เสือตัวที่ 6

ความเข้มข้นในการต่อสู้กับรัฐของกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดนปลายด้ามขวานนั้น ไม่เคยลดละความพยายามในการต่อสู้กับรัฐอย่างเข้มข้น ทั้งยังดำรงความมุ่งหมายในการขับเคลื่อนกาต่อสู้ให้บรรลุเป้าหมายปลายทางสุดท้ายของพวกเขา ซึ่งนั่นก็คืออิสระในการปกครองกันเองของกลุ่มคนในพื้นที่ที่ได้สะสมบ่มเพาะแนวคิดแปลกแยกสุดโต่งให้เกิดขึ้นกับผู้คนทุกเพศทุกวัยในวงกว้าง อันเป็นการสั่งสมกำลังความคิดและกำลังการต่อสู้ด้วยอาวุธให้คงศักยภาพและพร้อมที่จะเอาชนะรัฐไทยได้เมื่อโอกาสอำนวยในชัยชนะของพวกเขาที่ต้องการ ทำให้เห็นปรากฏการณ์ได้ว่าแม้ในขณะที่ขบวนการแบ่งแยกการปกครองจากรัฐที่มีกลุ่ม BRN เป็นตัวแสดงหลักจะปรับกลยุทธ์เป็นการต่อสู้ทางความคิดอันเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการต่อสู้ทางการเมืองโดยให้น้ำหนักการต่อสู้ทางการเมืองมากขึ้นอย่างสำคัญก็ตาม หากแต่ก็ยังไม่วางมือในการต่อสู้ด้วยอาวุธแต่อย่างใด และเมื่อใดที่มีโอกาสแสดงศักยภาพในการต่อสู้ด้วยอาวุธแล้วพวกเขาก็พร้อมจะก่อเหตุร้ายในทุกพื้นที่และทุกห้วงเวลาเพื่อให้รัฐและชาวโลกเห็นว่าพวกเขายังคงมีตัวตนและยังคงศักยภาพในการต่อสู้ด้วยอาวุธอย่างเต็มเปี่ยม พร้อมจะก่อเหตุร้ายใดๆ ด้วยอาวุธตามที่ต้องการ

ปรากฏการณ์การก่อเหตุร้ายโจมตีพื้นที่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ติดอาวุธของรัฐเมื่อ 21 ต.ค. ที่ผ่านมา ย่อมไม่ใช่เรื่องของโจรธรรมดาที่ต้องการปล้นร้านทองในพื้นที่ด้วยมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ และปฏิบัติการตามแผนได้อย่างมืออาชีพ โดยกลุ่มกองกำลังติดอาวุธได้ปฏิบัติการอย่างประสานสอดรับกันอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการลอบวางระเบิดป่วนเมืองหลายจุดพร้อมบุกยิงถล่มจุดตรวจของรัฐอย่างท้าทาย โดยปฏิบัติการก่อเหตุร้ายจุดแรกเกิดขึ้นบริเวณหน้าห้างทองแสงเจริญ ถนนสายตากใบ-บ้านตาบา อ.ตากใบ คนร้ายลอบนำระเบิดแสวงเครื่องประกอบไว้ในถังดับเพลิงจนเกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง จุดที่สองห่างไปประมาณ 50 เมตร กลุ่มกองกำลังติดอาวุธของขบวนการปฏิบัติการปิดล้อมจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ติดอาวุธของรัฐอย่างอหังการ มีการใช้อาวุธสงครามนานาชนิดยิงถล่มและปาระเบิดใส่จุดตรวจตาบา ทั้งที่มีตำรวจประจำจุดตรวจถึง 7 นาย นอกจากนั้น กลุ่มคนร้ายอีกกลุ่มหนึ่งยังปฏิบัติการวางระเบิดเสาไฟฟ้าริมถนนอีกหลายจุดกระจายไปในวงกว้าง เพื่อสร้างความสับสนในสถานการณ์ และสกัดกั้นการเข้ามาเพิ่มกำลังของเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ก่อเหตุ รวมทั้งสกัดกั้นการไล่ติดตามของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อสนับสนุนกองกำลังติดอาวุธหลักหลังก่อเหตุให้หลบหนีไปได้อย่างลอยนวล

แม้เหตุการณ์นี้จะมีเจ้าหน้าที่รัฐได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยแต่ไม่มีผู้เสียชีวิต หากแต่เป็นการบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าขบวนการแบ่งแยกการปกครองจากรัฐกลุ่มนี้ ยังคงมีกองกำลังติดอาวุธที่ทรงศักยภาพในการต่อสู้กับกองกำลังติดอาวุธของรัฐ และพร้อมที่จะก่อเหตุได้ทันที่ที่สถานการณ์เอื้ออำนวยหรือพร้อมที่จะก่อเหตุร้ายใดๆ ได้ตามที่แกนนำของขบวนการสั่งการ ทำให้น่าเป็นโจทย์สำคัญของรัฐว่า เหตุใดกลุ่มขบวนการร้ายแห่งนี้ จึงสามารถต่อต้านข่าวกรองของรัฐที่มีอยู่มากมายทั่วทุกพื้นที่ได้ พวกเขาสามารถปิดลับแผนการร้ายในครั้งนี้หรือครั้งใดๆ ที่ผ่านมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ เหตุใดการข่าวของรัฐไม่อาจเจาะทะลุกระบวนการปิดลับแผนปฏิบัติการร้ายของพวกเขาได้ครั้งแล้วครั้งเล่า แม้กระทั่งการซักซ้อมการปฏิบัติการตามแผนที่ต้องใช้คนจำนวนมากที่ต้องเข้าปฏิบัติการร่วมกันได้อย่างประสานสอดรับกัน เหตุใดการข่าวของรัฐไม่อาจล่วงรู้ความเคลื่อนไหวการซักซ้อมปฏิบัติตามแผนร้ายของคนกลุ่มนี้ได้แม้แต่น้อย และเมื่อปฏิบัติการโจมตีเสร็จ เหตุใดกองกำลังติดอาวุธสามารถถอนกำลัง เล็ดลอดหลบหนีภายใต้การสนับสนุนของแนวร่วมขบวนการร้ายแห่งนี้ได้อย่างแนบเนียนจนเจ้าหน้าที่รัฐไม่อาจสกัดกั้นการหลบหนีและไม่สามารถจับกุมคนกลุ่มนี้ได้ในทันที

ปรากฏการณ์การก่อเหตุร้ายครั้งล่าสุดนี้ ก็เหมือนกับการก่อเหตุร้ายในหลายๆ ครั้งที่ผ่านมาที่ปฏิบัติการก่อเหตุร้ายเริ่มต้นจากการวางแผน ปฏิบัติการ และจบลงที่กำลังลังติดอาวุธถอนตัวหลบหนีไปได้อย่างมืออาชีพ บ่งบอกให้เห็นว่าขบวนการแบ่งแยกการปกครองจากรัฐกลุ่มนี้ยังคงความพยามและดำรงความตั้งใจในการแบ่งแยกการปกครองจากรัฐอย่างเข้มข้นคงเส้นคงวา ที่สำคัญการต่อสู้ทางการเมืองทุกระดับ การต่อสู้ทางความคิดในทุกเวที ก็ยังคู่ขนานกับการต่อสู้ด้วยอาวุธในทุกโอกาสที่เอื้ออำนวยและทุกโอกาสที่ต้องการ ทำให้เห็นว่าการขับเคลื่อนการต่อสู้กับรัฐของขบวนการร้ายแห่งนี้ไม่อาจต่อสู้ทางการเมืองได้อย่างลำพัง พวกเขายังคงต้องใช้การต่อสู้ด้วยอาวุธเป็นเครื่องมือสำคัญในการต่อสู้กับรัฐอย่างเข้มข้น

 ดังนั้นการคงศักยภาพในการต่อสู้ด้วยอาวุธจึงยังคงต้องดำเนินการส่งเสริมพัฒนาให้มีศักยภาพสูงขึ้น เพราะเมื่อใดที่จังหวะเวลาในการต่อสู้เหมาะสม แกนนำขบวนการแบ่งแยกการปกครองของรัฐที่มี กลุ่ม BRN เป็นตัวแสดงหลัก ก็จะสั่งการให้ก่อเหตุรุนแรงด้วยกองกำลังติดอาวุธอย่างที่เห็น แกนนำ BRN สั่งการให้ปฏิบัติการด้วยอาวุธที่ผ่านมาล่าสุดนี้ ก็ด้วยต้องการเตือนความจำ ครบรอบ 19 ปี เหตุการณ์สลายการชุมนุม หน้าสถานีตำรวจ อ.ตากใบ ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ต.ค.47 ซึ่งเหตุการณ์สลายการชุมนุมจนทำให้มีพี่น้องมุสลิมบาดเจ็บล้มตายจำวนมากครั้งนั้น ยังคงเป็นเงื่อนไขที่ทรงประสิทธิภาพในการบ่มเพาะความแปลกแยกแตกต่างทางความคิดให้กับคนในพื้นที่จนขยายไปเป็นความเกลียดชังและเครียดแค้นคนต่างความเชื่ออย่างได้ผลจนทุกวันนี้ ซึ่งนั่นทำให้ขบวนการร้ายแห่งนี้ ต้องเสริมสร้างศักยภาพในการต่อสู้ด้วยอาวุธให้พร้อมก่อเหตุได้ทุกโอกาสที่ต้องการ