอัตราดอกเบี้ย เกินกว่ากฎหมายกำหนด และปลอมแปลงเอกสารสิทธิ์ ซึ่งเจ้าตัวได้เข้ามอบตัว สู้คดี ที่ สภ.เมืองนครพนม เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2560 ล่าสุดได้ขอยื่นประกันตัวในชั้นศาล อยู่ระหว่างการประกันตัว ผัดที่ 2 แต่การนัดฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 4 ซึ่งได้มีคำสั่งให้ศาลจังหวัดนครพนม นัดอ่านคำพิพากษา ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2560 ในบัลลังก์ 6 ทาง นางสาวสุพิชญ์ฌา อภิชัจฐ์โภคิน อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นนายทุนเงินกู้รายใหญ่ ที่ตกเป็นจำเลย ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น ที่มีคำพิพากษาตัดสินจำคุก 2 ปี พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ไม่ได้มาฟังคำพิพากษา แต่ได้มอบหมายให้ทนายความเดินทางมียื่นเรื่องเอกสารหลักฐานต่อศาลนครพนม เพื่อเลื่อนฟังคำพิพากษา ให้เหตุผลว่าป่วยไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลที่ กทม. และหลังจากนี้จะต้องรอคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 4 นัดอ่านคำพิพากษา อีกครั้ง มีเพียง นางสาลิกา คนฉลาด อายุ 69 ปี ลูกหนี้ ที่เป็นโจทย์ฟ้อง และชาวบ้านที่ได้รับความเดอืดร้อน มารอลุ้น ขณะเดียวกัน ในส่วนของการดำเนินคดีล่าสุดของตำรวจ เกี่ยวกับคดีนายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยโดหด นางสาวสุพิชญ์ฌา อภิชัจฐ์โภคิน อายุ 56 ปี พบว่ายังคงมีชาวบ้าน ที่ได้รับความเดือดร้อน เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม รวมแล้ว 41 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวนดำเนินคดี มีข้อหาหลักคือ กระทำความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และให้บุคคลอื่นยืมเงินโดยคิดอัตราดอกเบี้ย เกินกว่ากฎหมายกำหนด และปลอมแปลงเอกสารสิทธิ์ เนื่องจากส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่อง การทำสัญญาเงินกู้ผิดกฎหมาย ที่มีการลงจำนวนเงินเกินความเป็นจริง เพื่อทำเป็นสัญญาค้ำประกัน แต่พอลูกหนี้ผิดสัญญาจะมีการนำสัญญาทั้ง 2 ฉบับไปฟ้องร้องยึดทรัพย์บังคับคดี ทำให้ลูกหนี้หลายรายได้ความเดือดร้อน ซึ่งจะมีการดำเนินคดีแยกเป็นรายไป ต่างกรรมต่างวาระ นอกจากนี้ทางตำรวจยังได้รวบรวมหลักฐานเสนอ ปปง.เข้าตรวจสอบ หากมีความผิดเข้าข่ายฟอกเงิน จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่ม และทำการอายัดทรัพย์สินทันที ที่สำคัญยังได้เตรียมออกหมายจับเพิ่มกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินการ อีก 3 ราย จากที่ออกหมายจับไปแล้ว 2 ราย คือ เจ้าแม่เงินกู้ กับลูกสาว รวมทั้งหมดจะมีการออกหมายจับ รวม 5 ราย ในส่วนของ นางสาลิกา คนฉลาด อายุ 69 ปี ลูกหนี้ ชาวบ้านเหล่าภูมี ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม ซึ่งเป็นลูกหนี้นายทุนเงินกู้ อีกทั้งยังเป็นโจทย์ ฟ้องร้อง นายทุนเงินกู้ เปิดเผยว่า มาวันนี้ถึงยังไม่ได้ฟังคำพิพากษา แต่ตนยังมีความมั่นใจในกระบวนการของศาล และเชื่อมั่นว่าเรื่องของเวรกรรมมีจริง เนื่องจากนายทุนดังกล่าวทำกับชาวบ้านไว้เยอะ มีคนเดือดร้อนจำนวนมาก และอยากฝากให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองช่วยดูแล ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะตนต่อสู้มานานแลกด้วยชีวิต กว่าจะรอดพ้นปัญหามาได้