"กอ.รมน." เผย ครม.อนุมัติเงินช่วยเหลือ ผรท.ครั้งสุดท้าย 1 พันกว่าล้าน ชี้มีการติดตามผลทุกระยะ ยันคุณภาพชีวิต ประกอบอาชีพได้ดี ​วันที่21 เม.ย. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ. พีรวัชฌ์ แสงทอง โฆษก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) โดยมีพล.ท.ชัยณรงค์ เเกล้วกล้า ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กอ.รมน. (ศปป.4) ร่วมแถลงด้วย โดยพ.อ.พีรวัชฌ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี ได้มีมติอนุมัติการขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ 2560 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 1,391,175,000 บาท โดยงบประมาณดังกล่าวเป็นเงินเพื่อช่วยเหลือค่าประกอบอาชีพสำหรับผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย(ผรท.) จำนวนทั้งสิ้น 6,183 คน ได้รับการช่วยเหลือคนละ 225,000 บาท พ.อ.พีรวัชฌ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการมอบเงินช่วยเหลือค่าประกอบอาชีพสำหรับผรท.นั้น จะเป็นเช็คสั่งจ่ายตามรายชื่อผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยที่ได้ผ่านการพิจารณาแล้ว ซึ่งการมอบเงินช่วยเหลือ กอ.รมน. ได้กำหนดที่ตั้งจ่ายในพื้นที่ กอ.รมน.ภาค 1 – 4 ไว้เรียบร้อยเเล้ว และในขณะนี้ อยู่ระหว่างการดำเนินกรรมวิธี เบิก-จ่าย งบประมาณ กับสำนักงบประมาณ หากเรียบร้อยแล้ว กอ.รมน. จะกำหนดวัน-เวลา ในการรับมอบเงินช่วยเหลือโดยทันทีพร้อมกันทุกแห่ง พล.ท.ชัยณรงค์ กล่าวว่าในเวลาที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการช่วยเหลือ ผรท.ไปแล้วเป็นจำนวน 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 ใน พ.ศ.2545 จำนวน 403 ครอบครัว 806 คน โดยให้ที่ดิน 5 ไร่ วัว 5 ตัว ครั้งที่ 2 ในพ.ศ.2545 จำนวน 2,609 คน ที่ดิน 5 ไร่ วัว 5 ตัว และเงิน 125,000 บาท ครั้งที่ 3 ในพ.ศ.2552 จำนวน 9,181 คน ที่ดิน 5 ไร่ วัว 5 ตัว เงิน 125,000บาท และครั้งนี้ครั้งที่ 4 ให้เป็นเงินจำนวน 225,000 บาท และสำหรับผรท.คือบุคคลที่เป็นสหายร่วมพรรคคอมมิวนิสต์กลับใจมาร่วมเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ซึ่งในการช่วยเหลือ ผรท. ได้มีจุดเริ่มต้นมาจากคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 66/23 ที่เปิดโอกาสให้สหายร่วมพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยกลับใจมาเป็น ผรท. โดยรัฐบาลจะช่วยเหลือปัจจัยทำมาหากินเพื่อให้เกิดความสงบสุขต่อบ้านเมือง ซึ่งช่วงแรกรัฐบาลได้ให้การช่วยเหลือเป็นที่ดินทำกิน และได้มีการปรับปรุงรูปแบบการช่วยเหลือมาโดยลำดับ ซึ่งการช่วยเหลือในครั้งนี้ เป็นการช่วยเหลือค่าประกอบอาชีพเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย โดยรัฐบาลได้มีหลักเกณฑ์ในการช่วยเหลือ ดังนี้ ​1. ต้องเป็นบุคคลที่เกิดในปี พ.ศ.2509 หรือก่อนนั้น และได้ขอยื่นแบบรับการช่วยเหลือ ​2. ต้องเป็นผู้ที่ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากทางราชการในฐานะผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยและไม่เคยได้รับความช่วยเหลือด้านการจัดที่ดินจากทางราชการมาก่อน ​3. ต้องเป็นผู้มีฐานะยากจน และคณะกรรมการได้สอบสวนแล้วว่า เป็นผู้มีรายได้ไม่เกินปีละ 60,000.-บาท ​4. ต้องเป็นผู้มีความประพฤติดี โดยผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และนายอำเภอท้องที่ รับรอง ​5. ไม่เคยเป็นผู้ต้องโทษในคดีอาญา ​6. ต้องเป็นอดีตกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย หรือ อดีตกองกำลังติดอาวุธที่เข้ามอบตัวต่อทางราชการและมีหลักฐานการมอบตัวต่อทางราชการ ​7. เป็นผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมโครงการการุณยเทพ ซึ่งมีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อของหน่วยงานฝ่ายทหารที่รับผิดชอบ ผรท.ให้อยู่ในเกณฑ์สมควรได้รับความช่วยเหลือ พล.ท.ชัยณรงค์ กล่าวอีกว่าทางคณะกรรมการมีขั้นตอนในการติดตามผลเป็นระยะ ตามที่ได้ขออนุมัติหลักการจากคณะรัฐมนตรี คือหลังจากมอบเงินช่วยเหลือให้ ผรท.แล้วก็จะมีคณะติดตามผลในระดับจังหวัด โดยผ่านทางกอ.รมน.จังหวัด ส่วนระดับภาค จะเป็นคณะกรรมการที่เป็นอนุกรรมการที่อยู่ในระดับภาคเป็นผู้ติดตามผล โดยจะมีการติดตามผลเป็นระยะๆ จนกว่าจบขั้นตอน ส่วนบุคคลที่เคยได้รับแล้วจากการติดตามผลที่ผ่านมา การช่วยเหลือส่งผลให้ ผรท. มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตและอาชีพดีขึ้น การให้เงินสนับสนุนครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ส่วนคนที่ยังหลงเหลืออยู่เป็นบุคคลที่ไม่เข้าเกณฑ์และอาจจะไม่ร้องขอ เพราะมีฐานะดี บางส่วนเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีเงินเดือนมากกว่า 60,000 บาท และบางส่วนยังมีโครงการของภาครัฐดูแลรับผิดชอบ ซึ่งทั้งหมดที่ได้รับการพิจารณาในครั้งนี้ ผ่านการพิจารณาในคณะกรรมการระดับจังหวัด ระดับภาคและคณะกรรมการกลางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว