เมื่อเวลา 09.40 น.วันที่ 19 ธค ที่วัดท่าการ้อง ม 8 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้มีพิธีปลงผมศรราม น้ำเพชร หรือศรราม อเนกลาภ พระเอกลิเกชื่อดัง มีบรรดาแม่ยกและแฟนคลับ ตลอดจนญาติสนิทมิตรสหายนับพันคนพากันมาร่วมงาน โดยศรราม หรือแบ๊งค์ ซึ่งอยู่ชุดขาวได้นำพานพวงมาลัยดอกไม้ เข้าไปกราบที่เท้าของมนต์รัก เอนกลาภ บิดา และดวงแก้ว ลูกท่าเรือ ผู้เป็นแม่ เพื่อขออโหสิกรรม โดยมนต์รัก และดวงแก้วได้ใช้มือลูบศรีษะของลูกชายด้วยความเอ็นดู ขณะเดียวกันศรรามยังได้กราบอโหสิกรรมกับบรรดาผู้ใหญ่ที่นับถือ ซึ่งมีทั้งญาติพี่น้องและแม่ยกที่นับถือ โดยแบ่งเป็นสามชุด ๆละ 10 คน จากนั้นจึงเริ่มการปลงผม โดยพ่อของศรราม เป็นผู้ปลงผมก่อน จากนั้นให้แม่ได้ปลงเป็นคนที่สอง ซึ่งสังเกตเห็นพ่อและแม่ถึงน้ำน้ำตาซึมด้วยความดีใจ และก้มลงหอมแก้มลูกชาย จากนั้นเป็นบรรดาญาติผู้ใหญ่และแฟนคลับทยอยกันปลงผม ซึ่งมีผู้มาร่วมงานประมาณ 1 พันคน ซึ่งใช้เวลาในการปลงผม และอาบน้ำให้นาคนานกว่า 1 ชั่วโมง จนกระทั่งเวลา 11.00 น.เศษ นาคศรราม เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และขึ้นรถยนต์เปิดประทุนยี่ห้อเชฟโรเลต สีชมพูอ่อน รุ่น อีพาร่า 1962 ที่เตรียมเอาไว้ โดยมีพ่อและแม่นั่งข้างไปด้วย จากนั้นได้แห่นาคศรรามไปยังพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทุ่งภูเขาทอง เพื่อสักการะ โดยมีบรรดาญาติและแฟนคลับจำนวนมากนั่งรถรางล้อยาง จำนวน 9 คัน ติดตามด้วยรถชอปเปอร์อีก 30 คัน และรถอื่นๆกว่า 20 คันทำให้ขบวนมีความยาวอย่างมาก โดยศรราม กล่าวหลังพิธีปลงผมว่า รู้สึกดีใจที่ได้ทำหน้าที่ของลูก และพร้อมแล้วที่จะเป็นพระภิกษุ โดยตั้งใจท่องจำการเข้าพิธีบรรพชามาอย่างดี โดยจะนำบุญมาเผื่อแผ่ญาติโยม โดยเฉพาะบุญครั้งนี้ต้องการที่จะให้กับพ่อและแม่ที่ทำให้ตนได้เกิดมา โดยตนตั้งใจที่จะศึกษาและปฎิบัติตามพระวินัยและคำสอนอย่างเคร่งครัด ด้านมนต์รัก ผู้เป็นพ่อ กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจในตัวลูกที่อายุไม่กี่ขวบก็สามารถเล่นลิเก และสืบสานอาชีพของพ่อแม่ได้ และเขาเป็นเด็กตั้งใจเรียนรู้สิ่งต่างๆ โดยนาคศรราม มีความคิดที่จะสืบสานลิเกต่อจากพ่อแม่ แต่อาจจะเปลี่ยนรูปแบบ เพื่อให้ลิเกไทยอยู่ได้ อีกทั้งยังอยากที่จะให้ลิเกไทยโกอินเตอร์ หลังจากนำนาคศรราม กลับเข้าวัดแล้ว ได้มีพิธีทำขวัญนาคในช่วงบ่ายโดยใช้หมอทำขวัญ 4 คน ได้แก่ ไวพจน์ เพชรสุพรรณ ทศพล หิมพาน ศรีไพร ไทยแท้ และยิปซี ศรีสาคร จากนั้นจะมีงานฉลองนาคตอนเย็น และนำนาคบวชในวันที่ 20 ธค เวลา 15.00 น. ดร.กรเอก มีสมบัติดี รองผอ.ร.ร.เทศบาลวัดเขียน ในฐานะที่ปรึกษาของพ่อและแม่ในการจัดการบวชครั้งนี้ ยืนยันว่าได้มีการหารือกับทางเจ้าอาวาสและพ่อแม่แล้ว ในเรื่องการแจกทานซึ่งยืนยันว่ามีเงินที่แม่ยกและของพ่อแม่รวมแล้วถึงล้านบาท แต่จะแบ่งการแจกทานเพียง 1 ส่วนแต่ก็หลายแสนบาท ส่วนอีกสองส่วนจะถวายให้กับวัดท่าการ้อง และถวายพระจำนวน 89 รูปเพื่อเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งคิดว่าจะมีจนท.ตำรวจทหารมาคอยดูแลไม่ให้เกิดอันตราย โดยการแจกทานนั้นก็จะแจกในช่วงเดินระยะ 2 ก.ม.ไปตลอดทาง ก่อนเข้าโบสถ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการปลงผม ได้มีคนร้ายเข้าไปกระชากสร้อยของนางเพ็ญศรี ศรีเกษม อายุ 65 ปีแฟนคลับ ซึ่งสวมสร้อยหนัก 3 บาท แต่ไม่สามารถเอาไปได้ โดย ร.ต.ท.จินดา ดีรุ่ง รองสวป.สภ.พระนครศรีอยุธยา วิ่งไล่ติดตามไปแต่ไม่ทัน โดยคนร้ายขี่จยย.หลบหนี จนท.จะได้ดูกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป