บมจ.อินเตอร์ ฟาร์มา ฟอร์มเด่นปิดปี 2563 ผลงานโตแกร่ง กำไรสุทธิทะลุ 60 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 30% จากปีก่อน หลังกวาดรายได้ไปกว่า 447 ล้านบาท ตามยอดขายทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับคนและสัตว์เลี้ยงเติบโตโดดเด่น พร้อมรับรู้รายได้จากการซื้อกิจการ “โมเดิร์น ฟาร์มา” เข้ามาช่วงโค้งสุดท้ายของปีเกือบ 13 ล้านบาท บอร์ดเคาะจ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญอัตรา 2.5 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผล 20 สตางค์ต่อหุ้น และจ่ายเป็นเงินสดอัตราหุ้นละ 2 สตางค์ ประกาศ XD 12 มี.ค.64 มั่นใจปีนี้รายได้เติบโตต่อเนื่องตามแผนไม่ต่ำกว่า 25% ดร.ตฤณวรรธน์ ธนิตนิธิพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) หรือ IP ผู้ดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนา คิดค้น และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและนวัตกรรมความงามสำหรับคน และผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับสัตว์เลี้ยงและปศุสัตว์ เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2563 ว่า บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 60.49 ล้านบาท เติบโตขึ้น 28.37% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน ตามรายได้รวมที่เพิ่มขึ้นเกือบ 19% แตะ 447 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับคนและสัตว์เลี้ยงเติบโตโดดเด่น โดยยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับคนเติบโตขึ้นราว 40% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แตะ 229 ล้านบาท โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์โปรไบโอติก และผลิตภัณฑ์เสริมมวลกระดูก “PreBo” ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่วนยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับสัตว์เลี้ยงทำได้ 189 ล้านบาท เติบโตขึ้นราว 34% โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบรนด์มาเรีย,ผลิตภัณฑ์ยา และผลิตภัณฑ์อาหารทานเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยงแบรนด์ Choo Choo นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้มีการรับรู้รายได้จากการขายยาสามัญเพิ่มเติมเข้ามาอีกราว 13 ล้านบาท จากการซื้อกิจการบริษัท โมเดิร์น ฟาร์มา จำกัด (ปิดดีลเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2563) ขณะเดียวกันบริษัทยังสามารถรักษาอัตรากำไรไว้ได้ในระดับสูง โดยอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin:GP) อยู่ที่ระดับ 59% ปรับเพิ่มขึ้นจาก 57.61% ในช่วงเดียวกันปีก่อน จากการบริหารจัดการต้นทุนการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยต้นทุนการขายเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงจาก 41.87% ในช่วงเดียวกันปีก่อนเหลือ 40.55% ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้นในอัตราที่ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 28% และ 13% ตามลำดับ ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin:NP) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 13.5% จาก 12.5% ในช่วงเดียวกันปีก่อน ทั้งนี้ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ได้มีมติอนุมัติจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 22 สตางค์ โดยจ่ายเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 2 สตางค์ และจ่ายเป็นหุ้นสามัญอัตรา 2.5 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายปันผล 20 สตางค์ต่อหุ้น กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิ (XD) 12 มีนาคม 2564 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 ดร.ตฤณวรรธน์ กล่าวอีกว่า สำหรับปี 2564 เชื่อมั่นจะเป็นปีแห่งการเติบโตที่ดีของบริษัทฯ เบื้องต้นตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 25% ภายใต้แผนงานที่วางไว้ ทั้งจากความร่วมมือกับบริษัท ไทยยูเนี่ยน อินกรีเดียนท์ จำกัด ในการจัดตั้งบริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา-ซีวิต้า จำกัด ที่จะมีผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด รวมถึงการรับรู้รายได้จาก “โมเดิร์น ฟาร์มา” เข้ามาเต็มปี และการซื้อกิจการโรงงานผลิตยาแผนปัจจุบันและเครื่องจักร จากบริษัท เทวา ฟาร์มา (ประเทศไทย) จำกัด ที่จะเป็นอีกจิ๊กซอว์สำคัญผลักดันรายได้เติบโตเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 25% ต่อปี แตะ 2,500 ล้านบาท ภายในปี 2568 ภายใต้การรักษาระดับ GP ไว้ไม่ต่ำกว่า 50% และ NP 14-15% โดยปัจจุบัน บมจ.อินเตอร์ ฟาร์มา แบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ออกเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.นวัตกรรมยารักษาโรค (Pharmaceutical Innovation) 2.โภชนบำบัดเพื่อการรักษาสุขภาพและชะลอวัย (Wellness & Anti-Aging Nutraceuticals) 3.เวชสำอางและนวัตกรรมความงาม (Cosmeceuticals & Aesthetic Innovation),4.ผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพของสัตว์เลี้ยง(Companion Animal Healthcare) 5.ผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพสำหรับปศุสัตว์(Livestock Animal Healthcare)