วันที่ 31 ต.ค. 59 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงการทำงานในภาพรวมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการดูแลความปลอดภัยและการจราจรโดยรอบสนามหลวง และพระบรมมหาราชวังตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา ว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบงาน 3 ภารกิจหลัก ถวายความปลอดภัยแด่พระบรมวงศ์ศานุวงศ์ รวมทั้งคณะทูตจากต่างประเทศที่เข้ามาร่วมถวายสักการะพระโกศ พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รวมทั้งการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนที่มาร่วมงาน และการจัดการด้านกานจราจรโดยรอบพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาได้ระดมกำลังตำรวจเข้าในพื้นที่วันละกว่า 3,500 นาย และได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเสนอถึงการเปิดให้ประชาชนเข้าไปสักการะพระบรมศพ ภายในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท หลังเวลา 22.00-04.00 น. เนื่องจากมีประชาชนมารอเข้าไปในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก รวมทั้งการเสนอให้ประชาชนออกจากพื้นที่สนามหลวงหลังเวลา 22.00น. เพื่อให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ยังอยู่ระหว่างการหารือว่าจะสามารถให้เข้าไปได้หรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า การปิดการจราจรโดยรอบพื้นที่สนามหลวงและพระบรมมหาราชวัง ในวันจันทร์-ศุกร์ จะปิดการจราจรรวม 8 เส้นทาง ส่วนในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ จะปิดเส้นทางรวม 27 เส้นทาง ตามที่เคยปิดไปก่อนหน้านี้ โดยขอความร่วมมือให้ประชาชนใช้บริการตามจุดจอดรถที่ได้จัดไว้ให้ และโดยสารรถชัตเทิ้ลบัส เข้ามาในพื้นที่จะสะดวก ส่วนคดีต่างๆ ที่ผ่านมาตำรวจได้รับแจ้งรวม 48 คดี เป็นคดีเกี่วกับทรัพย์ล้วงกระเป๋า กรีดกระเป๋า 14 คดี แจ้งลืมมือถือ และสิ่งของมีค่าสูญหาย 25 คดี และจับกุมบุคคลต่างด้าว 7 คน พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่าจากการข่าว ขณะนี้ยังไม่พบสิ่งบอกเหตุเกี่ยวกับบุคคลที่จะเข้ามาก่อเหตุร้ายภายในพื้นที่ แต่ได้มีการเฝ้าระวังอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยจัดกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบตรวจสอบพื้นที่ห่างจากสนามหลวงกว่า 10 กิโลเมตร ส่วนการพบอาวุธ สิ่งเทียมอาวุธ ที่ตำรวจตรวจพบก่อนเข้ามาในพื้นที่ พบว่าส่วนใหญ่จะลืมนำติดตัวเข้ามาในพื้นที่ ไม่มีเจตนานำมาก่อเหตุ.