ร่วมมือเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม สนองพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 (จบ) “...บ้านเมืองของเราเป็นปึกแผ่นมั่นคงและร่มเย็นเป็นสุขสืบมาช้านาน เพราะเรามีความยึดมั่นในชาติและต่างบำเพ็ญกรณียกิจตามหน้าที่ให้สอดคล้องเกื้อกูลกัน เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของชาติ คนไทยทุกคนจึงควรจะได้ตระหนักในข้อนี้ให้มาก แล้วตั้งใจประพฤติตัวปฏิบัติงานให้สมแก่ฐานะและหน้าที่ เพื่อให้สำเร็จประโยชน์ส่วนรวม คือความมั่นคงปลอดภัยของชาติบ้านเมืองไทย...” พระราชดำรัสพระราชทานในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2556 การปฏิบัติหน้าที่ต่อผู้ใหญ่ ทหารต้องแสดงความอ่อนน้อมเคารพนับถือ มีความเอื้อเฟื้อ เชื่อฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำสั่งสอนด้วยความเคารพ สุภาพอ่อนโยน ไม่แสดงกิริยาวาจาดูหมิ่นท่าน และไม่เย่อหยิ่งทะนงตัว การปฏิบัติหน้าที่ต่อเพื่อนทหาร ทหารต้องรักใคร่และหวังดีต่อกัน ไม่ริษยาและไม่กดขี่ข่มเหงกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน กล่าวถ้อยคำที่อ่อนหวานไพเราะต่อกัน นับถือกันเหมือนญาติมิตร ประพฤติตนดีต่อกันเสมอต้นเสมอปลาย ชักชวนกันไปในทางที่ดี ทำประโยชน์ให้แก่กัน ซื่อตรงไม่คิดร้ายเบียดเบียนกัน สามัคคีปรองดองกัน เชื่อถือและไว้วางใจซึ่งกันและกัน การปฏิบัติหน้าที่ต่อพลเมือง ทหารต้องมีไมตรีรักใคร่หวังดีต่อพลเมือง ไม่เป็นศัตรูต่อผู้ใด เอื้อเฟื้อช่วยเหลือเกื้อกูลพลเมืองตามกำลัง โอกาสและความสามารถ ซื่อตรงต่อพลเมือง ไม่เบียดเบียนประทุษร้ายทำลายประโยชน์สุขและความสงบสุขของประชาชน ไม่ทะนงตน กดขี่ข่มเหงพลเมือง และกระทำตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่พลเมือง ไม่ทำตนให้เป็นที่น่าติเตียน สำคัญที่สุดคือ ทหารมีหน้าที่ต้องปฏิบัติต่อประเทศชาติ คือ ต้องรักประเทศ คือรักใคร่หวงแหนดินแดนบ้านเมืองของเรา ถือว่าประเทศของเราเป็นสมบัติอันล้ำค่าใครจะมาแย่งหรือทำลายไม่ได้ ต้องช่วยกันรักษาให้ปลอดภัย ไม่ยอมให้ชาติใดรุกรานหรือตกเป็นของชาติอื่นและช่วยกันบำรุงประเทศให้เจริญรุ่งเรือง และที่สำคัญคือ เมื่อถึงคราวจำเป็นยอมเสียสละทรัพย์สิน และประโยชน์ส่วนตนตลอดจนชีวิตเพื่อป้องกันรักษาประเทศชาติด้วยความเต็มใจ นอกจากนี้ ทหารต้องรักใคร่หวังดี ช่วยเหลือเกื้อกูลชาวไทย ไม่ลบหลู่ดูหมิ่นล่วงเกินและเหยียดหยามประชาชนชาวไทยด้วยกันเอง และต้องทำความเป็นมิตรและประโยชน์แก่ประชาชนไทย ไม่เบียดเบียนประทุษร้ายไม่ทำลายหรือขัดขวางตัดรอนประโยชน์และความเจริญของคนไทยเรา สนับสนุนส่งเสริมกิจการที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนชาวไทย และยอมสละประโยชน์ ตลอดจนความสุขส่วนตนตลอดชีวิต เพื่ออิสรภาพของคนไทยทั้งประเทศ ในด้านการศาสนา ทหารต้องมีศรัทธาเลื่อมใสในศาสนา เช่นพระพุทธศาสนาอันเป็นศาสนาประจำชาติ ศึกษาพระศาสนาให้มีความรู้ความเข้าใจ เพื่อที่จะยึดถือเป็นหลักแห่งความประพฤติของตนเองได้ ปฏิบัติตามพระศาสนาด้วยความเคารพ รักษาพระศาสนาให้บริสุทธิ์อยู่เสมอ และป้องกันมิให้เกิดความเสื่อมเสียเกิดขึ้นในพระศาสนา ตลอดจนต้องชักจูงผู้ที่ยังไม่เลื่อมใสให้เกิดศรัทธา เลื่อมใสและปฏิบัติตาม และบำรุงส่งเสริมกิจการในพระศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองเป็นศาสนาประจำชาติสืบไป การปฏิบัติหน้าที่ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ทหารมีหน้าที่ต้องถวายความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ด้วยความจริงใจ สักการะเคารพด้วย กาย วาจา ใจ ไม่ล่วงเกินพระมหากษัตริย์ด้วยประการใดๆ ทั้งปวง และต้องคอยป้องกัน และ กำจัดภัยพิบัติมิให้มาพ้องพาน ตลอดจนไม่ทำการใดๆ อันเป็นภัยต่อพระมหากษัตริย์ และต้องไม่ยอมให้ผู้ใดหมิ่นพระบรมเดชานุภาพได้ เพื่อนำมาซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่เปรียบมิได้ จึงขอเชิญชวนคนไทยทุกคนทั้งประเทศให้คิดดี พูดดี ทำดี สนองพระราชปณิธานในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสียสละเพื่อส่วนรวมเหมือนกับที่ทหารทุกคนปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาติ อยู่ในขณะนี้ และพยายามปฏิบัติตนตามหลักศาสนาอย่างสมบูรณ์จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ กตัญญูกตเวทิตาต่อแผ่นดินและประเทศชาติ อันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเราให้มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพไปตราบชั่วลูกชั่วหลาน ข่าวที่เกี่ยวข้อง ทรงสร้างประโยชน์สุขสู่ปวงประชา/ร่วมมือเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม สนองพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 (1)