กลุ่มสามารถ แจงรายได้ Q2/2560 เกือบ4,000 ล้านบาท พร้อมทรานสฟอร์ม “ไอ-โมบาย เป็น สามารถดิจิตอล” แย้มตั้งบริษัทใหม่รุกธุรกิจ Transportations นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า บริษัทฯมีรายได้รวมไตรมาส 2 จำนวน 3,893 ล้านบาท โดยสายธุรกิจไอซีที นำโดย บมจ.สามารถเทลคอม มีรายได้รวมที่ 1,688 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 24 กำไรสุทธิ 60 ล้านบาท ทั้งนี้ ในครึ่งปีแรก สามารถเซ็นต์สัญญาโครงการใหม่มูลค่ารวม 3,800 ล้านบาท อาทิ โครงการจัดซื้อและว่าจ้างบริการบํารุงรักษาระบบ Core Banking และระบบงาน Loan Origination จากธนาคารอาคารสงเคราะห์ เป็นต้น ส่งผลให้มีงานในมือแล้วในปัจจุบันเกือบหมื่นล้านบาท ด้านบมจ.วันทูวันคอนแทคส์ นอกจากจะมีการต่อสัญญาเดิมแล้ว ยังมีสัญญาว่าจ้างใหม่ๆรวมมูลค่าสัญญากว่า 120 ล้านบาท ส่งผลให้มีมูลค่างานในมือ ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 920 ล้านบาท ส่วนธุรกิจด้านพลังงานก็ไปได้สวย โดยบริษัท เทด้า จำกัด ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารงานก่อสร้างโครงการ สายส่ง สถานีไฟฟ้าแรงสูง แบบครบวงจร มีการเซ็นต์สัญญาว่าจ้างในโครงการเปลี่ยนระบบไฟฟ้าอากาศเป็นระบบสายไฟฟ้าใต้ดิน ให้กับ กฟน. และโครงการจัดหาและก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูงให้กับกฟผ. มูลค่ารวมกว่า 1,200 ล้านบาท นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น นายวัฒน์ชัย กล่าวว่า ครึ่งปีหลัง กลุ่มสามารถมีแนวโน้มผลประกอบการเพิ่มสูงขึ้น จากสายธุรกิจ ICT Solution ซึ่งคาดว่าสิ้นปี 2560 จะมีงานในมือรวมแล้วกว่า 12,000 ล้านบาท ด้านสายธุรกิจ Related Business โดยเฉพาะ บมจ.วันทูวัน คอนแทคส์ มีโอกาสเข้าประมูลในโครงการคอลล์เซ็นเตอร์ระดับชาติมูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท ส่วนสายธุรกิจ Mobile-Multimedia ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนธุรกิจจากที่เคยเน้นการขายโทรศัพท์มือถือไปสู่การขายเครื่องลูกข่าย Digital Trunked ในลักษณะ Private Network และการให้บริการข้อมูลในรูปแบบดิจิตอลอย่างเต็มรูปแบบ ครอบคลุมทั้งด้าน Lifestyle กิน ดื่ม เที่ยว กีฬา และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับดิจิตอลตามมาอีกมากมาย จึงน่าจะสามารถพลิกฟื้นได้ในครึ่งปีหลัง และมีโอกาสในการสร้างรายได้ประจำที่มั่นคงมากขึ้นในอนาคต” “เรามองการก้าวสู่ยุคดิจิตอลนี้เป็นโอกาสของการขยายผลและเริ่มต้นธุรกิจใหม่ๆ นอกจากธุรกิจในสายโมบายแล้ว ธุรกิจอื่นๆของกลุ่มสามารถก็ดำเนินไปได้ด้วยดี โดยเฉพาะสายไอซีที ที่ได้รับผลบวกจากการผลักดันนโยบาย Thailand 4.0 ดังนั้นผมจึงมั่นใจว่าหลังจากการผ่าตัดธุรกิจ SIM ในครั้งนี้สำเร็จ เราจะแข็งแกร่งขึ้นและพร้อมจะรุกธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี และเชื่อมั่นว่าผลประกอบการของกลุ่มสามารถในช่วงครึ่งปีหลัง จะพลิกฟื้นขึ้นมาเป็นบวกได้อย่างแน่นอน” นายวัฒน์ชัย กล่าว