EXIM BANK ออกมาตรการสินเชื่อ เยียวยาผู้ประกอบการ SMEs ไทยใน CLMV จากผลกระทบของโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจ วงเงินสูงสุด 20 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 3.99% ต่อปี ผ่อนชำระสูงสุด 3 ปี พร้อมมาตรการช่วยเหลือลูกค้า EXIM BANK ในตลาดเมียนมา พักชำระหนี้เงินต้นกรณีวงเงินกู้ระยะยาวสูงสุด 12 เดือน ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า ตลาด CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ไต่อันดับขึ้นมาเป็นตลาดส่งออกสำคัญของไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2563 CLMV เป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 4 ของไทย รองจากสหรัฐฯ อาเซียนเดิม 5 ประเทศ และจีน ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม การส่งออกของไทยไปตลาด CLMV มีเหตุสะดุดลงในปี 2563 โดยหดตัวกว่า 11% ขณะที่ในปี 2564 ยังต้องเผชิญกับปัญหารอบด้าน ทั้งวิกฤตโควิด-19 ประกอบกับสถานการณ์ภายในเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทยที่ดำเนินธุรกิจส่งออกและลงทุนในตลาดเมียนมา ขณะที่ในภาพรวมกลุ่มประเทศ CLMV ยังมีศักยภาพที่จะเติบโตทางเศรษฐกิจและมีความต้องการซื้อสินค้าและบริการของไทยอยู่มาก การเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการ SMEs มีแหล่งเงินทุนเพียงพอที่จะดำเนินธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ท่ามกลางปัจจัยท้าทายต่างๆจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ โดย EXIM BANK จึงออกมาตรการช่วยเหลือดังต่อไปนี้ 1.มาตรการสินเชื่อ CLMV อุ่นใจ เป็นเงินทุนหมุนเวียนให้แก่ผู้ประกอบการไทยใน CLMV ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ วงเงินสูงสุด 20 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 3.99% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 3 ปี ใช้เพียงหนังสือค้ำประกันของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เป็นหลักประกันร่วมกับบุคคลหรือนิติบุคคลค้ำประกันได้ ผู้ประกอบการสามารถยื่นขอสินเชื่อได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 พฤศจิกายน 2564 ทางเว็บไซต์ www.exim.go.th สอบถามได้ที่ EXIM BANK สำนักงานใหญ่และสาขาทุกแห่ง 2.มาตรการเยียวยาธุรกิจไทยในเมียนมา สำหรับลูกค้าปัจจุบันของ EXIM BANK สามารถพักชำระหนี้เงินต้นกรณีวงเงินกู้ระยะยาวสูงสุด 12 เดือน ต่ออายุตั๋วสัญญาใช้เงินรวมสูงสุดไม่เกิน 180 วัน โดยแจ้งความประสงค์กับเจ้าหน้าที่ EXIM BANK ภายใน 30 กันยายน 2564 กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวอีกว่า จากการติดตามสถานการณ์ความไม่สงบภายในเมียนมาอย่างใกล้ชิดและประเมินผลกระทบต่อลูกค้า ผู้ประกอบการไทยเริ่มได้รับผลกระทบจากการชำระเงินล่าช้าและการชะลอคำสั่งซื้อของคู่ค้าในเมียนมา EXIM BANK จึงได้พิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการผ่านมาตรการต่าง ๆ ตามความจำเป็นอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบันมีลูกค้า EXIM BANK ที่เป็นผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยในตลาดเมียนมาจำนวนกว่า 200 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อประมาณ 5,300 ล้านบาท การออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยในเมียนมาจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายทางการเงินและเพิ่มสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการไทยได้ นอกจากมาตรการด้านการเงินข้างต้นแล้ว EXIM BANK พร้อมให้ความช่วยเหลือและคำปรึกษาแนะนำแก่ผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยในเมียนมา ทาง Hotline โทร. 0-2271-3700 ต่อ 3009 “สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบไปทั่วโลก รวมทั้งไทยและ CLMV มาตั้งแต่ต้นปี 2563 ประกอบกับปัจจัยอื่น ๆ ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยได้รับผลกระทบเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ CLMV เป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงในระยะยาว EXIM BANK จึงต้องเร่งออกมาตรการเยียวยาในระยะสั้น ทั้งด้านสินเชื่อและการให้คำปรึกษาแนะนำ เพื่อประคับประคองสภาพคล่องทางธุรกิจของผู้ประกอบการไทย รอการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของตลาด CLMV ในระยะถัดไป”