ชัยวัฒน์ สุรวิชัย การประชุมจรยุทธของผู้นำนักศึกษาศนท.ที่ต้องเปลี่ยนสถานีบ่อยๆ เนื่องจากสันติบาลเฝ้าตาม ซึ่งบางครั้ง ก็ต้องใช้ การประชุมบนรถตู้ ฯลฯ ที่สามารถได้ ข้อสรุปในการเคลื่อนไหว และในบางครั้ง เมื่อคิดอะไรไม่ออก ก็จะไปพักผ่อนกันแถวบางแสนศรีราชาและระยอง ไปกินไปนอนกัน และในสภาพที่ใจสงบ ท่ามกลางอากาศสดชื่นของลมทะเลและหุบเขา ก็ได้ความคิดดีๆออกมา ในเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 ตั้งแต่คืนวันที่ 13 ตุลา หลังจากออกไปจากหน้าโรงเรียนพลตำรวจบางเขน ที่แยกกันไป ก็ได้ไปพบกันที่แถวสวนจิตร ที่ถูกน้องๆบางคน “ กั้น “ ไม่ให้เข้าร่วมประชุม เพราะไม่แน่ใจแต่ธีรยุทธ ก็ได้แสดงความกล้าหาญ เดินฝ่าชุดคุ้มกัน เข้าไปพูดกับเสกสรร และขึ้นพูดบนรถต่อหน้าฝูงชน และผมได้พูดตามหลัง เน้นย้ำถึงความรักความสามัคคีและความเป็นหนึ่งเดียวกัน ที่จะร่วมกันสู้ ฯได้หลบภัยอนาจเผด็จการ เข้าไปในสวนจิตร และได้มีโอกาสพิเศษฯ ร่วมกับประสาร ไตรรัตน์วนกุลเดินออกมาด้วยกัน หลังจากประสานงาน ให้สำนักราชวัง เอารถบัสมารับนักศึกษาออกไปอย่างปลอดภัยไปพักที่บ้านคนรู้จัก เพื่อพักผ่อนและสรุปว่า “ จะต้องทำอะไรต่อไป “ โดยแยกย้ายกันไปธีรยุทธ ก็ได้มีบทบาทสำคัญ ในการประสานกับผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ในการหาทางออก ในครั้งนั้นฯและหลังจากนั้น ก็ได้ร่วมกับ ดร.สมบัติ เลขาธิการศนท. ร่วมสานต่อการแก้วิกฤต ก่อนไปพักด้วยกัน บทบาทของอ.ธีรยุทธ นักเคลื่อนไหวนักวิชาการที่ซื่อสัตย์ต่อตนเอง ประชาชนและประเทศชาติ เท่าที่พอประมวลอย่างคร่าวๆ คือ 1. เป็นคนรักในความรู้ สนใจศึกษาวิชาต่างๆที่สำคัญเกินตัวในคนรุ่นเดียวกัน โดยจะศึกษาเรียนรู้ล่วงหน้า เช่น เข้าใจ Calculus คณิตศาสตร์ชั้นสูง และ E = MC2 ตั้งแต่เรียนมัธยมฯ มองสถานการณ์เหตุการณ์ล่วงหน้าได้ค่อนข้างแม่ยำ ฯ จากการอ่านมากคิดเป็น ทั้งตำราไทยฝรั่ง ฯลฯ 2. การมีโอกาสที่ดีได้คุยแลกเปลี่ยนและรับฟังความคิดความเห็นจากผู้รู้ผู้หลักผุ้ใหญ่ของบ้านเมืองเป็นประจำ โดยได้สองส่วน ทั้งการได้ความคิดดีๆ และการนำเสนอประเด็นที่แหลมคมต่อผู้เกี่ยวข้องกับบ้านเมือง 3. ความคิดชัดคม จากการประยุกต์ ความรู้ในห้องสมุดจากตำราและสภาพที่เป็นจริง ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และการปฏิบัติที่เป็นจริง รวมทั้งการสรุปบทเรียนในการทำงานที่ผ่านมา 4. นำเสนอประเด็นที่สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละช่วง อย่างเป็นรูปธรรม เสนอต่อสังคม ให้เข้าใจได้ง่าย 5. มีข้อมูลค่อนข้างถูกต้อง โดยการจำแนกข้อมูลที่ได้รับมาจากแหล่งข่าวโดยตรงและอ้อม ตัดข่าวไม่ชัดออก และการอ่านสถานการณ์และแนวโน้ม ที่มีความเป็นไปได้ 6. มองทิศทางอนาคตชัด เพราะการมีความรู้ความคิดและความจัดเจนที่สะสมมาตลอด ตั้งแต่เป็นนักศึกษา ในการเป็นผู้นำนิสิตนักศึกษา การเห็นภาพของการปราบปรามนักศึกษาประชาชนล่วงหน้าชัด ในปี 2519 เพราะปัจจัยภายในของขบวนการนักศึกษาประชาชน และขบวนการขวาจัดของกลุ่มอนุรักษ์ จึงนำเสนอให้เดินทางไปชนบทในวันที่ 7 สิงหาคม 2519 และเมื่ออยู่ในสนามการต่อสู้ที่ปฏิวัติ ก็ได้กระซิบบอกผมว่า “ สหายสุข เราไม่มีทางชนะ “ ตั้งแต่ปี 2520 จากการได้เห็นและเข้าใจการทำงานของพรรคนำฯปี 2545 หลังจากทักษิณ ตั้งพรรคไทยรักไทย และรวบรวมพรรคใหญ่กลางเล็ก เข้ามาเป็นรัฐบาลพรรคเดียว อาจารย์ธีรยุทธ พร้อมเสื้อกั๊ก ก็ได้ออกมานำเสนอ “ ความคิดระบอบทักษิณ “ ( ซึ่งผมได้จัดพิมพ์ ) เป็นหนังสือที่รวบรวมความคิดของธีรยุทธ บุญมี แลผม ( ชัยวัฒน์ สุรวิชัย ) เกี่ยวกับทิศทางข้างหน้าฯ และกรณี การเคลื่อนไหวใหญ่ประชาชนเรือนล้าน กปปส. ธีรยุทธ ซึ่งได้มีโ อกาสคุยประจำกับกำนันสุเทพฯ ก็มองออกว่า “ แม้มีพลังประชาชนมากมาย แต่ขาดอำนาจเด็ดขาด ที่จะเอาชนะด้วยตนเองไม่ได้ ฯลฯ 7. แน่วแน่ มั่นคง เอาใจจดจ่อ เป็นลักษณะการทำงานที่โดดเด่น และ ยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม จากการเป็นคนอุดมคติที่ไม่หยุด ไม่ยอมแพ้ แต่ก็เป็นคนติดดิน ยึดความเป็นจริง จึงต้องทำตามสภาพและเงื่อนไขที่มี ซึ่งแม้ว่า เงื่อนไข ยังไม่พอสำหรับประชาชนที่จะก้าวไปสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริงแต่ที่สำคัญกว่า “ คือ การทำและได้ทำ สิ่งที่ถูกต้องให้กับส่วนรวมและบ้านเมือง “ ของอาจารย์ธีรยุทธ บุญมี บทสรุปปิดท้าย แม้อาจารย์ธีรยุทธ จะเป็นคนเก่งมีความรู้ประสบการณ์ การเชี่ยวชาญชำนาญในเรื่องของวิชาการและการบ้านการเมือง เป็นเพื่อนรุ่นน้อง ที่ผมเคารพนับถือ เชื่อใจและไว้ใจได้ จากการผ่านความเป็นความตายมาด้วยกันแต่ เรา “ ธีรยุทธ กะ พี่จิ๊บ “ หรือ “ สหายชัยชนะ กะ ส.สุข ชมจันทร์ “ ก็ยังมีความคิดความเห็นของตน ส่วนใหญ่เห็นตรงกัน คือ ผมเห็นตามหรือเห็นด้วยกับธีรยุทธ แต่ก็มีบางส่วนที่มองต่างมุมกันเพราะช่วงหลัง ผมได้สรุปบทเรียนของตน และหลักการที่ดีของมิตรร่วมอุดมการณ์บางส่วน และการได้มีข้อมูลตรง จากระดับบนกลางและล่าง และการพิจารณารูปธรรมอย่างเป็นจริง ถึงการเคลื่อนไหวที่เกิดประโยชน์ อย่างเป็นจังหวะก้าว เพื่อยกระดับและพัฒนาคนและผู้นำไปด้วยซึ่งเราก็เคารพรัก ไว้วางใจและเชื่อใจ ในความรักและมิตรภาพ ที่สร้างกันมาด้วยเลือดเนื้อและชีวิตตลอดเวลา “ Golden Years “ ร่วม 50 ปี และจะต่อไปถึง “ Jewelry “ หรือไม่ ก็ยากแล้วแต่ที่ต่างกันอีกอย่างหนึ่ง คือ “ ผม ไม่ลืมแปรงสีฟันและแว่นตา “ เหมือนกับอาจารย์ธีรยุทธ @ ดีใจและยินดีที่สุด ที่เกิดมาเป็น “ พี่จิ๊บ “ มีเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่ง อย่าง “ ธีรยุทธ ลูกจ่าฉิม บุญมี” ในโอกาสวันที่ 10 มกราคม 2560 เป็นวันเกิดครอบรอบ 67 ปี ของอาจารย์ธีรยุทธ บุญมี “ขอให้” ธีรยุทธ แข็งแรง มีความสุข และอยู่กันด้วยรักและมีความสุขกับ ตุ๊ก และครอบครัว” ชีวิตนี้ เกิดมา ได้ทำอะไรมาไม่น้อย ตายวันนี้พรุ่งนี้ ก็คุ้มแล้ว สหายเอ๋ย และคืนนี้ คงจะได้กินอาหารอร่อยๆที่สุด บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง ที่สำคัญที่สุด เฉพาะคนรู้ใจ @ กินวันนี้ ปีหน้ายังไม่รู้จะเป็นอย่างไร เพราะ ปีระกา ไก่ตัวนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ แล้วคนไทยจะรู้สึก เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ ต้องพูดถึง ความสำคัญและความจำเป็นของการมีเพื่อน นกมีขน คนมีเพื่อน เกิดเป็นคนอยู่คนเดียวก็เปลี่ยวจิต จำต้องคิดหาหาเพื่อน เพื่อนแท้เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม อยู่คนเดียวไม่ได้ ต้องมีเพื่อนที่ร่วมผลิต ร่วมทำงานร่วมกินร่วมตาย ฯลฯจึงต้องมีความสัมพันธ์พึ่งพากัน เพื่อให้อยู่ได้อยู่ดี ทำงานหรือคิดค้นประดิษฐ์สร้างสรรค์สิ่งที่ใหม่และดีได้เราไม่ได้เก่งหรือมีครบทุกอย่าง ความสำเร็จทุกอย่าง ไม่ว่าเรื่องงานหรือส่วนตัว จึงทำคนเดียวไม่ได้จำเป็นต้องอาศัย ความร่วมมือ และร่วมใจจากคนอื่น ในส่วนที่ขาด เพื่อให้ครบถ้วนบริบุณณ์ การมีเพื่อนที่ดี หลากหลาย และที่สำคัญเพื่อนรักเพื่อนแท้เพื่อนตาย จึงจำเป็นที่สุด การสร้างเพื่อนที่ดี เพื่อนแท้ เพื่อนแห่งอุดมการณ์ ต้องแสวงหา ต้องให้ ( ความรัก ความคิดฯ ) ก่อนอื่น เราต้องเห็นความจำเป็นที่จะต้องมีเพื่อน เพื่อนที่ดี เพื่อนแท้ เพื่อนแห่งอุดมการณ์ก่อนคนเราเห็นความสำคัญของการเรียน การทำงาน การประกอบอาชีพ การสร้างฐานะ ฯลฯเพราะ สิ่งเหล่านี้ มีประโยชน์มีคุณค่าต่อเรา ในการทำให้เราอยู่ อยู่ได้ดี อยู่อย่างมีสุขแต่สิ่งที่มีความหมายหมายที่สุด ที่จะมีคุณค่า มีความหมาย คอยช่วยเหลือสนับสนุนเราฯ คือ “ เพื่อน “เพราะ สามารถให้เราได้ทุกอย่าง ในสิ่งที่เราขาด สิ่งที่เราต้องการ ในยามจำเป็นและยากลำบาก ฯเราต้องแสวงหา “ เพื่อน” เริ่มต้นด้วยการให้ความรักความคิดความเข้าใจและความปรารถนาที่ดี “ และการช่วยเหลือสนับสนุนซึ่งกันและกันในสิ่งที่ขาด เพื่อเติมเต็มทั้งสองฝ่ายให้สมบุรณ์ให้ฝ่าฟันอุปสรรคไปได้จงเป็นเพื่อนที่ดีต่อเพื่อน ไม่ว่าเขาจะทำดีหรือทำไม่ดี มองเพื่อนตามความเป็นจริง เพราะทุกคนไม่สมบูรณ์แบบ และมีการเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์เราจึงต้องคิดถึงข้อดีเป็นหลัก และช่วยเหลือปรับปรุงทัศนะและข้อผิดพลาดของเขาชักนำและนำนำในทางที่ดี ที่ถูกที่ควร คอยเตือนซึ่งกันและกัน เมื่อฝ่ายหนึ่งทำผิด การช่วยเหลือเพื่อนที่ถูกคือ ให้ เขาสามารถพึ่งตนเอง และยืนได้ด้วยตนเอง ด้วยความปรารถนาที่ดีต่อกันต้องรู้จักพูด “ ขอบคุณและขอโทษ “ เมื่อเพื่อนทำอะไรให้ และเมื่อเราทำอะไรผิดเปิดใจพูดและเต็มใจฟัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือไม่ดี เพราะจะได้รับรู้และเข้าใจกัน ไม่เข้าใจผิดนี่คือเพื่อนที่ดี และหากเพื่อนมีความคิดมีอุดมคติร่วมกัน ยิ่งจะร่วมกันทำและนำพาไปสู่ความสำเร็จร่วมกัน ตอนนี้ เรามีเพื่อนแท้แล้วหรือยัง แล้วลองคิดถึงเพื่อนสนิทของท่านดู และจงรักษาความรักความสัมพันธ์กันไว้ให้แน่นแฟ้น พัฒนาความรักความปรารถนาดีระหว่างกัน ในทุกช่วงของกาลเวลา เพื่อเดินไปด้วยกัน ในเส้นทางคดเคี้ยวเลี้ยวลด ที่แสนยากลำบากและเต็มไปด้วยอุปสรรคนานา โดยเฉพาะหากรักแผ่นดินมาก ก็จะผ่านความเจ็บปวดมาก เพราะเราต้องเดินก้าวไป แต่เดินไปอย่างมีความสุข ในสิ่งที่ได้ทำ แม้ยังไม่บรรลุ เคยพุดและเขียนประโยคนี้ออกมา เพื่อนที่ฟังคนที่อ่าน จะหายใจยาวกว่าปกติ เพราะมันเป็นความจริงของชีวิต“ คนที่มีอุดมคติมักจะต้องเสียสละ และต้องเสียสละไปตลอดชีวิต ไม่มีจบไม่มีหมด "แต่เป็นการเสียสละ ที่มีความสุข เต็มหัวใจ ในการคิดดีทำดีต่อคนอื่น ชุมชน สังคมและบ้านเมืองฉะนั้น สำหรับเพื่อนแห่งอุดมการณ์ ( ที่มีอีกมากมายหลายคน ) จะน้อยกว่านี้ ได้ไง ขอให้ท่าน แสวงหา “ เพื่อนสนิทเพื่อนร่วมเป็นร่วมตาย “ ไว้อย่างน้อย 1 คน : ชีวิตก็จะมีความหมายแล้ว"