โฟตอน ทูนแลนด์ เลือกอย่างมีระดับ

ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับการแจ้งเกิดในตลาดรถยนต์เพราะแต่ละค่ายต่างสั่งสมประสบการณ์และเทคโนโลยีที่เป็นความลับกันเอาไว้ ซึ่งก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะกว่าจะได้มาแต่ละอย่าง นั่นไม่ค่อยสำคัญสำหรับประเทศจีนที่มีประชากรล้นเหลือ จึงมีรถยนต์เกิดใหม่ในประเทศนี้มากมายเพื่อขายในประเทศแต่เรื่องของการส่งออกนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งสำหรับค่ายโฟตอนแล้วต้องมีทางลัดให้เลือก ส่งผลให้บริษัทที่เกิดมาไม่นานในกรุงปักกิ่งประเทศจีนนี้สามารถทะยานขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของรถเพื่อการพาณิชย์ในจีนได้ อีก 2 ปีค่ายนี้คาดหวังว่าจะติด 1 ใน 10 ของรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ของโลกให้ได้ จึงต้องมีการแตกไลน์ไปหารถยนต์ประเภทอื่นกัน หนึ่งในนั้นจะมีรถกระบะรวมอยู่ด้วย ในเมืองไทยโฟตอนถูกนำเข้ามาทำตลาดกว่า 3 ปีแล้ว โดยมีรถกระบะโฟตอน ทูนแลนด์เป็นน้องใหม่ ก่อนหน้านี้จะมีรถบรรทุกและรถตู้ทำตลาดอยู่ แต่คงจะทำยอดขายสู้รถกระบะไม่ได้ ในชุดแรกของรถกระบะที่ถูกผลิตออกมาขายในเมืองไทยจะมีอยู่แค่ 2 แบบตัวถังให้เลือก คือแบบไม่มีแค็บกับแบบ 4 ประตู เสียดายที่รุ่นมีแค็บยังไม่มีการผลิตออกมาทำตลาดในตอนนี้ทั้งๆที่เป็นตัวเลือกอันดับ 1 ของรถกระบะในเมืองไทยอยู่ก็ตาม ดูกลมกลืนกับรถกระบะทั่วๆไปเมื่อโฟตอนทูนแลนด์อยู่บนถนน เพราะรูปทรงของตัวถังนั้นแยกไม่ออกไปจากรถกระบะทั่วๆไปของเมืองไทยในตอนนี้ เพราะชิ้นส่วนต่างๆถูกผลิตในเมืองไทยเยอะเหมือนกัน ขณะที่สถานที่ประกอบรถก็จะเป็นโรงงานบางชัน ซึ่งมีประสบการณ์ในการผลิตรถยนต์มาอย่างยาวนานอยู่แล้ว แม้จะเป็นรถที่ถูกประกอบชุดแรกๆแต่พวกรอยต่อต่างๆก็ยังทำได้ดีอยู่ การเดินทางครั้งแรกกับโฟตอน ทูนแลนด์จะเป็นรุ่น 4 ประตูขับ 2 ยกสูง ในแบบพรีเมียมที่มีชุดเบรกหลังเป็นดิสเบรก ซึ่งเป็นรถกระบะยอดนิยม ของเมืองไทย ทางโฟตอนตั้งราคาเอาไว้ที่ 759,900 บาทเส้นทางลัดในการทำตลาดของโฟตอน ทูนแลนด์ก็คือเลือกชิ้นส่วนจากผู้ผลิตชั้นนำมาใช้งาน เพราะถ้าคิดค้นกันเองคงต้องใช้เวลาเป็น 10 ปีกว่าจะนำมาใช้งานได้เริ่มจากเครื่องยนต์ที่โฟตอนหันไปคว้าเครื่องยนต์ของคัมมิ่นส์มาใช้ ชื่อนี้ชาวเรือตังเกคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วในเรื่องของความอึดและความทนทาน เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร วิงเกิลแคม แถวเรียง4สูบ 16 วาล์วระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมระบบคอมมอนเรล เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ สามารถผลิตกำลังออกมาได้ 163 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 360 นิวตัน-เมตรที่ 1,800 ถึง 3,000 รอบต่อนาที ชุดเกียร์ธรรมดาโฟตอนเลือกใช้เก็ทแร็ก จากเยอรมนี ขณะที่ชุดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และระบบเอบีเอส จะเป็นของบ๊อชชุดเพลาและเฟืองขับเป็นของดาน่าจากประเทศอเมริกา ที่ถูกออกแบบมาใช้งานเชิงพาณิชย์ สามารถรับน้ำหนักเพลาท้ายได้ถึง 1.8 ตัน ขณะที่เพลาหน้ารับน้ำหนักได้ 1.3 ตัน อัตราเร่งช่วงออกตัวจะช้านิดหน่อย กำลังจะไปดีในช่วง 2,000 รอบต่อนาทีขึ้นไป อัตราเร่งช่วงนี้สามารถเรียกมาใช้งานได้อย่างรวดเร็ว จังหวะเปลี่ยนเกียร์หาก ยกเท้าจากคลัทซ์ไม่เร็วนักก็จะลดอาการกระตุกได้เป็นอย่างดี ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง โดดเด่นด้วยเบาะนั่งคู่หน้าขนาดใหญ่ที่ได้รับการออกแบบให้เข้ากับสรีระ สามารถปรับเบาะที่นั่งได้ 6 ทิศทางเพื่อลดความเมื่อยล้าจากการขับขี่เป็นระยะเวลานาน คอนโซลกลางมีขนาดกว้างและมีที่เก็บของพร้อมฝาปิดพร้อมที่วางแก้วขนาดใหญ่สองตำแหน่ง โดยสามารถเลื่อนฝาปิดเพื่อแปลงเป็นที่เก็บของเพิ่มเติมได้ รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ ทั้ง ที่เก็บแว่นกันแดด ที่เก็บของขนาดใหญ่ที่คอนโซลหน้า และที่วางขวดและสิ่งของอื่นๆ บริเวณแผงประตู พวงมาลัยหุ้มหนังมาพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและระบบ Bluetooth เพื่อความสะดวกขณะขับขี่ จะมีปุ่มควบคุมระบบความเร็วอัตโนมัติ พร้อมระบบเครื่องเสียงรุ่นล่าสุดที่สามารถเล่นไฟล์ MP3 และ WMA และมี Mini USB input และ AUX ในขณะเดียวกันก็สามารถเล่นเพลงจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ผ่านระบบ Bluetooth ได้เช่นกัน เบาะนั่งด้านหลังมีขนาดใหญ่ได้มาตรฐาน พร้อมพนักพิงที่เอียงเล็กน้อยเพื่อความสบายของผู้โดยสารและพนักพิงศีรษะที่สามารถปรับระดับได้ สำหรับเบาะรองนั่งยังสามารถยกขึ้นและยึดไว้กับที่เพื่อให้สามารถเข้าถึงช่องเก็บเครื่องมือทั้งสองได้อย่างง่ายดาย โฟตอน ทูนแลนด์มาพร้อมถุงลมนิรภัยสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า และเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับพร้อมระบบ เอบีเอส และระบบกระจายแรงเบรกอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความมั่นใจในการหยุดรถบนทุกสภาพพื้นผิวถนน ที่มาพร้อมกับระบบดิสเบรค 4 ล้อ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ตลอดเส้นทาง นอกจากนั้น โฟตอน ทูนแลนด์ ยังมีระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยาง ซึ่งจะสามารถแจ้งเตือนผู้ขับให้ทราบเพื่อป้องกันอุบัติเหตุก่อนที่แรงดันลมยางจะหมดสนิทมาให้อีกด้วย คอลัมน์ ยุทธจักรยานยนต์