กรมอนามัย ชี้ เด็กขาดสารไอโอดีนส่งผลเรียนรู้ช้า ปัญญาทึบ จับมือภาคีเครือข่าย ป้องกันควบคุมโรคขาดสารไอโอดีนยั่งยืน ด้วยพระมหากรุณาธิคุณในการวินิจฉัยปัญหาโรคขาดสารไอโอดีน และพระราชทานแนวทางแก้ไข จนเป็นที่ประจักษ์แก่ประชาคมโลก สภานานาชาติเพื่อการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีน (International Council for Control of Iodine Deficiency Disorders, ICCIDD) จึงได้ทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญทอง ICCIDD แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 9 นับเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของโลกที่ได้รับรางวัลดังกล่าว เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2540 คณะรัฐมนตรีได้ลงมติอนุมัติให้วันที่ 25 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันไอโอดีนแห่งชาติ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขได้จัดงานรณรงค์เนื่องในวันไอโอดีนแห่งชาติ เป็นประจำทุกปี โดยปีนี้ใช้หัวข้อประเทศไทย 4.0 เด็กไทยฉลาด ไม่ขาดไอโอดีน พร้อมจับมือภาคีเครือข่ายเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการเกลือเสริมไอโอดีน ให้สามารถผลิตและควบคุมคุณภาพเกลือเสริมไอโอดีนให้ได้มาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขเพื่อการส่งเสริมการบริโภคเกลือเสริมไอโอดีนอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานรณรงค์วันไอโอดีนแห่งชาติ เพื่อส่งเสริมการบริโภคเกลือเสริมไอโอดีนอย่างต่อเนื่อง ประเทศไทย 4.0 เด็กไทยฉลาด ไม่ขาดไอโอดีน และการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการเกลือเสริมไอโอดีน ณ โรงแรมปรินซ์พาเลซ กรุงเทพมหานคร ว่า ไอโอดีนจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กทารกตั้งแต่ช่วงอยู่ในครรภ์มารดา หญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับสารไอโอดีนไม่เพียงพอมีความเสี่ยงต่อการแท้งสูง ทารกมีความบกพร่องในการพัฒนาสมอง ร่างกายแคระแกรน ร่างกายจะเติบโตช้ากว่าปกติ เด็กวัยเรียนที่ขาดไอโอดีนจะมีคอพอก เรียนรู้ช้า เฉื่อยชา การขาดสารไอโอดีนนานๆ ทำให้ระดับไอคิวโดยเฉลี่ยต่ำกว่ากลุ่มที่ไม่ขาดถึง 10-15 จุด ส่วนผู้ใหญ่ที่ขาดไอโอดีนจะมีภาวะไทรอยด์ต่ำทำให้เกียจคร้าน อ่อนเพลีย เฉื่อยชา ประสิทธิภาพการทำงานลดลง นายแพทย์วชิระ กล่าวต่อไปว่า การขจัดปัญหาการขาดสารไอโอดีนให้หมดไป จะต้องมีการเฝ้าระวังและควบคุมป้องกันตลอดเวลา โดยต้องได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายในการดำเนินการจัดทำระบบเกลือเสริมไอโอดีนยั่งยืน ตั้งแต่กระบวนการผลิต การจำหน่าย การกระจาย และการเลือกบริโภคของประชาชน ให้ประชาชนได้ใช้เกลือเสริมไอโอดีนและผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสเค็มที่เสริมไอโอดีนตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับการกินอาหารที่มีไอโอดีนตามธรรมชาติ โดยเฉพาะอาหารทะเลเพื่อให้ได้รับไอโอดีนเพียงพอ แต่หญิงตั้งครรภ์ซึ่งต้องการไอโอดีนมากกว่าคนปกติ จำเป็นต้องกินยาวิตามินเสริมไอโอดีน วันละ 1 เม็ดทุกวัน ตั้งแต่เริ่มที่รู้ว่าตั้งครรภ์ จนถึงคลอด และขณะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ 6 เดือน “สำหรับการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการเกลือเสริมไอโอดีน และรณรงค์เพื่อส่งเสริมการบริโภคเกลือเสริมไอโอดีนอย่างต่อเนื่อง ประเทศไทย 4.0 เด็กไทยฉลาด ไม่ขาดไอโอดีน ในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากสมาชิกชมรมผู้ประกอบการเกลือเสริมไอโอดีน คณะอนุกรรมการกรรมการขับเคลื่อนการควบคุมป้องกันโรคขาดสารไอโอดีน คณะกรรมการขับเคลื่อนระบบเกลือเสริมไอโอดีนยั่งยืน คณะทำงานพัฒนาระบบเกลือเสริมไอโอดีนยั่งยืน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นต้น เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การดำเนินงานระหว่างผู้ผลิตกับผู้ผลิตและผู้ผลิตกับภาคีเครือข่าย เสริมสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการเกลือเสริมไอโอดีน ให้สามารถผลิตและควบคุมคุณภาพเกลือเสริมไอโอดีนให้ได้มาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เพื่อการส่งเสริมการบริโภคเกลือเสริมไอโอดีนอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว