แม้ว่าประเทศไทยจะมีสายพันธุ์ข้าวมากมายหลายชนิด แต่ทางด้านกรมการข้าวยังคงให้ความสำคัญในการวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับข้าวไทยให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคทั่วโลก

นางชวนชม ดีรัศมี ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลก กล่าวว่า กรมการข้าวได้เล็งเห็นตลาดข้าวพื้นนุ่มที่เป็นข้าวเศรษฐกิจ รองลงมาจากข้าวหอมมะลิ ซึ่งกรมการข้าวมีการพัฒนาพันธุ์ข้าวพื้นนุ่มออกมา โดยมุ่งเน้นการเพิ่มผลผลิตต่อไร่สูง มีความต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูข้าวที่สำคัญ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และผู้บริโภค ปัจจุบันพันธุ์ข้าวพื้นนุ่ม สามารถปลูกได้ทั้งปี โดยจะมีพันธุ์ กข21 กข43  กข77 กข79 กข87 เป็นต้น มักจะมีการส่งเสริมให้ปลูกในพื้นที่ภาคกลางในเขตชลประทาน นอกจากนี้ข้าวพื้นนุ่มเป็นที่ต้องการของตลาดในประเทศ และตลาดต่างประเทศ เนื่องจากเป็นข้าวที่มีความนุ่ม เหนียว และราคาถูก

นายเฉลียว น้อยแสง ประธานแปลงใหญ่ข้าวบ้านพระแก้ว อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท กล่าวว่า จากประสบการณ์การปลูกข้าวมานาหลาย 10 ปี สำหรับข้าวพื้นนุ่มที่กรมการข้าวได้มีการนำมาส่งเสริมให้มีการผลิต พบว่าเป็นข้าวที่มีคุณภาพ ปลูกง่าย ได้ผลผลิตต่อไร่สูง ต้านทานต่อโรคและแมลง ลดต้นทุนการผลิต ทำให้เกษตรกรสมาชิกในกลุ่มแปลงใหญ่ข้าวบ้านพระแก้ว อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท มีความชื่นชอบและเลือกที่จะนำข้าวพื้นนุ่มเข้ามาเป็นพันธุ์ข้าวหลักในการผลิต อย่างเช่น พันธุ์ กข79 ซึ่งกลุ่มได้วางแนวทางการผลิตข้าวคุณภาพดี คือ 1.ต้องเลือกใช้เมล็ดพันธุ์คุณภาพดีจากกรมการข้าว 2.ต้องทำนาไม่เกิดปีละ 2-3 ครั้ง 3.ต้องมีการจดบันทึก 4.ลดอัตราการใช้เมล็ดพันธุ์ 5.ลดการใช้ปุ๋ยเคมี ซึ่งทั้งหมดนี้เกษตรกรสามารถทำได้ง่ายๆ เนื่องจาก กรมการข้าวมีการทดลองและวิจัย พันธุ์ข้าวให้แข็งแรง ต้านทานโรคและแมลง ช่วยให้เกษตรกรลดต้นทุนได้มากถึงร้อยละ 20-30 

"ทั้งนี้ กรมการข้าว ยังคงมีการพัฒนายกระดับศักยภาพการผลิตข้าวพื้นนุ่ม  ซึ่งกรมการข้าวมีการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวพื้นนุ่ม ทั้งพันธุ์หลักและพันธุ์ขยาย เพื่อส่งต่อเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพส่งต่อสู่เกษตรกรไทยได้" นางชวนชม ดีรัศมี ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลก กล่าวปิดท้าย