เกาะติดสนามเลือกตั้ง 2562 เรื่อง : ทีมข่าวการเมือง สังเวียนที่เมืองสมุทรสาคร บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งสนามเลือกตั้งที่ "คอการเมือง" พากันจับตามองไม่กะพริบ เพราะเป็นการชิงชัยกันระหว่าง "สองตระกูลการเมืองใหญ่" คือ "ทับสุวรรณ" กับ " ไกรวัตนุสสรณ์" ฝ่ายแรกสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่ฝ่ายหลังเลยสังกัดพรรคเพื่อไทย แต่ปรากฎว่าการเลือกตั้งรอบนี้ กลับมี "บิ๊กเซอร์ไพรส์" เมื่อ ตระกูลทับสุวรรณ ที่ยืนหยัดอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์มาอย่างยาวนาน ได้ตัดสินใจส่งตัวแทนไปลงสมัครพรรคของ "ลุงกำนัน" สุเทพ เทือกสุบรรณ" ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ส่วนตระกูลไกรวัตนุสสรณ์ เลือกสละเรือ "พรรคเพื่อไทย" แล้วบ่ายหน้าไปยัง "ชาติไทยพัฒนา" พรรคการเมืองที่ไม่เลือกขั้ว ชูความเป็นกลาง ว่ากันว่าบิ๊กเซอร์ไพรส์ที่เกิดขึ้นรอบนี้ ทำเอาสองพรรคใหญ่ทั้งประชาธิปัตย์และเพื่อไทย ดูจะวุ่นวายไม่น้อยเลยทีเดียว ! ทั้งนี้เมื่อวันที่ 29 พ.ย.2561ที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง การแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง หลัง กกต. เห็นชอบให้มีการประกาศแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. จำนวน 350 เขตเลือกตั้งทั่วประเทศ อนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ สำหรับจังหวัดสมุทรสาคร มีประชากรทั้งสิ้น 568,415 คน มีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 3 คน จำนวนเขตเลือกตั้ง 3 เขต ประกอบด้วย เขตเลือกตั้งที่ 1 อำเภอเมืองสมุทรสาคร เฉพาะตำบลมหาชัย ท่าฉลอม โกรกกราก บางหญ้าแพรก ท่าทราย คอกกระบือ โคกขาม พันท้ายนรสิงห์ และ บางน้ำจืด เขตเลือกตั้งที่ 2 อำเภอเมืองสมุทรสาคร เฉพาะตำบลนาดี, อำเภอกระทุ่มแบน เฉพาะตำบลอ้อมน้อย สวนหลวง ตลาดกระทุ่มแบน ดอนไก่ดี ท่าไม้ แคราย และ คลองมะเดื่อ เขตเลือกตั้งที่ 3 อำเภอเมืองสมุทรสาคร เฉพาะตำบลนาโคก กาหลง บางโทรัด บ้านบ่อ ชัยมงคล บางกระเจ้า บ้านเกาะ และ ท่าจีน, อำเภอกระทุ่มแบน (ตำบลบางยาง หนองนกไข่ ท่าเสา) และ อำเภอบ้านแพ้ว ทุกตำบล ทางฝั่งพรรคประชาธิปัตย์ได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครทั้ง3เขตไปแล้วได้แก่เขต 1 กุลวัชร หงษ์คู อดีตนายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร เขต 2 สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกกต.และ เขต3 นิติรัฐ สุนทรวร อดีตส.ส.สมุทรสาคร แชมป์เก่า โดยชูสโลแกน "เดินหน้าพัฒนาสมุทรสาคร ยกจังหวัด" อย่างไรก็ดี การที่ประชาธิปัตย์ เลือกสมชัย ให้มาลงสมัครเขต 2 นั้นมีรายงานข่าวมาก่อนหน้านี้แล้วว่า มาจากปัญหาที่ สุวิศว์ เมฆเสรีกุล อดีต ส.ว.สมุทรสาคร ได้ขอถอนตัวกลางคันโดยอ้างว่าไม่พร้อมลงสู้ศึกเลือกตั้ง จึงทำให้ประชาธิปัตย์ต้องเคาะกันที่สมชัย กันต์กวี  ทับสุวรรณ ขณะที่พรรครวมพลังประชาชาติไทย ของลุงกำนัน ส่งครบทั้ง 3 เขตได้แก่ สนธยา สวัสดี ลงเขต 1, กันต์กวี ทับสุวรรณ ลงเขต 2 และเขต 3 คือ วาสนา ทรัพย์ธำรง ที่น่าสน คือการได้คนจากตระกูลดัง สมุทรสาครอย่าง "ทับสุวรรณ" มาสวมเสื้อพรรคลุงกำนัน "เฮียม้อ" มณฑล ไกรวัตนุสสรณ์ ส่วนพรรคเพื่อไทยนั้น ล่าสุด "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย เพิ่งยกคณะไปหาเสียงกันที่ โรงพยาบาลบ้านแพ้ว พบปะและพูดคุยกับทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ จากนั้นได้ลงพื้นที่บริเวณตลาดริมคลองบ้านแพ้ว ทำเอาบรรยากาศคึกคักไม่น้อย แต่กลับเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครเพียงเขตเดียว คือ พ.ต.อ.วิเลข ศรีนิเวศน์ ลงเขต 3 มีรายงานว่าเพราะเพื่อไทยหาตัวผู้สมัครไม่ได้ เนื่องจาก ตระกูลการเมืองดัง อย่าง "ไกรวัตนุสสรณ์" ไปสังกัดพรรคชาติไทยพัฒนานั่นเอง ซึ่งว่ากันว่า นาทีนี้เฮียม้อ เองคงประเมินทิศทางลมได้ว่า หากยังอยู่ที่พรรคเพื่อไทย อาจไม่เป็นผลดีนัก ดังนั้นเมื่อวันที่ 21 พ.ย.2561 ที่ผ่านมา นอกจากแกนนำพรรคชาติไทยพัฒา เปิดบ้านต้อนรับตระกูล "สะสมทรัพย์" แห่งนครปฐม แล้วยังต้อนรับ กลุ่มไกรวัตนุสสรณ์ อีกด้วยนำทีมโดย ลูกชายคนเล็ก ของเฮียม้อ "ต่อ" อนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ อดีต ส.ส.สมุทรสาคร , ปัญญา ชวนบุญ อดีตประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร และ "อภิชาต โพธิ์ถนอม" รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร ประกาศชนะยกจังหวัด ส่วน "กำนันหลอ" บุญชู นิลถนอม อดีตส.ส.สมุทรสาคร พรรคเพื่อไทย ที่อยู่ในกลุ่มไกรวัตนุสสรณ์ ที่เป็นแชมป์เก่า เขต2 เคยกวาดคะแนนในการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2554 มาแล้ว ถึง 42,475 คะแนน แต่นาทีนี้กลับน่าสนใจว่า ยังไม่มีชื่อกำนันหลอ สวมเสื้อว่าที่ผู้สมัคร ของพรรคใด ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย สังกัดเดิม มีรายงานว่าระบุว่า การตัดสินใจวางตัวว่าที่ผู้สมัคร ลงทั้ง3เขตของเฮียม้อ ในนามพรรคชาติไทยพัฒนา ครั้งนี้กำลังสร้างความไม่พอใจต่อ กลุ่มสะสมทรัพย์อยู่ไม่น้อย เพราะการที่ไม่ส่ง "แชมป์เก่า" อย่างกำนันหลอลง อาจทำให้ "คะแนนเสียง" ที่กำนันหลอ มีอยู่ในมือเกิดสวิงเทไปช่วยพรรคใดพรรคหนึ่ง ที่ไม่ใช่ทั้ง พรรคเพื่อไทยหรือประชาธิปัตย์ รวมทั้งชาติไทยพัฒนา แต่กลายเป็น "พรรคพลังประชารัฐ" เสือซุ่ม ที่เตรียมส่งคนลงสมัครลงไปเก็บแต้มโดยที่ไม่ต้อง "ลงทุน" แต่อาจจะได้ "กำไร" อย่างงาม อย่าลืมว่า เบื้องลึก เบื้องหลังของนักการเมือง ล้วนแล้วแต่มี "คอนเนคชั่น" ที่สลับซับซ้อน แถมยังไม่มีสูตรตายตัวเสียด้วย !