เวลา 13.30 น. วันที่ 24 มี.ค.65 สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปทรงเปิดอาคารศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ 60 พรรษา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในการนี้นายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กรรมการสภามหาวิทยาลัย รองอธิการบดี คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ และผู้บริหารมหาวิทยาลัย เฝ้ารับเสด็จ โอกาสนี้ ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้าย “ อาคารศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ 60 พรรษา”
อาคารศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ 60 พรรษา เป็นอาคารใหม่ของคณะวิทยาศาสตร์ ชื่อเดิมคือ อาคารปฏิบัติการรวมวิทยาศาสตร์ โดยได้รับพระราชทานนามว่า อาคารศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ 60 พรรษา สร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติ เนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา พุทธศักราช 2560 โดยมีเป้าหมายให้อาคารแห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้ของประเทศ เพื่อให้บุคลากรภาคเอกชน ภาคอุตสาหกรรมชุมชนและสังคม ได้นำความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปสู่การสร้างนวัตกรรม ด้านเกษตร อาหาร พลังงาน สุขภาพ สิ่งแวดล้อม และเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน
อาคารศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ 60 พรรษา เป็นอาคารปฏิบัติการวิจัยรวม ที่ออกแบบเพื่อการประหยัดพลังงาน ความสูง 6 ชั้น และ 12 ชั้น เป็นอาคารต้นแบบในการประพยัดพลังงาน และห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม มีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 22,000 ตารางเมตร ใช้เป็นสถานที่จัดการเรียนการสอน รองรับงานปฏิบัติการค้นคว้าวิจัย และการจัดประชุมสัมมนา ตลอดจนการดำเนินงานอื่นๆ ของคณะวิทยาศาสตร์ การออกแบบรูปลักษณ์อาคาร เป็นรูปทรงที่เรียบง่ายแต่ทันสมัย จัดวางพื้นที่การใช้งานให้เป็นสัดส่วน ตอบรับบริบทและสภาพแวดล้อม เริ่มก่อสร้างในปี 2558 และเสร็จสิ้นในปี 2561 ประกอบด้วย ห้องทำงานของคณะผู้บริหาร ห้องสมุด สมาคมนิสิตเก่าคณะวิทยาศาสตร์และชมรมคณาจารย์อาวุโส ห้องประชุม อเนกประสงค์เกียรติยศ ศูนย์เครื่องมือวิทยาศาสตร์ และห้องปฏิบัติการมาตรฐาน ด้านเคมี ฟิสิกส์ พอลิเมอร์และยางธรรมชาติ ห้องปฏิบัติการวิจัยบ่มเพาะ ห้องประชุม ห้องเรียน ห้องสัมมนา ห้องฝึกอบรม โถงอเนกประสงค์ และอาคารจอดรถ โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างจากงบประมาณแผ่นดิน และงบประมาณเงินรายได้ รวมทั้งสิ้น 325,238,000 บาท (สามร้อยยี่สิบห้าล้าน สองแสนสามหมื่นแปดพันบาท)
เวลา 13.40 น. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จแทนพระองค์ไปยังอาคารจักรพันธ์เพ็ญศิริ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2563 จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นวันที่สี่
โดยวันนี้ มีผู้ทรงคุณวุฒิที่มีผลงานดีเด่น เข้ารับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ 1 คน ได้แก่ นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (วิทยาการคอมพิวเตอร์) คณะวิทยาศาสตร์ ศรีราชา พร้อมพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาเอก ปริญญาโท และปริญญาตรี จาก คณะศึกษาศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ ศรีราชา คณะวิศวกรรมศาสตร์ ศรีราชา คณะพาณิชยนาวี-นานาชาติ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ คณะวิทยาศาสตร์ ศรีราชา รวม 1,714 คน
โอกาสนี้ พระราชทานพระโอวาทความตอนหนึ่งว่า “ในวันนี้ ใคร่จะกล่าวเพิ่มเติมถึงคุณธรรมที่สำคัญยิ่งอีกประการหนึ่ง คือ ความกตัญญู ความกตัญญูนั้น หมายถึงความตระหนักรู้ถึงคุณความดีของบุคคลต่างๆ และสิ่งต่างๆ เป็นต้นว่า บิดามารดาและผู้ปกครองซึ่งให้ชีวิตและเลี้ยงดูมา ครูบาอาจารย์ซึ่งถ่ายทอดสรรพวิชาและอบรมบ่มนิสัย สังคมและชาติบ้านเมืองซึ่งเป็นที่อยู่ที่อาศัยและประกอบอาชีพการงาน ผู้มีความกตัญญูรู้คุณย่อมปรารถนาที่จะตอบแทนคุณ ด้วยการประพฤติตนปฏิบัติงานแต่ในทางที่ดีที่ชอบ ก่อให้เกิดผลดีที่พึงประสงค์ คือความเจริญมั่งคงทั้งในชีวิตและกิจการงานพร้อมทุกส่วน จึงขอให้บัณฑิตทุกคนพิจารณาคุณค่าของความกตัญญูให้ทราบชัด แล้วตั้งใจปลูกฝังสร้างเสริมคุณธรรมข้อนี้ให้งอกงาม”
อาคารศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ 60 พรรษา เป็นอาคารใหม่ของคณะวิทยาศาสตร์ ชื่อเดิมคือ อาคารปฏิบัติการรวมวิทยาศาสตร์ โดยได้รับพระราชทานนามว่า อาคารศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ 60 พรรษา สร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติ เนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา พุทธศักราช 2560 โดยมีเป้าหมายให้อาคารแห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้ของประเทศ เพื่อให้บุคลากรภาคเอกชน ภาคอุตสาหกรรมชุมชนและสังคม ได้นำความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปสู่การสร้างนวัตกรรม ด้านเกษตร อาหาร พลังงาน สุขภาพ สิ่งแวดล้อม และเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน
อาคารศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ 60 พรรษา เป็นอาคารปฏิบัติการวิจัยรวม ที่ออกแบบเพื่อการประหยัดพลังงาน ความสูง 6 ชั้น และ 12 ชั้น เป็นอาคารต้นแบบในการประพยัดพลังงาน และห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม มีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 22,000 ตารางเมตร ใช้เป็นสถานที่จัดการเรียนการสอน รองรับงานปฏิบัติการค้นคว้าวิจัย และการจัดประชุมสัมมนา ตลอดจนการดำเนินงานอื่นๆ ของคณะวิทยาศาสตร์ การออกแบบรูปลักษณ์อาคาร เป็นรูปทรงที่เรียบง่ายแต่ทันสมัย จัดวางพื้นที่การใช้งานให้เป็นสัดส่วน ตอบรับบริบทและสภาพแวดล้อม เริ่มก่อสร้างในปี 2558 และเสร็จสิ้นในปี 2561 ประกอบด้วย ห้องทำงานของคณะผู้บริหาร ห้องสมุด สมาคมนิสิตเก่าคณะวิทยาศาสตร์และชมรมคณาจารย์อาวุโส ห้องประชุม อเนกประสงค์เกียรติยศ ศูนย์เครื่องมือวิทยาศาสตร์ และห้องปฏิบัติการมาตรฐาน ด้านเคมี ฟิสิกส์ พอลิเมอร์และยางธรรมชาติ ห้องปฏิบัติการวิจัยบ่มเพาะ ห้องประชุม ห้องเรียน ห้องสัมมนา ห้องฝึกอบรม โถงอเนกประสงค์ และอาคารจอดรถ โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างจากงบประมาณแผ่นดิน และงบประมาณเงินรายได้ รวมทั้งสิ้น 325,238,000 บาท (สามร้อยยี่สิบห้าล้าน สองแสนสามหมื่นแปดพันบาท)
เวลา 13.40 น. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จแทนพระองค์ไปยังอาคารจักรพันธ์เพ็ญศิริ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2563 จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นวันที่สี่
โดยวันนี้ มีผู้ทรงคุณวุฒิที่มีผลงานดีเด่น เข้ารับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ 1 คน ได้แก่ นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (วิทยาการคอมพิวเตอร์) คณะวิทยาศาสตร์ ศรีราชา พร้อมพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาเอก ปริญญาโท และปริญญาตรี จาก คณะศึกษาศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ ศรีราชา คณะวิศวกรรมศาสตร์ ศรีราชา คณะพาณิชยนาวี-นานาชาติ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ คณะวิทยาศาสตร์ ศรีราชา รวม 1,714 คน
โอกาสนี้ พระราชทานพระโอวาทความตอนหนึ่งว่า “ในวันนี้ ใคร่จะกล่าวเพิ่มเติมถึงคุณธรรมที่สำคัญยิ่งอีกประการหนึ่ง คือ ความกตัญญู ความกตัญญูนั้น หมายถึงความตระหนักรู้ถึงคุณความดีของบุคคลต่างๆ และสิ่งต่างๆ เป็นต้นว่า บิดามารดาและผู้ปกครองซึ่งให้ชีวิตและเลี้ยงดูมา ครูบาอาจารย์ซึ่งถ่ายทอดสรรพวิชาและอบรมบ่มนิสัย สังคมและชาติบ้านเมืองซึ่งเป็นที่อยู่ที่อาศัยและประกอบอาชีพการงาน ผู้มีความกตัญญูรู้คุณย่อมปรารถนาที่จะตอบแทนคุณ ด้วยการประพฤติตนปฏิบัติงานแต่ในทางที่ดีที่ชอบ ก่อให้เกิดผลดีที่พึงประสงค์ คือความเจริญมั่งคงทั้งในชีวิตและกิจการงานพร้อมทุกส่วน จึงขอให้บัณฑิตทุกคนพิจารณาคุณค่าของความกตัญญูให้ทราบชัด แล้วตั้งใจปลูกฝังสร้างเสริมคุณธรรมข้อนี้ให้งอกงาม”