ความคืบหน้ากรณีลูกช้างป่าภูวัวเพศเมียวัยประมาณ 3 เดือน(แน่นอนแล้ว)ลงมาหากินกับแม่ แล้วเกิดพลัดตกบ่อส้วมลึกประมาณ 1.5 เมตรเช้าบ้านและเจ้าหน้าที่ช่วยขึ้นมาได้หลังจากแม่และโขลงพยายามช่วยแต่ไม่สำเร็จจึงทิ้งลูกน้อยหนีกลับคืนเข้าป่า แม้เจ้าหน้าที่จะพยายามนำช้างไปล้อมคอกไว้ชายป่าหวังให้แม่มารับกลับเข้าโขลงก็ไม่เป็นผลสำเร็จเมื่อสองวันก่อน เหตุเกิดในป่าสวนยางพาราท้องที่บ้านโนนไพศาลหมู่ที่ 5 ต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ จึงจำเป็นย้ายช้างน้อยไปดูแลอย่างใกล้ชิดโดยทำคอกชั่วคราวติดมุ้งและพัดลมให้ที่หน่วยพิทักษ์ป่าโคกกว้าง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ล่าสุดผู้ว่าฯ บึงกาฬนำคณะรุดเยี่ยมลูกช้างที่มีบาดแผลหลายแห่งพร้อมคำแนะนำ โดยมีสัตว์แพทย์จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 อุดรธานีมาดูและให้ให้นมช้างอย่างใกล้ชิด ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 8 เม.ย.ที่หน่วยพิทักษ์ป่าโคกกว้าง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.บึงกาฬ นางกุสุมาล พงษ์สิทธิถาวร นายกเหล่ากาชาด นายพีรวัส เมฆิน ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดบึงกาฬ ดร.สมพร พรวิเศษศิริกุล ปศุสัตว์จังหวัดบึงกาฬ และนายอุดม อยู่อินไกร นายอำเภอบุ่งคล้า ได้รุดเข้าเยี่ยมดูอาการของช้างน้อยซึ่งมีชื่อว่า “ชบาแก้ว”ที่คอกชั่วคราวภายในหน่วยพิทักษ์ป่าโคกกว้าง ภายหลังจากนำขึ้นจากบ่อส้วมบ้านพักของ นายสุธี วงศ์จันทะ อายุ 62 ปีชาวสวนยางพาราบ้านโนนไพศาลที่พลัดตกลงไปแล้วนำไปทำคอกชั่วคราวติดชายป่าหวังให้แม่มารับกลับเข้าโขลง 2 วันผ่านไปไร้วี่แววแม่มารับ จึงจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายไปดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากช้างน้อยอ่อนเพลียไม่ได้ดื่มนมและน้ำเท่าที่ควร ประกอบกับมีบาดแผลบริเวณหลัง หัวกะโหลก สะโพกหลังขวา และบริเวณสะดือที่เน่า แต่ไม่มีอาการติดเชื้อ โดยมี สพญ.ทักษิณา จารุวัฒนานนท์ สัตวแพทย์ประจำ สบอ.10 อุดรธานีมาล้างทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือและทาแผลด้วยเบตาดีน จากการตรวจสอบอย่างละเอียดจึงทราบแน่นอนว่าเป็นลูกช้างเพศเมีย อายุ 2-3 เดือน สูง 88 ซม.ยาว 100 ซม.น้ำหนัก 76 กก. ยังไม่แข็งแรงเต็มที่ประกอบกับการพลัดพรากจากแม่จึงต้องป้อนนมทุกๆ 3 ชั่วโมง หลังจากดื่มนมดื่มน้ำเสร็จก็จะนอนพักผ่อนหากไม่มีคนรบกวนก็จะหลับยาว 2-3 ชั่วโมง ส่วนมีกระแสข่าวว่าได้เรี่ยไรหรือขอบริจาคเงินซื้อนมอย่างดีมาให้ลูกช้างดื่มนั้น ผวจ.บึงกาฬ กล่าวว่าได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดหานมสำหรับป้อนให้กับลูกช้าง ซึ่งมีปริมาณที่เพียงพอโดยไม่ได้มีการเรี่ยไรหรือรับบริจาคแต่อย่างใด ทางด้านนายทวีป คำแพงเมือง หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์ป่าภูวัว ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวจังหวัดบึงกาฬว่า ภายหลังจากที่ย้ายมาอยู่ในคอกชั่วคราวที่หน่วยพิทักษ์ป่าโคกกว้างเมื่อเย็นวานนี้ ช้างน้อยหรือในชื่อ”ชบาแก้ว” มีอาการอ่อนเพลียคงเกิดจากการได้ดื่มนมและน้ำในปริมาณไม่เพียงพอหลังจากที่พลัดพรากกันกับแม่ช้าง ประกอบกับมีแผลตามลำตัวและที่สำคัญที่สะดือมีหนอง จะเกิดอาการคันตามแผลสังเกตมัดจะเอาตัวและท้องไปถูกับราวคอกหรือพื้นที่ปูด้วยฟางข้าว แต่หลังจากหมอสัตวแพทย์มาล้างแผลให้ใส่ยารักษาและได้ดื่มนมขนาดบรรจุ 1.5 ลิตรแล้วช้างน้อยชบาแก้วมีอารมณ์ดีขึ้นสังเกตจากมีการโบกสะบัดใบหูไปมาและขี้เล่นกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะต้องดูแลอยู่ที่นี่อีกประมาณ 1 เดือนและมีการลงบันทึกการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตลอดเวลา จากนั้นจึงจะมีการประเมินค่าอีกครั้งหนึ่งว่าจะนำไปปล่อยเข้าโขลงหรือจะดูแลต่อต้องดูสุขภาพช้างเป็นหลัก และวันนี้ก็ได้นำตาข่ายสีฟ้ามาเย็บทำเป็นมุ้งกันแมลงมารบกวน โดยเฉพาะแมลงวันที่มาตอมหรือว่างไข่ในบาดแผล นอกจากนี้ยังได้นำพัดลมมาพัดให้ความเย็นกับช้างน้อยที่อากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าวในตอนกลางวัน เพื่อให้ชบาแก้วได้มีสุขภาพแข็งแรงฟื้นตัวเร็วขึ้น โดยมีนายธวัชชัย นันทะแสน ผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 (อุดรธานี) มาควบคุมดูแลด้วยอย่างใกล้ชิด. นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี//บึงกาฬ