คณะกรรมการฯ จัดแผนรองรับหลังงานพระราชพิธีฯ ประชาชนเข้าชมนิทรรศการพระเมรุมาศมากกว่า 3 ล้านคน วันที่ 1 – 30 พ.ย. แนวทางเปิดชม 7.00 – 23.00 น. แจกภาพถ่ายพระเมรุมาศเป็นที่ระลึก เพิ่มอักษรเบรลล์อำนวยสะดวกคนตาบอด ทางลาดผู้พิการ วธ.พิมพ์แผ่นพับนำชม 9 แสนแผ่น ที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการฝ่ายจัดนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ครั้งที่ 2/2560 โดยมีท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ ประจำสำนักพระราชวังพิเศษ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร และคณะกรรมการหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมประชุม พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 5 ฝ่าย 1.ฝ่ายจัดนิทรรศการพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 2.ฝ่ายจัดนิทรรศการการจัดสร้างพระเมรุมาศ ฯ 3.ฝ่ายจัดแสดงมหรสพ ทั้งหมดมีอธิบดีกรมศิลปากรเป็นประธาน 4.ฝ่ายรักษาความสงบเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เข้าชมนิทรรศการฯ โดยแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นประธาน และ 5.ฝ่ายบริหารจัดการในคณะกรรมการฝ่ายจัดนิทรรศการฯ มีรมว.วัฒนธรรมเป็นประธาน พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวอีกว่า การอำนวยการความสะดวกแก่ประชาชนที่เข้าชมนิทรรศการจะใช้แนวทางการเดียวกับการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เข้ากราบพระบรมศพที่พระบรมมหาราชวัง โดยจะแบ่งเป็นเด็กและเยาวชนประชาชนทั่วไป และผู้ต้องการใช้เครื่องช่วย อาทิ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ใช้รถเข็นนั่ง นอกจากนี้มีชาวต่างชาติ เน้นความปลอดภัยเป็นสำคัญ สำหรับนิทรรศการกำหนดจัดวันที่ 1 - 30 พ.ย. แนวทางเวลาเข้าชม รอบแรกเวลา 07.00 รอบสุดท้ายเวลา 23.00 น. จัดเป็นรอบๆ อาจจะรอบละ 500 คน รอบต่อไปห่างกัน 10 นาที มีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกคนได้เข้าชม คาดว่านิทรรศการจะมีผู้เข้าชมมากกว่า 3 ล้านคน เพราะระยะเวลาจำกัด ทุกคนจะมุ่งมาเข้าชมพระเมรุมาศและนิทรรศการ จะรองรับประชาชนให้ได้มากที่สุด มีการเพิ่มแพทย์และพยาบาลภาคสนาม "เดือนก.ย.จะเห็นแผนงานนิทรรศการที่เรียบร้อย ใช้งบประมาณอย่างประหยัด เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การบ้านที่สำคัญอีกข้อที่ให้แต่ละหน่วยงานมีเวลา 3 วันหรือ 72 ชั่วโมง ที่จะเคลื่อนย้ายนิทรรศการทั้งหมดเข้าพระเมรุมาศ เพื่อเปิดให้ประชาชนเข้าชมวันที่ 1 พ.ย. เมื่อจัดนิทรรศการเสร็จแล้วทุกคนจะซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณในหลวง ร.9 เกิดความรักและสามัคคี เป็นนิทรรศการจัดโดยประชาชนเพื่อประชาชน น้อมถวายพระองค์ท่าน" พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าว ด้าน นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า ผู้สูงอายุ รวมถึงผู้พิการได้มีโอกาสเข้าชมพระเมรุมาศเช่นเดียวกับคนทั่วไป จะใช้ศาลาลูกขุน จำลองพระเมรุมาศและสัตว์หิมพานต์ให้ผู้พิการทางสายตาจับต้องได้ อีกทั้งยังมีอักษรเบรลล์ในจุดที่พิเศษและสำคัญ ตลอดจนการจัดรถวิลแชร์รองรับ และใช้ระบบเทคโนโลยีคิวอาร์โคดนำชม เพื่อลดเวลาการอธิบายของวิทยากร โดยที่ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น ขณะนี้ วธ.เตรียมจัดพิมพ์แผ่นพับนำชมเบื้องต้นไว้จำนวน 9 แสนแผ่น อีกทั้งจะจัดทำเป็นภาษาอังกฤษและจีน และภาพถ่ายพระเมรุมาศเป็นที่ระลึก อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งหน้าจะหารือถึงแนวทางการเปิดรับจิตอาสาเข้ามาช่วยงานด้านต่างๆ ก่อนที่จะเปิดรับอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ขณะที่ พล.ต.ธานี ฉุยฉาย ที่ปรึกษากองทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า การอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนจะใช้รูปแบบเดียวกับที่กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวังจัดคิวแก่ประชาชนที่เข้ากราบพระบรมศพ มีจุดพักคอยและจัดคิว แต่ในครั้งนี้ไม่มีที่พักคอยอย่างเพียงพอ การบริหารจัดการต้องปรับใหม่ โดยจะต้องหารือกับคณะอนุกรรมการชุดต่างๆ จะต้องทราบระบบภายใน จุดถ่ายภาพ จุดเดินผ่าน โดยกำหนดเป็นช่วงเวลา โดยมีเจ้าหน้าที่แนะนำ เชิญคิวต่อไปจนกระทั่งถึงทางออก จะเปิดให้ประชาชนเข้าชมอย่างตื่อเนื่องจนถึงเวลาปิด ซึ่งอาจจะดูปริมาณผู้เข้าชมในแต่ละวัน จะพยายามไม่ให้ประชาชนเสียใจที่ไม่ได้เข้าชม และสามารถเข้ามาชมได้ไม่จำกัดครั้ง มีจิตอาสาคอยอำนวยความสะดวก ทั้งเก็บขยะ แจกจ่ายน้ำ แจกจ่ายร่ม จิตอาสาอำนวยความสะดวกนำพาคน จะวางแนวทางเช่นกัน ด้าน นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า การจัดนิทรรศการ แบ่งออกเป็นนิทรรศการพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยกำหนดพื้นที่จัดแสดงภายในอาคารพระที่นั่งทรงธรรมทั้งหมด จะผนวกเนื้อหานิทรรศการตั้งแต่ด้านหน้าพระเมรุมาศที่มีการประดับมณฑลพิธีด้วยแปลงนาข้าว กังหันน้ำชัยพัฒนา ขณะที่อีกส่วนหนึ่งเป็นนิทรรศการการดำเนินนการก่อสร้างพระเมรุมาศทุกขั้นตอน ได้กำหนดจัดในอาคารอื่นๆ ได้แก่ ศาลาลูกขุน 4หลัง พร้อมทั้งมีคำบรรยายให้ความรู้ทุกส่วนของการจัดนิทรรศการ “ช่วงจัดนิทรรศการจะจัดแสดงมหรสพในช่วงหัวค่ำ โดยใช้เวทีใหญ่ของการจัดแสดงมหรสพสมโภชในวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ อาทิ โขนหน้าพระที่นั่งทรงธรรม จะตัดตอนการแสดงให้สั้นลง และให้มีการแสดงที่หลากหลาย รวมถึงมีการแสดงของเยาวชนด้วย” นายอนันต์ กล่าว