นายแพทริค บาสเซ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ แอคคอร์โฮเทล ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า ทางแอคคอร์โฮเทลได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกับ แอลพี โฮลดิ้ง เพื่อพัฒนาโรงแรมใหม่สามแห่งในประเทศเมียนมาร์ เปิดตัวโรงแรมเมอร์เคียว มัณฑะเลย์ ฮิลล์ รีสอร์ท ในไตรมาสที่สามของปี 2560 รวมทั้งพัฒนาโรงแรมพูลแมน ย่างกุ้ง เซ็นเตอร์พอยต์ และโรงแรมมัณฑะเลย์ ฮิลล์ รีสอร์ท เอ็มแกลเลอรี บาย โซฟิเทล ที่น่าจะเปิดให้บริการในปลายปี 2560 และ 2563 ตามลำดับ
ซึ่งโรงแรมทั้งสามแห่งของแอคคอร์โฮเทล ตั้งอยู่ตรงจุดยุทธศาสตร์ในย่างกุ้งและมัณฑะเลย์ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและลูกค้านักธุรกิจ สำหรับแบรนด์พูลแมน ได้รับการออกแบบเพื่อให้บริการแก่นักเดินทางตามฤดูกาลจากทั่วทุกมุมโลก รวมถึงการจัดประชุมและงานอีเวนต์ต่างๆ ในขณะที่เอ็มแกลเลอรี บาย โซฟิเทล คือแบรนด์บูติคโฮเทลระดับหรู มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งลูกค้าจะสัมผัสได้ผ่านสถาปัตยกรรม การออกแบบภายใน และบริการที่นำเสนอ ส่วนโรงแรมเมอร์เคียว เป็นแบรนด์ระดับกลาง จะมีความโดดเด่นไม่เหมือนใครตรงที่แสดงถึงรากเหง้าของชุมชนในท้องถิ่นและมีมาตรฐานด้านคุณภาพทั่วไป เมื่อทั้งสามแบรนด์ผนึกกำลังกันก็จะครอบคลุมตั้งแต่ตลาดระดับหรูไปจนถึงระดับประหยัด
โดย นายเลิศศักดิ์ นพบุรานันท์ ผู้อำนวยการ บริษัท แอลพี โฮลดิ้ง จำกัด ยังกล่าวต่อว่า การที่แอลพี โฮลดิ้ง ได้ร่วมมือกับแอคคอร์โฮเทล เป็นการผสานความเชี่ยวชาญของบริษัทด้านธุรกิจบริการระดับโลก เข้ากับความเชี่ยวชาญด้านตลาดในท้องถิ่นที่แข็งแกร่ง จึงทำให้โรงแรมทั้งสามแห่งนี้จะมอบทางเลือกมากขึ้นให้แก่นักเดินทาง ท่ามกลางการเติบโตที่เพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศ เมียนมาร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางเป็นที่ต้องการมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมัณฑะเลย์ ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
จากตัวเลขในปี 2558 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวคือพลังขับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจเมียนมาร์ โดยมีอัตราการเติบโตของรายได้ 19% เนื่องจากมีเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวของต่างชาติเข้ามาเพิ่มขึ้นถึง 2,100 ล้านดอลลาร์ หรือมากกว่า 4% ของ GDP ประเทศ ในอีก 10 ปีข้างหน้า สภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก คาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเมียนมาร์จะอยู่งอันดับที่ 2 จาก 184 ประเทศในด้านการเติบโตในระยะยาว โดยในปี 2559 เมียนมาร์อยู่ในอันดับที่ 15 จากทั่วโลก
โดย นายเลิศศักดิ์ นพบุรานันท์ ผู้อำนวยการ บริษัท แอลพี โฮลดิ้ง จำกัด ยังกล่าวต่อว่า การที่แอลพี โฮลดิ้ง ได้ร่วมมือกับแอคคอร์โฮเทล เป็นการผสานความเชี่ยวชาญของบริษัทด้านธุรกิจบริการระดับโลก เข้ากับความเชี่ยวชาญด้านตลาดในท้องถิ่นที่แข็งแกร่ง จึงทำให้โรงแรมทั้งสามแห่งนี้จะมอบทางเลือกมากขึ้นให้แก่นักเดินทาง ท่ามกลางการเติบโตที่เพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศ เมียนมาร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางเป็นที่ต้องการมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมัณฑะเลย์ ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
จากตัวเลขในปี 2558 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวคือพลังขับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจเมียนมาร์ โดยมีอัตราการเติบโตของรายได้ 19% เนื่องจากมีเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวของต่างชาติเข้ามาเพิ่มขึ้นถึง 2,100 ล้านดอลลาร์ หรือมากกว่า 4% ของ GDP ประเทศ ในอีก 10 ปีข้างหน้า สภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก คาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเมียนมาร์จะอยู่งอันดับที่ 2 จาก 184 ประเทศในด้านการเติบโตในระยะยาว โดยในปี 2559 เมียนมาร์อยู่ในอันดับที่ 15 จากทั่วโลก