ทัพโต๊ะเล็ก “ซามูไรบลู” ยกพลถึงไทยแล้ว พร้อมอุ่นเครื่องกับทีมชาติไทยในวันที่ 1 ก.พ.และ 3 ก.พ.นี้ บรูโน่ การ์เซีย กุนซือใหญ่ชี้เจอไทยไม่ง่าย แต่ก็หวังที่จะมาเอาชนะให้ได้ทั้ง 2 นัด ส่วน “ปูลปิส” รับยังไม่มี 16 แข้งที่จะส่งลงเกมแรกในใจ แต่ลั่นเน้นเต็มที่ เพื่อทดลองนักเตะมากให้ที่สุด
กุนซือใหญ่ทีมฟุตซอลทีมชาติไทย นำลูกทีมลงฝึกซ้อมต่อเนื่อง วันที่ 29 ม.ค.เวลา 09.00 น. ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์ การกีฬาแห่งประเทศไทย ก่อนจะเหลือเวลาอีก 3 วัน ที่จะประเดิมเกมอุ่นเครื่องนัดแรกของปีนี้ พบ ทีมชาติญี่ปุ่น วันที่ 1ก.พ. เวลา19.00น. และนัดที่สอง วันที่ 3 ก.พ. เวลา16.00น. ที่สนาม บางกอกอารีน่า
การฝึกซ้อมใช้เวลา 3 ชั่วโมง เริ่มต้นด้วยการซ้อมแยกเฉพาะผู้รักษาประตู 1 ชั่วโมง ก่อนจะซ้อมแบบรวมทีมเน้นไปที่จังหวะการโต้กลับ,การขึ้นเกมและการจบสกอร์ จบด้วยการลงทีมทดลองหมุนเวียนตัวผู้เล่น
ภายหลังการซ้อม"ปูลปิส" กล่าว่าว่า วันนี้ก็มีการซ้อมมื้อเดียวก็พยายามกระตุ้นให้ทุกมีสมาธิกับการซ้อมอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องผู้เล่นทั้ง 16 คนที่จะส่งชื่อนัดแรก เกมเจอ ญี่ปุ่น ก็ยังพยายามดูไปเรื่อยๆ พยายามทดลองหมุนเวียนในแต่ละวันว่าผู้เล่นชุดไหนเล่นกันลงตัว มากที่สุด และแน่นอนว่าการอุ่นเครื่องทั้ง 4 เกม แต่ละนัดจะไม่มี นักเตะตายตัว เพราะการอุ่นเครื่อง ก็เหมือนเป็นการฝึกซ้อมทดสอบนักเตะ ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีการตัดตัวอยู่แล้ว
ส่วนเมื่อเวลา 15.40 น.วันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ทัพโต๊ะเล็กซามูไร ทีมชาติญี่ปุ่น ได้ยกพลเดินทางมาถึงเมืองไทยแล้วด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน ทีจี 683 นำมาโดย บรูโน่ การ์เซีย กุนซือชาวสเปน พร้อมผู้เล่นอีก 14 ราย โดยสองแข้งซูเปอร์อย่าง ราฟาเอล เฮมมี่ และชิมิสุ คาซูยะ ที่ค้าแข้งในสเปนได้แยกเดินทางมาถึงก่อนหน้านี้แล้ว ก่อนจะมีเกมอุ่นครื่องกับทีมฟุตซอลไทย 2 นัดในวันที่ 1 ก.พ.และ 3 ก.พ.นี้
โดย บรูโน่ การ์เซีย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมก่อนทีมว่า เรายังไม่ได้รวมทีมกันเลยเพราะลีกเพิ่งจะปิด และตัวจากสเปนก็บินมารวมกันที่เมืองไทย แต่ก็จะใช้เวลา 2 วันก่อนการแข่งขันในการฝึกซ้อม ปรับจูนทีมให้เร็วที่สุด
“การอุ่นเครื่องครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี ที่ทีมจะได้เคลื่อนไหว ตนรู้ดีว่าทีทมชาติไทยมีความแข็งแกร่ง พวกเขาเป็นทีมในระดับสุดยอดเอเชีย การแข่งขันจึงน่าจะออกมาสนุกแน่นอนทั้งสองนัด”
เมื่อถามถึงเป้าหมายกับการอุ่น 2 เกมนี้ การ์เซีย ก็เผยว่า เรามีความตั้งใจมาเต็มที่ การเจอกับไทยไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เราจะทำให้ดีที่สุด และคาดหวังที่จะเอาชนะไทยมให้ได้ทั้งสองเกม
สำหรับขุนพลทีมโต๊ะเล็กญี่ปุ่นชุดนี้ประกอบด้วย ฮีกอร์ ปีเรส (GK), โชโก ฮิยามะ (GK),ฮิเดคาซุ ชิรากาตะ,เรียวทาโร่ ชิรากาตะ ,อาคิระ มินาโมโต้ ,โทโมกิ โยชิกาวา ,ราฟาเอล เฮนมิ ,มานาบุ ทาคิตะ ,คาโอรุ โมริโอกะ ,นิบูยะ คาซูชิโร่,ฮาชิโมโต้ มาซายะ ,ฮิราตะ มัสซาโนริ ,มินามิ คาโต้,กาคุ มิยาซากิ,เคตะ อิโต้ และ ชิมิซุ คาซุยะ
ภายหลังการซ้อม"ปูลปิส" กล่าว่าว่า วันนี้ก็มีการซ้อมมื้อเดียวก็พยายามกระตุ้นให้ทุกมีสมาธิกับการซ้อมอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องผู้เล่นทั้ง 16 คนที่จะส่งชื่อนัดแรก เกมเจอ ญี่ปุ่น ก็ยังพยายามดูไปเรื่อยๆ พยายามทดลองหมุนเวียนในแต่ละวันว่าผู้เล่นชุดไหนเล่นกันลงตัว มากที่สุด และแน่นอนว่าการอุ่นเครื่องทั้ง 4 เกม แต่ละนัดจะไม่มี นักเตะตายตัว เพราะการอุ่นเครื่อง ก็เหมือนเป็นการฝึกซ้อมทดสอบนักเตะ ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีการตัดตัวอยู่แล้ว
ส่วนเมื่อเวลา 15.40 น.วันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ทัพโต๊ะเล็กซามูไร ทีมชาติญี่ปุ่น ได้ยกพลเดินทางมาถึงเมืองไทยแล้วด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน ทีจี 683 นำมาโดย บรูโน่ การ์เซีย กุนซือชาวสเปน พร้อมผู้เล่นอีก 14 ราย โดยสองแข้งซูเปอร์อย่าง ราฟาเอล เฮมมี่ และชิมิสุ คาซูยะ ที่ค้าแข้งในสเปนได้แยกเดินทางมาถึงก่อนหน้านี้แล้ว ก่อนจะมีเกมอุ่นครื่องกับทีมฟุตซอลไทย 2 นัดในวันที่ 1 ก.พ.และ 3 ก.พ.นี้
โดย บรูโน่ การ์เซีย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมก่อนทีมว่า เรายังไม่ได้รวมทีมกันเลยเพราะลีกเพิ่งจะปิด และตัวจากสเปนก็บินมารวมกันที่เมืองไทย แต่ก็จะใช้เวลา 2 วันก่อนการแข่งขันในการฝึกซ้อม ปรับจูนทีมให้เร็วที่สุด
“การอุ่นเครื่องครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี ที่ทีมจะได้เคลื่อนไหว ตนรู้ดีว่าทีทมชาติไทยมีความแข็งแกร่ง พวกเขาเป็นทีมในระดับสุดยอดเอเชีย การแข่งขันจึงน่าจะออกมาสนุกแน่นอนทั้งสองนัด”
เมื่อถามถึงเป้าหมายกับการอุ่น 2 เกมนี้ การ์เซีย ก็เผยว่า เรามีความตั้งใจมาเต็มที่ การเจอกับไทยไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เราจะทำให้ดีที่สุด และคาดหวังที่จะเอาชนะไทยมให้ได้ทั้งสองเกม
สำหรับขุนพลทีมโต๊ะเล็กญี่ปุ่นชุดนี้ประกอบด้วย ฮีกอร์ ปีเรส (GK), โชโก ฮิยามะ (GK),ฮิเดคาซุ ชิรากาตะ,เรียวทาโร่ ชิรากาตะ ,อาคิระ มินาโมโต้ ,โทโมกิ โยชิกาวา ,ราฟาเอล เฮนมิ ,มานาบุ ทาคิตะ ,คาโอรุ โมริโอกะ ,นิบูยะ คาซูชิโร่,ฮาชิโมโต้ มาซายะ ,ฮิราตะ มัสซาโนริ ,มินามิ คาโต้,กาคุ มิยาซากิ,เคตะ อิโต้ และ ชิมิซุ คาซุยะ