ปัจจุบัน “ขนตาปลอม” เปรียบเสมือนอวัยวะที่ 33 ของผู้หญิง เพราะลำพังการแต่งหน้าเพียงอย่างเดียวเหมือนว่าจะสวยไม่สุด สมัยนี้สาวๆ ที่รักสวยรักงามจะไม่ปล่อยให้ดวงตาโล่งเตียนเป็นอันขาด ฉะนั้น “ขนตาปลอม” เลยกลายเป็นไอเท็มชิ้นสำคัญบนโต๊ะเครื่องแป้งที่ขาดไม่ได้“บอกต่อ” คือ แบรนด์ขนตาปลอมของคนไทยที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในพ.ศ.นี้ จัดจำหน่ายโดย บริษัท บอกต่อคอสเมติกส์ จำกัด บริหารงานโดยคนรุ่นใหม่ คุณชลธิชา ศรีแสวง หรือคุณปราง ซีอีโอสาวไฟแรง ดีกรีปริญญาโท คณะเภสัชศาสตร์ สาขาเภสัชอุตสาหกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คุณปราง เผยที่มาของการทำธุรกิจว่า ช่วงที่เรียนปริญญาโท เคยขายของออนไลน์ จำพวกครีมทาหน้า สบู่ล้างหน้า ยาลดความอ้วน โดยลักษณะรับมาขายไป ขายได้ 4 เดือน เริ่มมองหาสินค้าใหม่มาทำตลาดโดยคิดว่า ขายอะไรที่ร้านอื่นไม่ขาย หาความแตกต่าง กระทั่งสรุปว่า “ขนตาปลอม” ในขณะนั้นราวปี 2554 เป็นสินค้าที่ร้านค้าออนไลน์ยังไม่นิยมนำมาจำหน่าย คุณปราง รับขนตาปลอมมาขายในอินสตาแกรม (IG) โดยเธอใช้วิธีจูงใจลูกค้าด้วยการรีวิวสินค้าเอง ให้คนซื้อเห็นว่าเจ้าของร้านใช้จริง ขายใน IG ราว 5 เดือน ฟีดแบกดีมาก กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นพริตตี้ นักศึกษา และช่างแต่งหน้า ซีอีโอสาวเลยตัดสินใจสร้างแบรนด์ขนตาปลอมเป็นของตัวเอง โดยนำปัญหาที่พบเจอจากการพูดคุยกับลูกค้ามาสร้างสรรค์แบบขนตาปลอมและศึกษาวัตถุดิบอย่างลึกซึ้งรวมถึงการออกแบบพัฒนารุ่นใหม่ๆเป็นแบบเฉพาะของแบรนด์เอง เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มให้ได้มากที่สุด จนส่งผลให้รายได้ทะยานขึ้นหลักแสนต่อเดือน “จุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดแบรนด์ขนตาปลอมบอกต่อ คือ ลูกค้าเข้ามาอุดหนุนเยอะมาก สินค้าของเราใช้ดีเกิดการบอกแบบปากต่อปาก เลยคิดชื่อที่คนไทยจำง่าย เข้าใจง่าย พูดติดปาก คำๆ นั้น คือ บอกต่อ เพราะคำว่าบอกต่อ มักจะได้ยินอยู่เสมอในกรณีที่สินค้าตัวนั้นใช้ดี อะไรดีก็มักบอกต่อกัน อะไรที่ไม่ดีก็ยิ่งบอกต่อกันอย่างรวดเร็ว” ขนตาปลอมบอกต่อ เป็นแบรนด์ขนตาปลอมที่เกิดขึ้นราวปี 2555 ด้วยความพยายามและตั้งใจสรรหาแบบขนตาที่หลากหลาย ทำให้ปัจจุบันขนตาปลอมบอกต่อเป็นแบรนด์อันดับหนึ่ง ที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจ พอติดแล้วก็จะเป็นขนตาปลอมที่ดูไม่ปลอม มีแบบขนตาปลอมให้สาวๆ เลือกมากมายถึง 90 เบอร์ สินค้าทุกชิ้นต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพก่อนถึงค่อยนำมาออกสู่ตลาด สำหรับวัสดุที่ใช้ผลิตขนตา ซีอีโอสาว ระบุว่า มี 2 ชนิด คือ เส้นผมสังเคราะห์คุณภาพสูง เรียงเส้นเหมือนขนตาจริง ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่ม เบา สบาย ปราศจากการระคายเคือง และ เส้นผมจริง โดยใช้วิธีจ้างโรงงานที่ประเทศจีนและอินโดนีเซียผลิต แต่ละเดือนราวหลายแสนคู่ โดยบางรุ่นออกแบบเอง ส่วนคุณภาพและความปลอดภัยได้มาตรฐานสากล ด้านการทำตลาด กรรมการผู้จัดการ ระบุว่า บอกต่อคอสเมติกส์ บุกตลาดประเทศเพื่อนบ้านด้วยวิธีไปออกงานอีเว้นต์ ไปเวิร์กชอปให้ความรู้สาวๆ และช่างแต่งหน้าเรื่องการติดขนตาปลอมว่าไม่ได้ยากอย่างที่คิด อีกทั้งบอกประโยน์ของการติดขนปลอมว่าสามารถเพิ่มความสวยงามให้กับใบหน้าได้ด้วย เพราะจุดเด่นของใบหน้ามักอยู่ที่ดวงตา ฉะนั้นการเสริมเสน่ห์กับดวงตาให้งดงามนั้น ย่อมเป็นที่ต้องการของผู้หญิงทุกคน โดยประเทศที่เข้าไปแล้วมี ประเทศลาว พม่า ฟิลิปินส์ อินโดนีเซีย กัมพูชา มาเลเซีย สิงค์โปร บรูไน เวียดนาม ปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่ายเกือบทั่วทั้ง AEC กลุ่มลูกค้าเอเชียชอบขนตาที่ติดแล้วดูเป็นธรรมชาติและขนตาเจ้าสาวติดแล้วสวยเหมือนเจ้าหญิง ด้านการเติบโตของธุรกิจขนตาปลอม ซีอีโอสาว ตอบว่า ธุรกิจเติบโตขึ้นทุกปี ปัจจัยที่ผลักดันให้ธุรกิจนี้โต คือ ความไม่หยุดสวยของผู้หญิง โดยเฉพาะตลาดเพื่อนบ้านที่เพิ่งหันมาสนใจเรื่องบุคลิกภาพ และจากการที่ได้เจาะตลาดประเทศใกล้เคียง ทำให้รู้ว่าลูกค้าส่วนใหญ่ชอบฝีมือช่างแต่งหน้าคนไทย ทางบอกต่อเลยคิดโปรเจ็คต์ที่ชื่อว่า MAKE ME UP เป็นโปรเจ็คต์ที่เปิดโอกาสให้ช่างแต่งหน้าไทย ได้มีโอกาสแสดงความสามารถ ได้ทำอะไรที่ตัวเองไม่เคยคิดจะกล้าทำ และจะนำผลงานของทุกคนออกสู่ทั่ว AEC “ช่างแต่งหน้าเปรียบเสมือนคนในครอบครัวของขนตาปลอมบอกต่อ เราอยากสนับสนุนคนในครอบครัวของเราไปให้ไกล ไปให้ถึงฝันที่คนกลุ่มนี้วาดไว้ ฉะนั้นเลยเกิดโปรเจ็คต์ที่ชื่อว่า MAKE ME UPขึ้นมา บรรดาพี่ๆ น้องๆ ช่างแต่งหน้า จะได้มาโชว์ความสามารถให้เต็มที่ เพื่ออวดสู่สายตาชาวโลก” คุณปราง อธิบาย โปรเจ็คต์ที่ชื่อว่า MAKE ME UP เป็นความร่วมมือกัน ระหว่างบอกต่อกับช่างแต่งไทยฝีมือดี 18 คน เข้ามาแสดงความสามารถโชว์ศักยภาพในแบบของตัวเอง ถ่ายทอดผ่านคลิปวีดีโอนำไปเผยแพร่ต่างประเทศ โดยคลิปแรกของโปรเจ็คต์นี้จะเกิดขึ้นในโลกออนไลน์วันที่ 21 มกราคม 2560