พ่อ-แม่ หนุ่มออทิสติก จำเลยคดีน้องต้าแง ร้องกองปราบวอนช่วยทำคดี หลังไม่ได้รับความเป็นธรรม เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 ม.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) นายสมจิต ฉิมมา อายุ 70 ปี และนางพยุง สร้อยทอง อายุ 63 ปี พ่อแม่ของนายทองขวัญ หรือฝน ฉิมมา อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาคดีพรากผู้เยาว์ ด.ช.ซูลุยผิว หรือ น้องต้าแง ชาวเมียนมา วัย 2 ขวบ พร้อมด้วยนายอนันต์ชัย ไชยเดชทนายความ ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมถึง พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. ผ่านทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝอ.งาน 1 บก.ป. เพื่อขอให้ทางกองปราบช่วยทำคดีการเสียชีวิตของน้องซูลุยผิว แทนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สะยายโสม อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี หลังพบว่าขั้นตอนการทำงานของตำรวจ สภ.สระยายโสม ทุกขั้นตอนไม่ถูกต้องตามกระบวนการทางกฎหมาย จนทำให้ทางครอบครัวนายทองขวัญ รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคดีดังกล่าวเท่าที่ควร นายอนันต์ชัย กล่าวว่า หลังจากที่นายฝน ซึ่งเป็นออทิสติก ได้ตกเป็นผู้ต้องหาพรากผู้เยาว์ น้องซูลุยผิว และถูกจับกุมตัว และนำตัวส่งสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เพื่อวิเคหาะห์สติปัญญา ซึ่งพบว่านายฝนเข้ามาอยู่ในสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์มานานกว่า10วัน แต่แพทย์ยังไม่สามารถรับรองสติบัญญานายฝนได้ แต่ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.คมศักดิ์ สุมังเกษตร ผบก.ภ.จ.สุพรรณบุรี กลับออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ว่าแพทย์ได้มีการยืนยันคำให้การของนายฝนเชื่อถือได้ ซึ่งขัดแย้งกันโดยสิ้นเชิง เพราะในปัจจุบันแพทย์จากสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ซึ่งเป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงยังไม่สามารถยืนยันได้ ประกอบกับนายฝนถูกจับกุมตัวส่งสถาบันตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.61 ขณะที่หมายจับออกวันที่ 28ธ.ค.61 หลังการจับกุมหนึ่งวัน เท่ากับว่าขั้นตอนการจับกุมไม่เป็นไปตามกฎหมาย นายอนันต์ชัย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในขั้นตอนการสอบสวนและสอบปากคำพยานมีการถ่ายทำวิดีโอ มีการบันทึกภาพและเสียงไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งการกระทำในลักษณะนี้ คือการทำแผนประกอบคำรับสารภาพของผู้ต้องหา ไม่ใช่การสอบปากคำพยาน ดังนั้นในฐานะทนายความขอเรียกร้องให้กองบังคับการปราบปราม รื้อคดีนี้ใหม่ทั้งหมด และให้แพทย์ผู้ที่ยืนยันคำให้การของนายฝนนั้นเชื่อถือ ให้ออกมาชี้แจงต่อสังคม แต่ถ้าตนสืบทราบว่าเป็นแพทย์คนนั้นเป็นใคร จะดำเนินการร้องแพทย์สภาทันที อย่างไรก็ตามที่ประกันตัวนายฝนออกจากสถาบันกัลยาได้ จะนำตัวนายฝนมาให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์และเดินหน้าร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งระดับชาติและระดับโลก เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ก่อนรอประสานส่งต่อให้กับทางผู้บังคับบัญชาเป็นผู้พิจารณาสั่งดำเนินการต่อไป