นายกฯหอบคณะบินสุราษฎร์ เยี่ยมปชช.ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมใต้ ด้านผู้ว่าฯจ.สุราษฎร์ธานี รายงานตัวเลขความเสียหายสูง 1,900 ล้านบาท อ.พุนพิน-นาเดิม วิกฤติ นายกฯบอกสื่อเลิกสนใจอ่างบัว เมื่อเวลา 07.00 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)พร้อมด้วยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.รัฐมนตรีกลาโหม ผบ.เหล่าทัพ ผบ.ตร.นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)และคณะ เดินทางด้วยเครื่องบินแอมแบร์ไปตรวจราชการจ.สุราษฎร์ธานี เพื่อตรวจพื้นที่ประสบอุทกภัยและมอบเงินช่วยเหลือเยียวยา ทั้งนี้ เมื่อเดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร กองบิน 7 จ.สุราษฏร์ธานี โดยมีข้าราชการ ทหาร ตำรวจ มาให้การต้อนรับ ทั้งนี้ นายกฯ ยังได้กล่าวสั้นๆเมื่อถึงว่า "เป็นกำลังใจให้ทั้งทหาร ตำรวจ ร่วมชะตากรรมด้วยกันกับผม" จากนั้น นายกฯและคณะได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ บินตรวจพื้นที่ประสบอุทกภัย อ.พุนพิน อ.บ้านนาเดิมและอ.เคียนชา โดยก่อนขึ้นเฮลิคอปเตอร์ นายกฯได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า"อย่าสนใจเรื่องอ่างบัวมากนัก มาสนใจเรื่องน้ำท่วมดีกว่า"หลังจากตรวจนั้น เฮลิคอปเตอร์ได้บินกลับมายังกองบินที่ 7 ก่อนนายกฯและคณะได้ขึ้นรถทรานส์ฟอร์เมอร์ของปภ.ทะเบียน 4 กศ 4336 กรุงเทพหานคร เดินทางไปยังจุดบริการประชาชนโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ต.เขาหัวควาย อ.พุนพิน โดยระหว่างที่ขบวนรถนายกฯผ่าน ได้มีเต็นท์พักชั่วคราวของชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม ไม่สามารถอาศัยอยู่ในบ้านได้ รวมถึงสัตว์เลี้ยง เช่น วัว ที่ต้องนำมาเลี้ยงบนไหล่ทางเป็นการชั่วคราว ซึ่งขบวนรถของนายกฯ ได้ชะลอความเร็วเพื่อดูด้วย ทั้งนี้เมื่อ นายกฯและคณะ เดินทางถึงโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี นายอวยชัย อินทร์นาค ผู้ว่าฯจ.สุราษฎร์ธานี ข้าราชการและประชาชน ให้การต้อนรับ โดยนายกฯได้เดินทักทายประชาชน และเมื่อเดินมาถึงจุดบริการประชาชน ที่เปิดตรวจสายตาและตัดแว่นสายตาให้กับประชาชน นายกฯได้ลองสวมแว่นลองอ่านพร้อมถ่ายรูปร่วมกับเจ้าหน้าที่ ปภ.โดยนายกฯได้ชูสองนิ้ว จากนั้น นายอวยชัย ได้รายงานสถานการณ์ว่า จ.สุราษฎร์ธานี ประสบภัยน้ำท่วม 2 ช่วงคือเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.59และอีกช่วงวันที่ 5 ม.ค.จนถึงปัจจุบัน มีพื้นที่เดือดร้อน 18 อำเภอ 79,000 ครอบครัว 3 แสนกว่าราย โดยขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำลดลงตามลำดับ แต่พื้นที่ส่วนบนมีน้ำเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีฝนตกมากขึ้น ที่อ.นาเดิม พุนพิน และเคียนชา ได้รับผลกระทบ 2 พันครอบครัว ราษฎร์ได้รับผลกระทบ 5 พันราย โดยอ.พุนพินและนาเดิม ถือว่าวิกฤติ โดยจ.สุราษฎร์ธานีมีภาพรวมความเสียหาย 1,900 ล้านบาท ไม่รวม 3 อำเภอ และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 15 ราย ---ขอโทษคนใต้การช่วยเหลือล่าช้า ติดขัดการขนส่ง ชมคนใต้เป็นนักสู้ แนะคนทั้งชาติเอาเป็นแบบอย่าง เชื่อทำเมืองไทยไปโลด เล็งปรับผังเมืองใหม่ไม่ให้ขวางทางน้ำอีก จากนั้น นายกฯได้มอบเงินเยียวยาแก่ญาติผู้เสียชีวิตจ.สุราษฎร์ธานีรายละ 5 หมื่นบาท และจังหวัดอื่นๆ เช่น จ.นครศรีธรรมราช ปัตตานี พัทลุง ชุมพร นราธิวาส เป็นต้น โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นตัวแทนรับมอบ ต่อจากนั้นนายกฯได้ขึ้นเวทีกล่าวกับประชาชนตอนหนึ่งว่า วันนี้ถือว่าได้มาเยี่ยมเยือนถึงถิ่นของท่าน ทีแรกไม่ค่อยสบายใจคิดว่ามาจะเห็นบรรยากาศที่เศร้ากันทั้งหมด เห็นทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใสนี้แหละคนใต้ คนใต้เป็นคนสู้แบบนี้ และอยากให้คนไทยทั้งประเทศเป็นคนที่สู้แบบนี้ด้วย ต้องอดทนกับการแก้ปัญหากับบางอย่างที่คาดการณ์ไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าเราอดทนร่วมกันได้ มีจิตใจที่เข้มแข็งแบบชาวจ.สุราษฎร์ธานี ประเทศไทยไปโลดวันหน้าไม่ต้องกลัว นายกฯกล่าวว่า วันนี้เป็นการเยี่ยมเยือนในพื้นที่ โดยเฉพาะที่มาจ.สุราษฎร์ธานี เพราะความรักชาวจ.สุราษฎร์อยู่แล้ว และตรงนี้เป็นศูนย์บรรเทาส่วนหน้าของกระทรวงมหาดไทย ศูนย์ที่สองอยู่จ.สงขลา เพราะฉะนั้นรัฐบาลจะมากำกับดูแลนโยบาย และนำขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติ และมีปัญหาอะไรต้องรายงานตน ซึ่งที่ผ่านมามีการรายงานมาโดยตลอด เพียงแต่ว่าต้องขอโทษบางอย่างอาจจะช้าไปบ้างบางอย่างยังไม่ทั่วถึง เพราะติดขัดเรื่องการขนส่ง ทุกคนรู้ปัญหาดีอยู่แล้ว ปัญหาจของคนไทยก็คือการดำรงชีวิต เราไม่เหมือนประเทศอื่นในโลก เรารักบ้านรักช่องรักที่ทำกิน เพราะฉะนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นไปไหนไม่ได้ วันหน้าต้องคิดใหม่ว่าจะทำอย่างไร ทุกคนก็กลัวข้าวของ ทรัพย์สิน เงินทอง สูญหาย ตรงนั้นต้องมาคุยกันว่าจะทำอย่างไร วันนี้ให้ความสำคัญกับชาวใต้ทั้งหมด และขอบคุณผู้ว่าฯรายงานรายละเอียดได้อย่างลึกซึ้ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้น นายกฯได้แนะนำผู้ร่วมคณะ ทั้งรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง อธิบดี บอกทั้งหมดทำหน้าที่บูรณาการร่วมกันดูแลด้านต่างๆ ทั้งเรื่องของการเกษตร ถนนเส้นทางที่ซ่อมแซม และการสร้างเส้นทางเชื่อมต่อ เพื่อไม่ให้ถนนเพชรเกษมประสบปัญหาน้ำท่วมอีก ส่วนของกลาโหม ทหาร พลเรือน อาชีวะจะเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างการซ่อมแซมบ้าน ด้านของกระทรวงการคลังดูเรื่องของงบประมาณเยียวยาและงบฯที่ต้องใช้เพิ่มเติมที่พิจารณาไปตามกฎหมาย ส่วนเรื่องของผังเมือง นายกฯบอกถือว่าสำคัญที่ต้องมาวางผังเมืองให้ดี ทำอย่างไรไม่ขวางทางน้ำ ต้องขอความร่วมมือกับพวกเราด้วย ถ้าขวางทางน้ำวันหน้าก็ท่วมอีก วันหน้าก็ไม่มีทางระบายน้ำ ----คราญเห็นใจปชช.เดือดร้อน ลั่นขอทำทุกอย่างให้ดีที่สุด นายกฯ กล่าวว่า เมื่อเห็นรอยยิ้มว่ายังสู้อยู่ตนก็มีกำลังใจ เราทุกคนมีกำลังใจที่จะดูแลท่าน จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ขอใช้คำว่าดีที่สุด โดยที่ทุกอย่างต้องทำงานตามระเบียบ เห็นใจพี่น้องทุกคนที่เดือดร้อน วันนี้ไม่ใช่ที่นี่ที่เดียว มีอีกกว่า 6-7 ร้อยอำเภอ รัฐบาลได้เอาเรื่องทั้งหมดมาพิจารณา ความเสียหายขั้นต้นว่าจะทำอย่างไร บางอันจ่ายให้เป็นระเบียบ บางอันเป็นเงินกู้ ซึ่งปลัดกระทรวงการคลังก็มาอยู่ที่นี่ ตอนนี้กำลังพิจารณาในเรื่องการให้กู้อยู่ ตรงนี้คือมาตรการเสริม ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถชี้แจงได้ทั้งหมด ต้องรอให้สถานการณ์ดีขึ้นมากกว่านี้อีกนิด อันไหนทำได้ทำเลย มาตรการต่างๆจะรีบออกมา นายกฯ กล่าวว่า สิ่งที่ได้เห็นจากการนั่งเครื่องบินมา คือเรื่องระบบระบายน้ำ สันเขาทางตะวันตก ที่ขวางทั้งหมด หากมรสุมมาทางซ้ายก็จะติดตรงนี้ ต้องเข้าใจธรรมชาติก่อน ในหลวงรัชกาลที่9 และ รัชกาลที่ 10 รับสั่งเสมอว่าเราต้องเรียนรู้อยู่กับธรรมชาติให้ได้ ด้วยการบริหารงานของข้าราชการที่ต้องรู้สาเหตุปัญหา จากนั้นก็หาข้อมูลทางวิทยาศาสตร์วันนี้จับลงมาจากดาวเทียมทั้งหมด เห็นทุกพื้นที่ว่าน้ำจะมาจากที่ไหนบ้าง และลงมาสู่การสำรวจข้อเท็จจริงในพื้นที่ ก่อนหาข้อสรุป เหมือนหลักอริยสัจ4 ที่หาสาเหตุของปัญหา ไปสู่การดับทุกข์ นายกฯ กล่าวว่า วันนี้พื้นที่จ.สุราษฎร์ธานี ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรกร 49 เปอร์เซ็นต์ จะเห็นได้ว่าเราต้องพึ่งพาอาศัยกัน รัฐบาลทำงานบูรณาการ เปลี่ยนระบบข้าราชการใหม่ เพื่อแก้ปัญหาระยะยาว วันนี้เร่งรัดกำหนดการรับผิดชอบให้ชัดเจนขึ้น ที่ผ่านมาได้รับการายงาน ติดตามจากศูนย์บรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติที่ทำเนียบรัฐบาล ที่ตอนนี้กระทรวงมหาดไทยกำกับดูแล และผู้ว่าราชการจังหวัดรับผิดชอบ บูรณาการงานทุกกระทรวงในพื้นที่ ตนให้อำนาจไปแล้ว โดยต้องรู้งาน ความต้องการในพื้นที่ ----นายกฯ เผย มาตรการช่วยเหลือฟื้นฟู เป็นไปตามกฎเกณฑ์-ระเบียบ ระบุ เวลาแจ้งเตือนปชช.ต้องเตรียมการล่วงหน้า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกบ้าน ทุกครัวเรือน ทุกชุมชน ควรจะสงวนแหล่งน้ำธรรมชาติเหล่านี้ไว้ด้วย อย่าระบายน้ำทิ้งหมดจำคำพูดตนไว้ ไม่อย่างนั้นก็เกิดปัญหาหน้าแล้งขึ้นมาอีก นั้นคือสิ่งที่เราต้องทำ เพราะบางคนอยู่ในเขตชลประทาน ชลประทานมีการบริหารจัดการอยู่แล้ว แต่ในส่วนนอกเขตชลประทาน ท่านต้องแก้ปัญหาด้วย บ่อน้ำ สระน้ำ แก้มลิงในชุมชนในพื้นที่ ซึ่งท้องถิ่นสามารถดุแลได้อยู่แล้ว จะเห็นได้ว่ารัฐบาลทำหลายอย่างด้วยกัน ทำงานที่ยากให้สำเร็จ สำเร็จคือยั่งยืนไปข้างหน้า น้ำจะไม่ท่วมอีก ปัญหารายได้เกษตรกรจะทำอย่างไร ให้มีการรวมกลุ่ม ผลิตให้ตรงกับความ ต้องการไม่ใช่พอราคาดีขึ้น ก็ปลูกกันเข้าไป ราคามันก็ตก ยกตัวอย่าง เช่น ปาล์ม ยาง ราคาสูงขึ้น เพราะอะไรเพราะกรีดไม่ได้ ปริมาณจึงน้อยลง ราคาจึงสูงขึ้น ถ้าเมื่อไหร่กรีดกันทั้งหมด มันก็ราคาตกเป็นธรรมดาของการตลาด ต้องไปคิดดูว่าเราจะบริหารจัดการเรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทยได้รับเรื่องนี้ไปแล้ว เพราะเป็นผู้ที่อยู่กับประชาชน รวมกลุ่มกันให้ได้ นี่คือการทำงานอย่างบูรณาการ นายกฯ กล่าวว่า ตอนนี้ฝนกำลังจะตก แต่พวกเราแข็งแรงกันอยู่แล้ว เพราะเจอกันมาเยอะ ตกไม่รู้กี่รอบ ตนอยู่กรุงเทพเห็นฝนตกบางทีก็รำคาญ ไม่รู้ว่าตกทำไมหนักหนา การจราจรติดขัดกันในกรุงเทพ ฉะนั้นพวกเราทุกคนต้องไปมองอนาคตว่าจะอยู่กันอย่างไร ถ้ามองใกล้ตัวมันก็ฝ่อไปเรื่อยๆ รัฐบาลก็ไปทำอย่างอื่นไม่ได้ ฉะนั้นเราต้องเข้มแข็งด้วยตัวเอง คือเศรษฐกิจฐานราก เกษตรกรต้องเรียนรู้ ต้องพัฒนาตัวเองไปสู่สมาร์ทฟาร์มเมอร์ คือใช้การปลูกพืชที่เข้าใจในวิชาการ ใช้เทคโนโลยี ใช้ดิจิตอล และใช้ความรู้ วันนี้การจะทำอะไรก็ตามผู้ว่าราชการจังหวัดต้องรู้ว่ามีอะไรที่จะต้องดู และบอกชาวบ้านในสถานีวิทยุชุมชน นั้นคือสิ่งที่เราต้องร่วมมือกัน พลังประชารัฐ คือ ต้องสร้างความเข้าใจร่วมกัน เรียนรู้ร่วมกันว่าจะอยู่กันอย่างไร โลกเป็นไปอย่างไร ทุกคนต้องรู้ ไม่อย่างนั้นรัฐบาลคิดแบบนี้ อีกพวกคิดแบบนี้ ทั้งหมดมันดึงกันล้มไปทั้งหมด เพราะฉะนั้นก็ฝากไว้ด้วย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับเรื่องการช่วยเหลือในขณะนี้ เรากำลังอยู่ในขั้นตอนการฟื้นฟู ขั้นตอนการทำงานของรัฐบาล การกำกับดูแลอยู่ตรงนี้ ทุกอย่างเชื่อมโยงกับรัฐบาล ตนรู้ทุกเรื่อง การกำกับดูแลช่วยเหลือให้งบประมาณ การอนุมัติเข้าครม.เป็นแบบนี้ จากศูนย์ของมหาดไทยที่มีกรมปภ.เป็นหลักมันจะลงมาข้างล่างมาที่ศูนย์ของภาคใต้ จ.สุราษฎร์ธานี จ.สงขลา ซึ่งจะมีกลุ่มจังหวัดที่รับผิดชอบอยู่ ผู้ดำเนินงานในจังหวัดคือผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 12 จังหวัด จะมีการช่วยเหลือจากข้างบนลงมาข้างล่าง ด้วยกติกา กฎเกณฑ์ ระเบียบ ที่มีอยู่แล้วว่ามาตรฐานควรมีเท่าไหร่ มันอาจจะไม่มากนัก แต่เป็นมาตรฐานหลักที่จำเป็นต้องเอามาใช้ จากนั้นเราจะฟังข้างล่างสำรวจมา แล้วว่าอย่างไรกันต่อ จำทำอย่างไรได้บ้าง รัฐบาลอยากจะทำให้ทุกอย่าง แต่ต้องรู้ว่างบประมาณเราต้องมีจำกัด เราจะลดหรือเพิ่ม หรือทุ่มแต่เพียงอย่างเดียว ดูแลเรื่องการเกษตรทั้งประเทศอย่างเดียว มันก็ไม่ใช่ ตรงนี้เป็นเรื่องพิเศษเป็นเรื่องภัยพิบัติ เราต้องหามาตรการเพิ่มเติม เพราะฉะนั้นถ้าเราให้เงินได้ไม่ครบ ไม่มากหนัก ให้ตามกฎหมาย ที่เหลือเราก็หามาตรการทางการเงินให้ เช่น มีเงินกู้ระยะสั้น ระยะยาว ผ่อนชำระหนี้ 3 ปี ไม่มีดอกเบี้ย แต่รัฐบาลต้องรับผิดชอบดอกเบี้ยให้ท่านด้วย ตอนนี้กำลังคิดอยู่ว่าจะทำอย่างไรต่อไป นายกฯ กล่าวว่า การซ่อมบ้าน สร้างบ้าน ตอนนี้กำลังวางแผนอยู่ บางจังหวัดมีการซ่อมไปแล้ว นี่คือความเดือดร้อน ตนบอกแล้วว่า ต้องป้องกัน แจ้งเตือน เพราะฉะนั้นต้องเชื่อเวลาเขาเตือน ถ้าเขาบอกว่า ฝนจะมามีพายุ ให้เก็บของขึ้นหลังคาก่อน หรือเตรียมแผนไว้ ถ้าไปรอว่าจะมาหรือไม่มา ปลุกพระอยู่ก็ไปไม่ทัน ถ้าน้ำมาพระก็ช่วยไม่ได้ ฉะนั้นต้องเตรียมการเรื่องเหล่านี้ เราต้องเรียนรู้ว่าโลกเราเปลี่ยนแปลง ต้องวางแผนชีวิตให้ดี ลูกหลานจะได้ไม่ลำบาก อะไรที่อยู่ในเส้นทางน้ำไหลต้องระระมัดวัง อะไรที่อยู่ในที่ที่ไม่ถูกต้องนัก ต้องดูแลให้ถูกต้อง สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องคิดทั้งหมด รัฐบาลไม่ได้คิดแค่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไม่ได้คิดแค่ 12 จังหวัด รัฐบาลต้องเตรียมแผนงานในการเผชิญภัยพิบัติทั้ง 76 จังหวัดและของกรุงเทพ จังหวัดมีเป็นแสนๆ คน กรุงเทพมี 10 ล้าน และเป็นศูนย์กลางธุรกิจ จังหวัดสุราษฎร์เป็นศูนย์กลางแห่งการท่องเที่ยว การเกษตร และอีกหลายอย่างที่มีศักยภาพ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เห็นว่ามีปัญหาที่เกาะสมุย ผู้ว่าฯ เสนอมาทางศูนย์ดำรงธรรม บอกให้ช่วยดูการจราจรที่เกาะสมุย ประชาชนมีปัญหาในเรื่องเส้นทาง ถนน วันนี้รัฐบาลคิดทั้งหมด ถ้าขอมาและตรงกับรัฐบาลก็ทำได้เลย ถ้ารัฐบาลคิดและยังไม่ตรงก็ต้องมาทำความเข้าใจ ต้องมาทำประชาพิจารณ์ ขอเถอะถ้าประชาพิจารณ์ไม่ผ่านก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งหมด ไม่ใช่รัฐบาลทำเพื่อไปเอางบประมาณมาใช้และก็ทุจริต ทุจริตคือทุจริตแยกออกไป บางอย่างยังไม่ได้ทำ ยังไม่ทุจริตก็ให้เขาทำ ไม่อย่างนั้นก็ไม่เกิด ก็จับหาคนทุจริตไม่ได้ ก็ต้องทำทั้งสองอย่างให้เกิดได้ด้วย และจับเอาคนโกงออกไปจากแผ่นดินนี้ให้ได้ นี้คือสิ่งที่เป็นเจตนารมณ์ของรัฐบาล นายกฯ กล่าวว่า สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่ตนอยากจะพูดตอนนี้คือ วันนี้เราอยู่ในช่วงแห่งความเศร้าโศกของคนทั้งแผ่นดิน ทุกคนคงทราบดี ขอบพระคุณคนจังหวัดสุราษฎร์ และคนจังหวัดภาคใต้ทุกคนที่เดินทางไปเคารพพระบรมศพที่กรุงเทพ เห็นใจถึงความยากลำบากในการเดินทาง แต่ทุกคนก็เดินทางไปและไม่เคยน้อยลง ขอบคุณทุกหน่วยงานที่ดูแลเรื่องพระบรมศพ เรากำลังดำเนินเรื่องงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระบรมศพ ซึ่งจะอยู่ในระยะเวลาหนึ่งปี จากวันที่ 13 ตุลาคมปีที่แล้ว และต่อไปอีกหนึ่งปีจึงมีพิธีพระราชทานถวายพระเพลิงพระบรมศพ จากนั้นจึงมีพิธีบรมราชาภิเษกกษัตริย์พระองค์ใหม่ รัชกาลที่ 10 ---ลั่นรบ.อยู่ทำงานจนกว่ามีเลือกตั้ง มีประชาธิปไตย ตอนนี้ยังไม่ให้เลือก ไว้รอถึงเวลาค่อยลต.เผยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รับสั่งแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ดูแลปชช.ให้ดีที่สุด บอกวันนี้ตกเป็นจำเลย แต่ก็ต้องแก้ปัญหาให้ได้ "รัฐบาลจะอยู่ทำงานไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง มีประชาธิปไตย ผมถามหน่อยว่า เลือกตั้งตอนนี้เอาไหม ไม่กล้าตอบ ตอนนี้ถึงต้องการเลือกก็เลือกไม่ได้ เพราะยังไม่ให้เลือก ถึงเวลาแล้วค่อยเลือก แล้วเลือกให้ดีนะ เลือกให้ดีกว่านี้ ถ้าบอกว่าผมทำไม่ดีก็เลือกให้ดีกว่าผม ทำให้ได้แบบผม พูดให้ได้แบบผมแล้วต้องทำแบบที่พูดด้วย แต่จะให้ทำ100 เปอร์เซ็นต์ไม่มีใครทำได้ แต่ต้องทำให้ได้มากที่สุด 80-90 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือก็ทำต่อไป” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว นายกฯ กล่าวว่า พูดถึงการวางแผน รัฐบาลได้เขียนแผนหลายเรื่องทั้งยุทธศาสตร์ชาติ ยุทธศาสตร์ทหาร ยุทธศาสตร์กรม ยุทธศาสตร์กระทรวง รวมถึงแผนการปฏิบัติที่ต้องสอดคล้องกันทั้งกระทรวง กรม ผู้ว่าราชการจังหวัดก็ต้องทำในกิจการทั้งหมด ซึ่งแผนเหล่านี้จะระบุไว้ล่วงหน้า กิจกรรมอะไร สมมุติฐานว่าอะไร สถานการณ์ว่าอะไร ใครรบผิดชอบตรงไหน แผนนี้ต้องออกไว้ล่วงหน้า แล้วทุกคนจะรู้หน้าที่ว่าทุกคนต้องทำอะไร เมื่อไรก็ตามที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วม ประกาศแผนนี้เป็นคำสั่งทุกคนก็ออกทำงานได้เลย แล้วไปปรับแก้เมื่อเจอเหตุการณ์ตรงหน้า ถ้าไม่เขียนแผนอย่างนี้ที่สามารถแปรคำสั่งได้เลย ก็จะทำให้เสียเวลาเพราะต้องมีการเรียกประชุมก่อน แต่เราต้องลงไปก่อนแล้วค่อยเรียกกลับประชุม พื้นที่ต้องรับผิดชอบ ตนได้ให้แนวทางไปแล้ว ในระหว่างที่มีแผนออกมาหากยังไม่เหตุการณ์เกิดขึ้นก็ขอให้ซ้อมไปก่อน พร้อมทำความเข้าใจ ตามกิจกรรมที่มีอยู่ในปัจจุบัน จะทำอะไร ใครรับผิดชอบ เมื่อรัฐบาลประกาศแผนนี้เป็นคำสั่งก็สามารถทำงานได้เลย วันนี้เรากำลังปรับปรุงส่วนนี้อยู่ นายกฯ กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งถึงพวกเราด้วยความพระเมตตาพระมหากรุณาธิคุณ ทรงห่วงใยเสมอมา ตั้งแต่วันที่ทรงรับเป็นพระมหากษัตริย์ ซึ่งพระองค์ท่านก็รับสั่งกับตนและคณะทำงานที่เข้าเฝ้าฯในเรื่องของภาคใต้ให้ดูแลประชาชนให้ดีที่สุด ทำให้ชีวิต ความเป็นอยู่เป็นปกติได้โดยเร็วที่สุด และแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน จะต้องแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน คือเรื่องการทำถนน เพราะถนนเส้นเพชรเกษมน้ำท่วมจะต้องทำอย่างไร ถนนริมทะเลจะทำอย่างไรเชื่อมต่อกันได้หรือไม่ แต่ปัญหาอยู่ประชาชนจะให้ทำหรือไม่ การขุดคลองระบายน้ำใหม่ ซึ่งมีแผนงานที่บางอันทำได้แล้ว บางอันจะต้องศึกษาใหม่ ขอความร่วมมือเถอะไม่อย่างนั้นก็ไม่ยั่งยืน แล้วน้ำก็จะท่วมอีก อยากคิดว่าจะลดลงไปเรื่อย มันจะลดได้เพราะการป้องกัน แก้ไข ฟื้นฟู และระบบระบายที่สมบูรณ์ตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ซึ่งประชาชนต้องให้ความร่วมมือ คนที่เสียสละรัฐบาลก็จะเข้าไปดู ทั้งนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชทานถุงยังชีพ และพระราชทานองคมนตรีเข้าไปช่วยเหลือไปประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัย "ผมมีกำลังที่จะทำให้ท่าน มีกำลังกาย มีสมองที่จะทำให้ท่าน แต่มันไม่ใช่เงินของผม เงินของผมมีแต่เงินเดือนเท่านั้น แต่มันเป็นเงินภาษี เป็นเงินของประชาชนต้องใช้อย่างคุ้มค่า ใครคนใดคนหนึ่งก็ต้องแบ่งปันกันให้ทั่วถึง วันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัด คณะรัฐมนตรีคือจำเลย แต่ผมต้องแก้ปัญหาให้ท่านให้ได้ ทั้งปัญหาเร่งด่วน และระยะยาว ผมเป็นนายกฯ ก็ต้องแก้ให้ท่าน แต่แก้ปีเดียวคงทำไม่ได้ แต่ต้องแก้ตั้งแต่ตอนนี้แล้วส่งไปรัฐบาลหน้า ต้องทำต่อไม่ทำต่อจะแบบนี้ ผมขอฝากความรัก ความปรารถนาดีจากคนกรุงเทพฯ มาให้ด้วย คงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้ว ถ้าเราปรับให้อยู่ให้ได้ วันหน้าก็จะทำได้ ซึ่งรัฐบาลก็จะช่วย แต่ประชาชนก็ต้องช่วยรัฐบาลด้วย อย่าไปคิดว่าเป็นคะแนนเสียงนี้ของพวกนี้ พวกนั้น ผมไม่คิด คนไทยทั้งประเทศ คือคะแนนเสียง 70 ล้านคนเราต้องฟังคนทั้ง 70 ล้านคน ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว จากนั้น นายกฯ ได้ถ่ายภาพร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ และเดินพูดคุยกับประชาชนที่รอต้อนรับกว่า 3,000 คน ซึ่งนายกฯ ได้ถามประชาชนว่า สู้ไหม ทำให้ประชาชนที่รออยู่ตอบอย่างพร้อมเพรียงว่าสู้ๆ ขณะเดียวกันภายในเต็นท์ ได้มีการเปิดเพลงสายโลหิตประกอบไปด้วย จากนั้นนายกฯ เดินตามซุ้มต่างๆ โดยนายมนัสวิน นันทเสน หรือ ติ๊ก ชีโร่ ได้ขึ้นเวทีร้องเพลงรักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ทำบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก