สถาบันส่งเสริมภาคประชาสังคม (สสป.) ร่วมกับภาคีเครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคม สมาคมบ้านปันรัก และโครงการสานพลังนโยบายส่งเสริมความเข้มแข็งขององค์กรภาคประชาสังคมเพื่อร่วมขับเคลื่อนสังคมสุขภาวะ ได้ร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์สาธารณะ “ WE ARE CSO ” ใครๆ ก็เป็นได้ เพื่อสร้างความเข้าใจบทบาทภาคประชาสังคมกับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ ด้านต่างๆ โดยจะมีการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ในช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคม ถึงธันวาคม 2560 การจัดกิจกรรมครั้งที่ 1 เสนอประเด็น สังคมสูงวัย : ประชาสังคมไทยต้องช่วยกัน จัดขึ้นเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2560 ณ ลานกิจกรรม มูลนิธิบ้านอารีย์ ได้มีการเสวนา บทบาทภาคประชาสังคม ในสถานการณ์สังคมสูงวัย ผู้ร่วมเสวนา มาจากตัวแทนภาคประชาสังคม ที่ทำงานหลากหลายประเด็น เด็ก ชุมชน แรงงาน และนักวิชาการ มาร่วมเสนอมุมมอง ผ่านประเด็นงานที่เกี่ยวข้อง สรุปสาระสำคัญการเสวนาดังนี้ นางสาวสุวิมล มีแสง จากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) เสนอผลการงานวิจัยของคณะกรรมการปฏิรูประบบรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย สภาปฏิรูปแห่งชาติ ที่คาดการณ์ไว้ว่าปี พ.ศ.2563 ประเทศไทยจะมีจำนวนประชากรผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่า 12 ล้านคน ส่วนจำนวนประชากรวัยแรงงานจะลดลงเหลือประมาณ 46 ล้านคน ทำให้ประชากรวัยแรงงาน 5 คน ต้องดูแลผู้สูงอายุ 1 คน จากเดิมในปี พ.ศ. 2543 ที่มีแรงงานถึง 7 คน ดูแลผู้สูงอายุเพียง 1 คน ผลจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอายุประชากรไปสู่สังคมสูงวัย อาจจะส่งผลให้เกิดการขาดแคลนแรงงานและฉุดรั้งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ และหลายๆประเทศในอาเซียนก็มีแนวโน้มเข้าสู่สังคมสูงวัยเช่นกัน พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า “เราจะต้องเร่งร่วมกันออกแบบสังคมเพื่อรองรับสังคมสูงวัย ในอนาคตต้องเป็นคนแก่ที่มีคุณภาพ” นายเรืองศักดิ์ ปิ่นประทีป จากมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก เห็นว่าจากการทำงานกับ เด็ก มาเป็นเวลากว่า 30 ปี นั้นพบว่าหากพ่อแม่มีความคิดติดลบมาตั้งแต่เริ่มรู้ว่าตั้งครรภ์ ก็จะส่งผลต่อเด็กก็จะส่งผลกระทบต่อเด็กไปด้วย พ่อแม่ต้องคิดบวก ไม่คิดว่าลูกเป็นภาระ เด็กจะดีได้ ถ้าความสัมพันธ์ที่ดีในบ้าน และอย่าคาดหวังว่าเด็กจะต้องเป็นอย่างที่เราต้องการ เช่นคำว่า “รักให้รอด รักให้แข็งแรง” ในฐานะภาคประชาสังคมคนหนึ่งก็อยากจะให้ทุกครอบครัวมีการวางแผนการตั้งครรภ์ และวางแผนการดูแลเด็กให้เติบโตมาอย่างมีคุณภาพ นางอรุณี ศรีโต นักกิจกรรมสูงวัยที่ทำงานเพื่อสังคม เล่าว่า แรงงานไทยในปัจจุบัน ทั้งในระบบและนอกระบบ ต้องรับภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้นทั้งในครอบครัวและสังคม รัฐต้องสร้างการเป็นหุ้นส่วนกับภาคประชาสังคม ในการแก้ปัญหาระบบประกันสุขภาพ สร้างวินัยการออมตั้งแต่วัยเด็ก การดูแลสุขภาพ มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และ รัฐบาลต้องตั้งเรื่อง “สังคมสูงวัย” เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้ผู้สูงวัยต้องเป็นผู้สูงวัยที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง ในขณะที่ ผศ.ดร.วีรณัฐ โรจนประภา นักวิชาการด้านผู้สูงวัย (นายกสมาคมบ้านปันรัก)ได้ให้ข้อเสนอว่า การแก้ปัญหาควรเริ่มจากกลุ่มคน ได้รวมตัวกันสร้างความอบอุ่น ความเข้มแข็ง เพื่อสร้างชุมชนสวัสดิการร่วมกัน สรุปผลการเสวนา ในสถานการณ์ที่ประเทศไทย ก้าวสู่สังคมสูงวัย การทำงานแบบร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการพัฒนาประเทศ จะทำให้เกิดความสำเร็จในงาน ความร่วมมือกับ ภาคประชาสังคม เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ และกลายเป็นเป้าหมายร่วมกันที่องค์การสหประชาชาติบรรจุเป็น 1 ใน 17 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และในครั้งต่อไปสถาบันส่งเสริมภาคประชาสังคมจะไปจัดเวที WE ARE CSO ใครๆก็เป็นได้ ที่ไหน ประเด็นอะไร สามารถติดตามได้ที่ เพจไทยแอ็ค หรือ www.thaicivilsociety.com