กลับมาอีกครั้งกับงานมอเตอร์โชว์ที่จัดขึ้นในช่วงนี้ของทุกๆปีมาดูกันว่ามีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง ค่ายโตโยต้าเป็นค่ายเดียวที่คงไว้ซึ่งความเป็นเอกลักษณ์อันสำคัญของงานมอเตอร์โชว์ ปีนี้ได้นำเสนอ Toyota FCV Plus Concept หนึ่งในเทคโนโลยีแห่งอนาคตของรถพลังงานทางเลือกแบบ Fuel-Cell ซึ่งถูกออกแบบภายใต้แนวคิด การร่วมเป็นหนึ่งในหน่วยย่อยของสังคมยุคอนาคต รถต้นแบบคันนี้มีรูปทรงขนาดเล็ก ที่นั่งแบบ 2+2 และเป็นมากกว่ายานพาหนะยุคใหม่ ที่ใช้สำหรับขนส่งผู้คนจากจุด A ไปยังจุด B ตัวรถใช้พลังงานจากกระแสไฟฟ้าที่ผลิตโดยใช้ไฮโดรเจนเป็นสารตั้งต้น ไปทำปฏิกริยาทางเคมีใน cell stack เพื่อสร้างกระแสไฟฟ้า แต่สามารถเปลี่ยนตัวเองจาก eco-cars ไปสู่ energy-cars ได้ด้วยระบบที่เชื่อมต่อต่อเข้ากับกริด เมื่อไม่ได้ถูกใช้งานในฐานะยานพาหนะก็ถูกปรับเปลี่ยนมาใช้เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่เสถียรได้อีกด้วย สามารถต่อพ่วงกับอุปกรณ์กักเก็บไฮโดรเจนภายนอกเพื่อใช้เป็นแหล่งกำเนิดพลังงานไฟฟ้าให้กับครัวเรือน หรือ เมื่อใช้ต่อพ่วงกันเป็นกลุ่ม ก็จะสามารถเชื่อมต่อกับกริดไฟฟ้าซึ่งเป็นสาธารณูปโภคพื้นฐานของแหล่งชุมชนได้ โตโยต้า เรียกโหมดในการใช้งานนี้ว่า Social Mode Toyota FCV Plus Concept สำหรับชุดระบบขับเคลื่อนใน FCV Plus Concept นั้น โตโยต้าวางชุด cell stack เอาไว้ระหว่างล้อคู่หน้า และติดตั้งถังไฮโดรเจนแรงดันสูงเอาไว้ด้านหลังเบาะผู้โดยสาร ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าจะถูกแยกติดตั้งในแต่ละล้อ สำหรับใช้งานในแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ การออกแบบภายนอกมีความโดนเด่นในเรื่องของรูปลักษณ์ที่เน้นความล้ำสมัย เผยให้เห็นถึงอนาคต แผงเซลล์เชื้อเพลิงจะติดตั้งอยู่บริเวณ ด้านหลังล้อหน้าถัดจากถังเก็บไฮโดรเจนที่อยู่ระหว่างที่่นั่งด้านหลัง และติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าอิสระทั้ง 4 ล้อ ทำให้พื้นที่ใช้สอยภายในรถค่อนข้างกว้างขวาง ภายในและภายนอกจะมีการออกแบบที่เชื่อมต่อกัน ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ระบบสร้างพลังงานไฟฟ้าโดยตรงจากบริเวณด้านหลังล้อหน้า ที่สามารถเก็บกระแสไฟฟ้าได้ในระหว่างขับเคลื่อน e-Bio Fuel-Cellจากนิสสัน นิสสันนำเสนอ ต้นแบบยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานเซลล์เชื้อเพลิงแบบออกไซด์แข็งแบบแรกของโลกที่สามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานจากเชื้อเพลิงเอธานอลชีวภาพ ถือเป็นครั้งแรกของโลกที่ผู้ผลิตรถยนต์นำระบบนี้มาใช้ ซึ่งมีจุดเด่นคือ ระบบ e-Bio Fuel-Cell ที่มาพร้อมกับตัวสร้างพลังงานแบบ SOFC ภายในห้องเครื่องยนต์ได้รับการติดตั้งตัวเก็บประจุที่เก็บกระแสไฟฟ้าได้เป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับตัวสร้างกระแสไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพ โดยตัวสร้างพลังงานแบบ SOFC มี แนวคิดหลักในการออกแบบ 3 ประการ คือ ประสิทธิภาพในการใช้งานสูงเดินทางได้ไกลมากขึ้น จัดหาง่าย ด้วยต้นทุนเชื้อเพลิงที่มีราคาต่ำและเป็นพลังงานสะอาด เนื่องจากไม่มีการปล่อยมลพิษสู่ชั้นบรรยากาศ e-Bio Fuel-Cell จึงเป็นการสร้างกระแสไฟฟ้าผ่านทางเซลล์เชื้อเพลิงแบบออกไซด์แข็ง SOFC ด้วยการใช้เอธานอลแบบชีวภาพ ซึ่งถูกเก็บไว้ที่ถังเชื้อเพลิงในตัวรถ ด้วยหลักการทำงานเหมือนกับเซลล์เชื้อเพลิง แต่การผลิตไฮโดรเจนเพื่อทำปฏิกริยากับออกซิเจนนั้น จะมาจากการนำเชื้อเพลิงซึ่งก็คือ เอธานอลชีวภาพ มาสกัดและแปรรูปผ่านทางอุปกรณ์รีฟอร์เมอร์จากนั้นจึงค่อยส่งไฮโดรเจนที่ได้เข้ามาทำปฏิกริยาเพื่อสร้างกระแสไฟฟ้าและส่งให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อใช้ในการขับเคลื่อน สิ่งที่แตกต่างจากระบบเซลล์เชื้อเพลิงแบบเดิมๆ คือ เชลล์เชื้อเพลิงชีวภาพ (e-Bio Fuel-Cell) จะมีอุปกรณ์ที่เรียกว่า SOFC เปรียบเสมือนกับแหล่งพลังงาน ซึ่งจะทำหน้าที่ผลิตกำลังไฟฟ้าในระดับที่มีจำนวนมากเพื่อช่วยให้ตัวรถสามารถแล่นทำระยะทางได้ไกลขึ้น ในระดับที่ใกล้เคียงกับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินทำได้ต่อการใช้น้ำมัน 1 ถัง ยิ่งไปกว่านั้น รถยนต์แบบ e-Bio Fuel-Cell ยังมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย  Mitsubishi MiEV Evolution III มิตซูบิชินำ Mitsubishi MiEV Evolution III เป็นรถที่ถูกออกแบบมาให้เป็นรถแข่งพลังงานไฟฟ้าเจนเนอเรชั่นที่สามที่ลงแข่งขันในรายการ Pikes Peak International Hill Climb ไต่เขาสุดมันส์ในรัฐโคโลราโดของสหรัฐอเมริกา มาให้แฟน ๆ ชาวไทยได้สัมผัส เป็นรถแข่งที่ผนวกเทคโนโลยีรถพลังงานไฟฟ้า และเทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ดีที่สุดเข้าด้วยกัน มิตซูบิชิ มิฟ อีโวลูชั่น 3 แตกต่างจาก มิตซูบิชิ มิฟ อีโวลูชั่น 2 ซึ่งเป็นรถแข่งที่เข้าร่วมการแข่งขัน ไพค์ พีค ในปี 2556 หลายด้าน ทั้งการดัดแปลงแชสซีส์มาใช้เหล็กน้ำหนักเบา, มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังขับสูงขึ้นจาก 400 กิโลวัตต์ เป็น 450 กิโลวัตต์ มาพร้อมกับระบบควบคุม Super All Wheel Control (S-AWC) เพื่อเพิ่มเสถียรภาพและลดการลื่นไถลของล้อหลัง และยังผนวกเข้ากับระบบควบคุมการทรงตัว (Vehicle Dynamic Controls) นำไปสู่การขับขี่ที่มั่นใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วย บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีแห่งยนตรกรรมระดับพรีเมียม พร้อมฉลองการคว้ารางวัล “Car & Bike of the Year 2017” ยอดเยี่ยมแห่งปี สูงสุดถึง 15 รางวัล สำหรับแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ด้วยการยกทัพรถยนต์รุ่นล่าสุดพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษจากบีเอ็มดับเบิลยู และมินิ นำโดย บีเอ็มดับเบิลยู i8 Protonic Dark Silver Edition บีเอ็มดับเบิลยู 740Le xDrive Pure Excellence พร้อมเทคโนโลยีปลั๊กอิน ไฮบริด บีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive Model V12 Excellence บีเอ็มดับเบิลยู 530i M Sport โฉมใหม่ บีเอ็มดับเบิลยู 520d Luxury โฉมใหม่ บีเอ็มดับเบิลยู 320d M Performance รุ่นประกอบในประเทศ บีเอ็มดับเบิลยู 320d GT Sport บีเอ็มดับเบิลยู 320d GT มินิ คันทรีแมน โฉมใหม่ และมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ คลับแมน ใหม่  Maserati Levante มาเซราติประเทศไทยเผยโฉม “มาซราติ เลอวานเต้” Maserati Levante รถอัลตร้าลัคชัวรี่เอสยูวีคันแรกของตระกูลที่ยังคงมีกลิ่นอายของความเป็นรถสปอร์ตอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งยังคงเอกลักษณ์ และดีไซน์ของแบรนด์ “มาเซราติ” เอาไว้อย่างครบถ้วน พร้อมระบบเทคโนโลยีการขับขี่และสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ยอดเยี่ยม นอกจากการนำเสนอรถเอสยูวี สุดหรูที่ยังคงมีกลิ่นอายของความเป็นรถสปอร์ตอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งยังคงเอกลักษณ์ และดีไซน์ของแบรนด์ “มาเซราติ” เอาไว้อย่างครบถ้วนแล้ว ความพิเศษสำหรับแบรนด์ มาเซราติในงานครั้งนี้คือ บูธจัดแสดงขนาดพื้นที่กว่า 810 ตารางเมตร คอนเซ็ปต์การออกแบบบูธมาจากงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ ครั้งล่าสุด เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้ โดยประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกที่ได้นำรูปแบบบูธดังกล่าวมาจัดแสดง  E-Class Coupé บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด สานต่อความเป็นผู้นำแห่งวงการอุตสาหกรรมยานยนต์หรู เปิดตัวสุดยอดยนตรกรรมหรูในกลุ่มดรีมคาร์ รุ่นล่าสุด ที่เข้ามาเติมเต็มพอร์ทโฟลิโอรถยนต์ตระกูล E-Class ให้ครบครัน อย่าง The new E-Class Coupé สปอร์ตคูเป้ 2 ประตู 4 ที่นั่ง ที่มอบความกว้างขวางและสะดวกสบายสูงสุดแก่ผู้โดยสาร โดยรถยนต์รุ่นนี้มาพร้อมกับรูปลักษณ์สวยหรูที่มีขนาดใหญ่ขึ้นในทุกมิติ เทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยให้การขับขี่สนุกสนานและง่ายดายยิ่งขึ้น ผสานกับเครื่องยนต์อันทรงพลังสไตล์สปอร์ต และระบบกันสะเทือนที่ช่วยให้การขับขี่ราบรื่น พร้อมตอกย้ำความเป็นที่หนึ่งด้านนวัตกรรมยานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ “EQ – Electric Intelligence by Mercedes-Benz” หลังจากการเปิดตัวในงาน Paris Motor Show 2016 เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ที่จะมาเติมเต็ม ทุกแนวคิดเกี่ยวกับการเดินทางแห่งอนาคต และการใช้ชีวิตอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่าง ครบวงจร มาสด้า MX-5 RF ค่ายมาสด้าเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟบุกงานมอเตอร์โชว์มากันครบทุกรุ่น ปีนี้มาสด้าเนรมิตบูธจัดแสดงอย่างยิ่งใหญ่กว่าที่ผ่านมา โดยเฉพาะงานนี้พร้อมเผยโฉมรุ่นใหม่ถึง 2 รุ่น ส่งมาสด้า MX-5 RF สปอร์ตโรดสเตอร์หลังคาเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าเป็นครั้งแรกในประเทศ และมาสด้า CX-3 รุ่นปรับโฉมใหม่ ที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS พร้อมกันนี้ยังยกขบวนรถยนต์ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟครบทุกรุ่น คาดว่าจะส่งผลให้ยอดจองรถมาสด้าในงานนี้ทะลุเกิน 4,000 คัน นอกจากนี้มาสด้ายังเปิดตัวรถสปอร์ตเปิดประทุนหลังคาไฟฟ้า ซึ่งมีความสำคัญยิ่งต่อการสร้างภาพลักษณ์ความเป็นรถสปอร์ต นั่นคือ เจ้าตำนานแห่งความสนุกสนานในการขับขี่ ความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างรถและผู้ขับขี่ นี่คือ Brand icon ของมาสด้า นี่คือรถสปอร์ตโรดสเตอร์เปิดประทุนด้วยระบบไฟฟ้า เจ้าของรางวัล World Car of the Year กับ All New Mazda MX-5 RF มาพร้อมหลังคาเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าที่เร็วที่สุดเพียง 13 วินาที คอลัมน์ ยุทธจักรยานยนต์