จากกรณีที่สาววัย 35 ปี กินยาผิวขาว และเพิ่มขนาดหน้าอกจากที่ซื้อทางเฟซบุ๊ก จนทำให้เสียชีวิตและมีการนำเสนอข่าวออกไปถึงการใช้ยาเพิ่มความเปล่งปลั่งขาวใส และเพิ่มขนาดหน้าอก แต่ผู้ใช้ในจังหวัดแพร่ถึงแก่ความตาย ส่งผลให้ในโซเชียลที่มีการโฆษณาขายยา ต่างออกมาโจมตีการเสนอข่าวว่าเป็นข่าวมั่ว ไม่เป็นความจริง ส่วนอีกหลายกลุ่มได้แชร์ข่าวออกไปเพราะให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับทราบข้อมูล ปัญหาดังกล่าวจึงกลายเป็นประเด็นทางสังคมเกิดการเรียนรู้ด้านการใช้ยา ซึ่งความเสียหายนั้นเกิดกับทุกฝ่ายทั้งผู้เสียชีวิต ผู้ผลิตยา อย่างไรก็ตามปัญหาดังกล่าวจะต้องมีทางออกไม่ใช่เอาผลประโยชน์ใส่ตนเพียงฝ่ายเดียว วันนี้ทีมไขประเด็นได้นำข้อมูลมาเพื่อไขข้อข้องใจให้เกิดความกระจ่างในประเด็นดังกล่าว โดยหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่ ที่มี นพ.ทศเทพ บุญทอง เป็นสาธารณสุขจังหวัดแพร่ ได้มอบหมายให้ เภสัชกรเด่น ปัญญานันท์ เภสัชกรเชี่ยวชาญ ที่เป็นรองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนแล้ว และกล่าวว่า เรื่องนี้มีความสูญเสียกันทุกฝ่าย ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่ โดยกลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคจะเข้าไปพบญาติผู้เสียชีวิต และนำตัวอย่างยาไปทำการพิสูจน์ เพื่อให้เห็นผลทางวิทยาศาสตร์ เรื่องนี้ต้องใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เพื่อทำการตรวจสอบแสดงผล เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เภสัชกรเด่น ปัญญานันท์ เภสัชกรเชี่ยวชาญ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้คือปัญหาใหญ่ของสังคมยุคปัจจุบันที่ประชาชนสามารถเข้าถึงยาได้ง่าย ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัย ขณะนี้มียาที่พยายามบอกว่าปลอดภัยเป็นยาสมุนไพรประมาณนี้ออกมาโฆษณาจำนวนมาก ซึ่งทางสาธารณสุขจังหวัดแพร่มีมาตรการ และออกประกาศ พร้อมทั้งมีคำสั่งห้ามโฆษณายา และอาหารเสริมที่สถานีวิทยุกระจายเสียงในจังหวัดแพร่ไปแล้วนั้น สามารถสกัดได้ส่วนหนึ่ง แต่โลกการสื่อสารมันกว้างมาก สำหรับกรณีของผู้เสียชีวิตรายนี้ มาจากการหลงเชื่อคำโฆษณาแล้วไปใช้โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ จนถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการร้องเรียนเข้ามายังสาธารณสุขจังหวัด จึงไม่ทราบรายละเอียดมากนัก แต่ถ้าดูตามเหตุการณ์แล้ว ผู้เสียชีวิตมีอาการบวม และเป็นโรคไต ในที่สุดเกิดอาการไตวาย น่าจะมาจากสเตียรอยด์ ซึ่งเป็นยาปัจจุบันที่ผู้ผลิตยานำไปแฝงไว้ในตัวยาที่จำหน่าย อย่างไรก็ตาม จะต้องสอบหาขอเท็จจริงเพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับประชาชนรายอื่นๆ ต่อไป ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากญาติผู้เสียชีวิตนำปัญหาดังกล่าวร้องเรียนหรือให้ข้อมูลเข้ามายังหน่วยงานสาธารณสุขจังหวัด จะได้ตรวจสอบเว็บไซต์ที่โฆษณายาเหล่านั้นได้