เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 22 ส.ค.59 ที่ กองบังคับการตำรวจน้ำ พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบก.รน. พ.ต.อ.ธนพล ศรีโสภา รองผบก.รน. มอบหมายสั่งการให้ พ.ต.อ.ไพศาล ศักดิ์สุนทรศิริ ผกก.7.บก.รน. พ.ต.ต.นัฐพงศ์ ตาแก้ว สว. ส.รน. 3 กก. 7 บก. รน. (ตำรวจน้ำนราธิวาส) และเจ้าหน้าที่ตร. ส.รน. 3 กก. 7 บก. รน. (ตำรวจน้ำนราธิวาส) จับกุม นายสูกีมาน ยูโซ๊ะ อายุประมาณ 30 ปี และนายมูฮำหมัดสือรี สะแปอิง อายุประมาณ 30 ปี ในฐานความผิดร่วมกันนำ หรือพาบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันเป็นธุระจัดหา พามา จาก หรือส่งไปยังที่ใด จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ อันเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยสามารถจับกุมภายในป่าละเมาะบริเวณริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พล.ต.ต.กฤตธาพล กล่าวว่า สืบเนื่องจากนโยบายของพล.ต.ทฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. ที่ให้เร่งรัดกวดขันจับกุมขบวนการค้ามนุษย์ ประกอบกับแนวทางการสืบสวนพบว่ามีกลุ่มบุคคล นำพา และให้ที่พักอาศัยแก่บุคคลสัญชาติพม่าเพื่อจะนำส่งไปยังประเทศมาเลเซีย ซึ่งกระทำการเป็นขบวนการ และมีการเรียกรับเงินจากบุคคลที่จะเข้าไปทำงานยังประเทศมาเลเซีย จึงสั่งการให้ส.รน. 3 กก. 7 บก. รน. (ตำรวจน้ำนราธิวาส) กระจายกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ริมป่าละเมาะ กระทั่งพบรถกระบะอีซูซุ ต้องสงสัยคันหนึ่ง ซึ่งมีนายสูกีมาน ยูโซ๊ะ เป็นผู้ขับเข้ามายังที่บริเวณดังกล่าว จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นพบแรงงานสัญชาติพม่าจำนวน 7 คน ประกอบด้วย นายสัตตา อายุ 30 ปี นายอามาล อายุ 17 ปี นายจูนัย อายุ 20 ปี นายแฟรุสคาน อายุ 19 ปี นายยาซา ไม่ทราบนามสกุล อายุ 19 ปี นางดรายเวีย ไม่ทราบนามสกุล อายุ 32 ปี น.ส.เซจิดา ไม่ทราบนามสกุล อายุ 17 ปี นั่งอยู่ภายในรถยนต์กระบะ และกระเป๋าใส่เสื้อผ้าจำนวน 7 ใบ อยู่ในภายในกระบะของรถยนต์คันดังกล่าว ทั้งนี้ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่นั้นได้พบเห็นชายต้องสงสัยมีพฤติกรรมคล้ายกับผู้ร่วมขบวนการขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามา จึงได้ทำการควบคุมตัวไว้ทราบชื่อคือนายมูฮำหมัดสือรี สะแปอิง พร้อมกับควบคุมตัวทั้งหมดกลับมายัง สถานีตำรวจน้ำนราธิวาส เพื่อทำการสอบปากคำ ผบก.รน กล่าวว่า จากการสอบสวนนายมูฮำหมัดสือรี ให้การสารภาพว่า ดำเนินการจัดส่งบุคคลสัญชาติพม่ามาเป็นระยะเวลานานหลายปีแล้ว โดยรับเงินค่าจ้างจากนายซาเอ๊ะ ซึ่งเป็นบุคคลสัญชาติพม่าซึ่งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จะทำหน้าที่ส่งบุคคลสัญชาติพม่ามาให้เพื่อนำไปส่งต่อยังประเทศมาเลเซีย โดยจะได้ค่าจ้างเป็นรายบุคคล รายละ 4,000 บาท โดยก่อนที่จะไปรับบุคคลสัญชาติพม่าเพื่อนำส่งต่อไปยังประเทศมาเลเซียนั้น ทุกครั้งนายซาเอ๊ะ จะโทรศัพท์แจ้งให้ตนทราบก่อนว่าในแต่ละครั้ง แต่ละวันนั้นจะส่งมาจำนวนกี่คน และส่งไปยังเมืองใดของประเทศมาเลเซีย เมื่อรับบุคคลสัญชาติพม่ามาแล้ว จะเขียนสัญลักษณ์ไว้ที่แขนของบุคคล สัญชาติพม่า เพื่อที่คนรับในประเทศมาเลเซียจะได้นำตัวบุคคลสัญชาติพม่า ไปส่งถูกต้อง ขณะเดียวกันจากการสอบถามบุคคลสัญชาติพม่าทั้งหมด ให้การว่า ลักลอบเดินทางเข้ามายังประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติบริเวณอำเภอสังขบุรีจังหวัดกาญจนบุรี และมีคนนำพาพวกตนมายังสถานีรถไฟในจังหวัดราชบุรีโดยมีบุคคลดำเนินการจัดที่นั่งบนรถไฟ และมาลงที่สถานีในจังหวัดนราธิวาสและต่อมาได้มีรถยนต์กระบะ ไปรับที่สถานีและได้เปลี่ยนมานั่งรถยนต์กระบะมาส่งให้กับนายมูฮำหมัดสือรี ฯ และนายมูฮำหมัดสือรี ได้พามาพักอาศัยที่บ้านแห่งหนึ่ง ได้ประมาณ 1ชั่วโมง จากนั้นนายสูกีมาน ยูโซ๊ะ ได้ขับขี่เข้ามายังในป่า ต่อมาถูกเจ้าพนักงานตำรวจตรวจค้น โดยจะเข้าไปทำงานยังประเทศมาเลเซีย มีการจ่ายเงินให้กับกลุ่มนำพาด้วย อย่างไรก็ตามจากการสอบคัดแยกบุคคลสัญชาติพม่าทั้งหมด ของชุดสหวิชาชีพจังหวัดนราธิวาส สรุปว่าบุคคลสัญชาติทั้งหมดตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันแจ้งข้อกล่าวหาให้กับนายสูกีมาน และนายมูฮำหมัดสือรี ทราบว่ามีความผิดตามข้อกล่าวหาดังกล่าวข้างต้น จากนั้นได้นำตัวบุคคลทั้งสองส่งไปยังพนักงานสอบสวน สภ.แว้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป