หมอขอนแก่นย้ำชัดวัคซีนโควิด-19 ปลอดภัยไว้ใจได้ เพราะผ่านการตรวจรับรองจาก สธ.และองค์การอนามัยโลก ชวนคนขอนแก่นรับการฉีดวัคซีนทุกคนเพื่อการป้องกันอย่างยั่งยืน ย้ำชัดถึงเวลาที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันเพื่อนำความสุขกลับคืนประเทศไทย
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 25 ก.พ.2564 ที่ รพ.ขอนแก่น พญ.อุษณีย์ ศรีร่มโพธิ์ทอง แพทย์เฉพาะทางโรคติดเชื้อ รพ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยรับวัคซีนโควิด-19 ชุดแรกจาก บ.ซิโนคแวค ประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้วและเข้าสู่ขั้นตอนของการให้บริการกับ 13 จังหวัดและกลุ่มเสี่ยงตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ขณะที่วัคซีนในรอบที่ 2 จาก บ.แอสต้า เซเนก้า นั้น จะส่งมอบให้กับประเทศไทยในช่วงเดือย มิ.ย. ซึ่งในรอบที่ 2 นี้นั้นกระทรวงสาธารณสุขจะจัดสรให้กับพื้นที่ต่างๆซึ่งขอนแก่น จัดอยู่ในการรับการจัดสรรวัคซีนในรอบที่ 2 โดยคณะทำงานได้พิจารณาการฉีดวัคซีนให้กับแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ที่เป็นด่านหน้า นั้นได้รับการฉีดเป็นกลุ่มแรก ตามด้วยการให้บริการในกลุ่มต่างๆตามที่คณะกรรมการวัคซีน จ.ขอนแก่น กำหนด ดังนั้นวันนี้การสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นให้กับประชาชนชาวขอนแก่น ทุกคนให้ได้รับวัคซีนนั้นเป็นสิ่งที่แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งสื่อมวลชนจะต้องทำความเข้าใจและให้ความรู้จนเกิดความมั่นใจและเชื่อมั่นในวัคซีน จนนำมาสู่การที่คนขอนแก่นทุกคนเข้ารับการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อที่กำลังเกิดขึ้น
“จากข้อมูลทางการแพทย์ยืนยันชัดเจนว่า วัคซีนทั้ง 2 ตัวนี้นั้นผ่านการทดสอบและได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก รวมทั้งกระทรวงสาธารณสุขของไทยก็ได้ให้การรับรองจนนำมาสู่การนำเข้าวัคซีนดังกล่าวตามสัดส่วนการรับมอบตามที่รัฐบาลได้กำหนดแนวทาง ซึ่งยอมรับว่าวัคซีนดังกล่าวนี้นั้นเป็นเรื่องใหม่ แต่เป็นสถานการณ์เร่งด่วนในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยที่นักวิชาการและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งองค์กรทางการแพทย์ระดับโลกและของประเทศไทยให้การรับรองและยอมรับจนนำมาสู่การจัดหาวัคซีนให้กับคนไทยทุกคน ดังนั้นถึงเวลาที่ทุกคนจะต้องรวมพลังกันและเชื่อมั่นในวัคซีนดังกล่าวและเข้ารับบริการรับวัคซีนตามแนวทางที่ทางการกำหนด ที่ผ่านมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในด้านต่างๆอย่างหนักดังนั้นวันนี้ทุกคนต้องร่วมมือกันเพื่อที่นำความสุขกลับคืนสู่ประเทศไทยโดยเร็ว”
พญ.อุษณีย์ กล่าวต่ออีกว่า วัคซีนดังกล่าวนี้นั้นอาจจะส่งผลข้างเคียงเฉพาะที่ ไม่ว่าจะเป็นเกิดอาการบวมแดง หรือมีรอยช้ำเฉพาะจุดจากการฉีด เท่านั้น ขณะที่การสำรวจกลุ่มคนที่จะเข้ารับบริการวัคซีนลำดับแรก ก่อนหรือหลัง นั้นจะต้องเป็นไปตามที่คณะกรรมการวัคซีนจังหวัดกำหนด ซึ่งขอให้ทุกคนอดใจรอนิดนึง เนื่องจากคณะทำงานกำลังทานในด้านต่างๆอย่างหนัก ขณะที่ รพ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายของการให้บริการแก่ประชาชนนั้นมีความพร้อมกับการปฎิบัติการวัคซีนดังกล่าวอย่างพร้อมเพรียง ทั้งบุคลากร อุปกรณ์ และพื้นที่ของการดำเนินการ เนื่องจากแต่ละคนเมื่อรับวัคซีนแล้วจะต้องพักรอเพื่อดูอาการและติดตามอาการคนละ 30 นาที ทำให้การรับวัคซีนต่อคนจะอยู่ที่ 40 นาที จึงขอยืนยันว่าวัคซีนโควิด-19 นั้นปลอดภัยและขอให้ชาวขอนแก่นเข้ารับวัคซีนกันครบทุกคน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 25 ก.พ.2564 ที่ รพ.ขอนแก่น พญ.อุษณีย์ ศรีร่มโพธิ์ทอง แพทย์เฉพาะทางโรคติดเชื้อ รพ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยรับวัคซีนโควิด-19 ชุดแรกจาก บ.ซิโนคแวค ประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้วและเข้าสู่ขั้นตอนของการให้บริการกับ 13 จังหวัดและกลุ่มเสี่ยงตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ขณะที่วัคซีนในรอบที่ 2 จาก บ.แอสต้า เซเนก้า นั้น จะส่งมอบให้กับประเทศไทยในช่วงเดือย มิ.ย. ซึ่งในรอบที่ 2 นี้นั้นกระทรวงสาธารณสุขจะจัดสรให้กับพื้นที่ต่างๆซึ่งขอนแก่น จัดอยู่ในการรับการจัดสรรวัคซีนในรอบที่ 2 โดยคณะทำงานได้พิจารณาการฉีดวัคซีนให้กับแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ที่เป็นด่านหน้า นั้นได้รับการฉีดเป็นกลุ่มแรก ตามด้วยการให้บริการในกลุ่มต่างๆตามที่คณะกรรมการวัคซีน จ.ขอนแก่น กำหนด ดังนั้นวันนี้การสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นให้กับประชาชนชาวขอนแก่น ทุกคนให้ได้รับวัคซีนนั้นเป็นสิ่งที่แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งสื่อมวลชนจะต้องทำความเข้าใจและให้ความรู้จนเกิดความมั่นใจและเชื่อมั่นในวัคซีน จนนำมาสู่การที่คนขอนแก่นทุกคนเข้ารับการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อที่กำลังเกิดขึ้น
“จากข้อมูลทางการแพทย์ยืนยันชัดเจนว่า วัคซีนทั้ง 2 ตัวนี้นั้นผ่านการทดสอบและได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก รวมทั้งกระทรวงสาธารณสุขของไทยก็ได้ให้การรับรองจนนำมาสู่การนำเข้าวัคซีนดังกล่าวตามสัดส่วนการรับมอบตามที่รัฐบาลได้กำหนดแนวทาง ซึ่งยอมรับว่าวัคซีนดังกล่าวนี้นั้นเป็นเรื่องใหม่ แต่เป็นสถานการณ์เร่งด่วนในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยที่นักวิชาการและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งองค์กรทางการแพทย์ระดับโลกและของประเทศไทยให้การรับรองและยอมรับจนนำมาสู่การจัดหาวัคซีนให้กับคนไทยทุกคน ดังนั้นถึงเวลาที่ทุกคนจะต้องรวมพลังกันและเชื่อมั่นในวัคซีนดังกล่าวและเข้ารับบริการรับวัคซีนตามแนวทางที่ทางการกำหนด ที่ผ่านมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในด้านต่างๆอย่างหนักดังนั้นวันนี้ทุกคนต้องร่วมมือกันเพื่อที่นำความสุขกลับคืนสู่ประเทศไทยโดยเร็ว”
พญ.อุษณีย์ กล่าวต่ออีกว่า วัคซีนดังกล่าวนี้นั้นอาจจะส่งผลข้างเคียงเฉพาะที่ ไม่ว่าจะเป็นเกิดอาการบวมแดง หรือมีรอยช้ำเฉพาะจุดจากการฉีด เท่านั้น ขณะที่การสำรวจกลุ่มคนที่จะเข้ารับบริการวัคซีนลำดับแรก ก่อนหรือหลัง นั้นจะต้องเป็นไปตามที่คณะกรรมการวัคซีนจังหวัดกำหนด ซึ่งขอให้ทุกคนอดใจรอนิดนึง เนื่องจากคณะทำงานกำลังทานในด้านต่างๆอย่างหนัก ขณะที่ รพ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายของการให้บริการแก่ประชาชนนั้นมีความพร้อมกับการปฎิบัติการวัคซีนดังกล่าวอย่างพร้อมเพรียง ทั้งบุคลากร อุปกรณ์ และพื้นที่ของการดำเนินการ เนื่องจากแต่ละคนเมื่อรับวัคซีนแล้วจะต้องพักรอเพื่อดูอาการและติดตามอาการคนละ 30 นาที ทำให้การรับวัคซีนต่อคนจะอยู่ที่ 40 นาที จึงขอยืนยันว่าวัคซีนโควิด-19 นั้นปลอดภัยและขอให้ชาวขอนแก่นเข้ารับวัคซีนกันครบทุกคน