“เอ็นริช” เปิดตัวปั้นแบรนด์พร้อมลุยตลาดอ สังหาฯหลังซุ่มเงียบผุดโครงการกวาดยอดขายแล้ว 3 โครงการ เร่งเดินหน้าอีก 2 โครงการภายในปีนี้ นำร่องยึดทำเลกรุงเทพฯฝั่งตะวัน ตก ชูคุณภาพโปรดักส์โดนใจ เน้นพื้นที่ใช้สอยเพิ่มความคุ้ม ค่า มาพร้อมดีไซน์ล้ำเจาะคนรุ่นใหม่ คุณสุพิชา พงศ์ศีลธน ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารธุรกิจ กลุ่มบริษัท เอ็นริช เปิดเผยว่า บริษัทเข้าสู่ธุรกิจพัฒนาอสังหา ริมทรัพย์มาเป็นระยะเวลากว่า 12 ปี โดยลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศั ยและเปิดขายไปแล้ว 3 โครงการในพื้นที่โซนตะวันตก ย่านถนนกาญจนาภิเษก ประกอบด้วย โครงการเอ็นริช พาร์ค ปิ่นเกล้า (ENRICH PARK) โครงการธารา ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า (TARA) และโครงการเดอะมาร์ค ปิ่นเกล้า(THE MARQ) ซึ่งถือว่ามีกระแสตอบรับที่ดีจา กตลาด สะท้อนผ่านยอดขายของแต่ละโครงกา รที่เดินหน้าค่อนข้างรวดเร็ว แม้จะไม่ได้ทำการตลาดผ่านสื่อ mass media มากนัก และในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ เอ็นริชมีแผนจะลงทุนพัฒนาโครงก ารเพิ่มอีก 2 โครงการ สำหรับจุดแข็งที่ทำให้เอ็นริชสา มารถเจาะตลาดได้เป็นอย่างดี เป็นผลมาจากการที่บริษัทเน้นพัฒ นาคุณภาพโปรดักส์ และพื้นที่ใช้สอยเพื่อการอยู่อา ศัยจริง ทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความคุ้มค่ าเมื่อเทียบกับราคา ส่งผลให้แม้แบรนด์จะยังไม่ได้เป็ นที่รู้จักในวงกว้าง แต่ก็ได้รับความสนใจอย่างล้นหลา มจากลูกค้า ตั้งแต่โครงการแรกของบริษัท ในชื่อโครงการเอ็นริช พาร์ค ปิ่นเกล้า (ENRICH PARK) และโครงการต่อมาคือ โครงการธารา ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า (TARA) ที่เริ่มขยายกลุ่มเป้าหมายมาสู่ คนรุ่นใหม่ และโครงการล่าสุด คือ โครงการเดอะมาร์ค (THE MARQ) ปิ่นเกล้า ที่เป็นโครงการที่อยู่อาศัยที่ไ ด้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลามใน เรื่องการออกแบบและวัสดุที่ใช้ ในโครงการ “ที่ผ่านมา เอ็นริช เน้นเรื่องพัฒนาโครงการบ้านที่ต อบโจทย์การอยู่อาศัยจริง ทำให้เราให่้ความสำคัญในเรื่องคุ ณภาพมากกว่าปริมาณ อีกทั้งนโยบายในการขยายธุรกิจเร ามุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการ สร้างรากฐานบริษัทให้แข็งแรง ควบคู่ไปกับการสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์และสินค้าผ่านทุกโครงก ารที่เราได้สร้างสรรค์ขึ้น ด้วยเป้าหมายสำคัญคือการขยายธุร กิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่ง ยืนในอนาคต ซึ่งแต่ละโครงการของเอ็นริชจะมี ความแตกต่างกันออกไป ไม่ได้เจาะจงว่าจะอยู่ในตลาดไฮเ อนหรือตลาดแมส แต่มองถึงความเหมาะสมของทำเล และรูปแบบโครงการมากกว่า ทำให้ฐานลูกค้าของเรามีความหลาก หลาย แต่ทุกโครงการมีแนวคิดที่สำคัญ คือ “Creating Your Practical Life” ด้วยเป้าหมายสำคัญเพื่อการสร้าง สรรค์ที่อยู่อาศัยที่นอกจากจะสว ยงาม ยังต้องตอบโจทย์การใช้ชีวิตจริง ผ่านรายละเอียด การใช้พื้นที่ และฟังค์ชั่น สำหรับทุกคนในครอบครัว” ที่ผ่านมา เอ็นริช ได้สร้างสรรค์โครงการที่อยู่อาศั ยรวมแล้วทั้งสิ้น 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ เอ็นริช พาร์ค ปิ่นเกล้า เปิดโครงการในปี 2551 ในรูปแบบโครงการบ้านหรูราคาขาย 25 – 60 ล้านบาท จำนวน 105 ยูนิต บนพื้นที่กว่า 60 ไร่ ถือเป็นการจับกลุ่มลูกค้าระดับบ น ด้วยทำเลที่ตั้งติดถนนกาญจนาภิเ ษก และโครงการที่สอง คือ โครงการธารา ราชพฤกษ์ ปิ่นเกล้า ที่ตั้งอยู่ในถนนสวนผัก ใกล้จุดขึ้นลงทางพิเศษศรีรัช ถนนกาญจนาภิเษก เพียง 900 เมตร และใกล้เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ- ตลิ่งชัน) ซึ่งถือเป็นโครงการที่จับกลุ่มลู กค้าระดับกลาง ด้วยราคาขาย 3.99 – 7 ล้านบาท เป้าหมายเป็นคนรุ่นใหม่ที่ต้องก ารขยายครอบครัว และล่าสุด คือ โครงการเดอะมาร์ค ปิ่นเกล้า ที่ตั้งอยู่ใกล้กับ พาซิโอ พาร์ค คอมมูนิตี้มอลล์ขนาดใหญ่ บนถนนกาญจนาภิเษก เพียง 100 เมตร ใกล้จุดขึ้นลงทางพิเศษศรีรัช บนถนนกาญจนาภิเษก และถนนพระเทพตัดใหม่ ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 15.99 - 25 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่มี ความโดดเด่นทั้งทำเลที่ตั้ง และการออกแบบโครงการที่นอกจากจะ สวยงามในสไตล์โมเดิร์นแล้ว ยังตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้อย่า งลงตัว นอกจากนี้ เอ็นริช ยังเตรียมเปิดโครงการต่อไปในช่ว งต้นปี 2561 ในชื่อ โครงการคูณ ราชพฤกษ์ (KUUN) ทำเลที่ตั้งยังอยู่ในโซนตะวันตก ใกล้วงเวียนพระราม 5 ริมถนนราชพฤกษ์ เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้นครึ่ง มีจำนวน 20 ยูนิตเท่านั้น ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 13.99 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้ถือได้ว่าเป็นการ ส่งต่อความสำเร็จจากโครงการเดอะ มาร์ค ปิ่นเกล้า ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีกับรู ปแบบบ้านสไตล์ Urban Luxury ซึ่งเรามั่นใจอย่างยิ่งว่า โครงการคูณ ราชพฤกษ์ จะได้รับการตอบรับอย่างดีเช่นเดี ยวกัน ด้วยความโดดเด่นของทำเลที่ตั้ง และคอนเซ็ปต์การออกแบบที่เน้นกา รผสมผสานดีไซน์ที่สวยงามและแลนด์ สเคปที่ลงตัว ตอบโจทย์การอยู่อาศัยจริง ด้วยพื้นที่ใช้สอยอย่างคุ้มค่าก ว่า 300 ตารางเมตร บนที่ดินเริ่มต้น 50 ตารางวา คุณสุพิชา กล่าวเพิ่มเติมว่า “เหตุผลสำคัญที่ทำให้โครงการต่า งๆ ของเอ็นริช อยู่บนพื้นที่ในโซนกรุงเทพฝั่งต ะวันตกนั้นเหตุผลหนึ่งมาจากการที่ ครอบครัวมีรากฐานอยู่ในโซนนี้ และเก็บสะสมที่ดิน (แลนด์แบงก์) ในทำเลที่คุ้นเคยมาต่อเนื่อง แต่การพัฒนาโครงการจากนี้ไปของเ อ็นริช จะไม่จำกัดขอบเขตอยู่แค่โซนตะวั นตก แต่พร้อมที่จะขยายการลงทุนในไปพื้ นที่อื่นๆ ที่เล็งเห็นว่ามีศักยภาพ โดยจะมองหาจังหวะในการเข้าไปลงทุ นอย่างเหมาะสม แม้แต่แนวรถไฟฟ้าก็ถือว่าน่าสนใ จ พร้อมจะเข้าไปลงทุน” อย่างไรก็ตาม มองว่าทำเลในโซนตะวันตกยังมีศัก ยภาพในการเติบโตอีกมาก จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้า นคมนาคมขนส่งที่เชื่อมต่อกัน ทำให้มีความสะดวกในการเดินทางมา กขึ้น อย่างเช่นโครงการทางด่วนศรีรัช วงแหวนรอบนอกที่เชื่อมจากบางใหญ่ ไปจตุจักร ช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางได้ม าก ส่งผลให้มีผู้สนใจโครงการของบริ ษัทเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งมูลค่าที่ดินก็ปรับสูงขึ้นอีกด้วย ปัจจุบัน โครงการธารา ราชพฤกษ์ - ปิ่นเกล้า มีการพัฒนาไปแล้ว 8 เฟส รวมทั้งหมด 390 ยูนิต โดยเปิดขายเฟสสุดท้ายต้นเดือนสิ งหาคมนี้ ซึ่งพัฒนาเป็นทาวน์โฮมจำนวน 19 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท และขายหมดแล้วภายใน 1 สัปดาห์ ส่วนโครงการเดอะมาร์ค ปิ่นเกล้า มีจำนวน 26 ยูนิต เปิดขายเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่าน มาจนถึงปัจจุบัน ขายไปแล้ว 17 ยูนิต เหลือเพียง 9 ยูนิต เพราะโครงการนี้เรียกได้ว่าเอ็น ริช พลิกรูปแบบบ้านของฝั่งตะวันตกจา กความโมเดิร์นของแบบบ้านและฟั งก์ชั่นการใช้งาน “ตอนแรกเปิดโครงการเดอะมาร์คตั้ งใจจะใช้เวลาขายปีครึ่ง แต่ตอนนี้เปิดมา 4 - 5 เดือนเราปรับแผนใหม่จะจบให้ได้ภ ายในสิ้นปีนี้ เพราะนอกจากทำเล ที่เรียกได้ว่าดีมากๆแล้ว ดีไซน์ และฟังก์ชั่นการใช้งานก็ตอบโจทย์ ลูกค้าเป็นอย่างมาก ซึ่งจะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่แย กครอบครัว ดูจากกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาปรากฎ ว่าตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ เรากำหนดไว้ นับเป็นโปรเจ็กต์ที่เราภูมิใจมา ก อีกทั้งโครงการ เดอะมาร์ค ยังได้ถูกเลือกเข้าประกวดใน Thailand Property Awards 2017 และเข้าชิงถึง 2 สาขาด้วย” นอกจากนี้ คุณสุพิชา ยังแสดงความเห็นเกี่ยวกับ สถานการณ์ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในขณะนี้นั้นที่หลายคนอาจห่วงเรื่ องซัพพลายล้นตลาดว่า โดยส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่เ ฉพาะเจาะจงของแต่ละโครงการ ว่าพัฒนาโครงการได้ตรงความต้องก ารของกลุ่มเป้าหมายและถูกที่ถู กเวลาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ ยังมีดีมานต์อยู่ เพราะเมืองก็ขยาย ในขณะเดียวกันแนวโน้มของการขยาย ครอบครัวของคนเมืองก็มีสูงมากขึ้ น ดังนั้นความต้องการบ้านใหม่ยังมี อยู่ แต่ว่าต้องวิเคราะห์ให้ตรงและตอ บโจทย์กลุ่มเป้าหมายให้ได้ “เชื่อว่าในตลาดอสังหาฯ ปัจจุบัน ถ้าเราจับ Real Demand มันก็ยังไปได้แน่นอน ส่วนดีมานด์เทียมเราก็ยอมรับว่า มีมานานแล้ว คือ การปั่นยอดขาย หรือคนเก็งกำไรก็เป็นอะไรที่คู่ กับตลาดมานานแล้ว ซึ่งคิดว่ายังไงก็หนีไม่พ้นอยู่ แล้ว บางคนมองว่าทำเลดีน่าซื้อเก็บไว้ สักพักค่อยขายต่อ มันเป็นเรื่องปกติของตลาด เราต้องทำความเข้าใจกับมันแต่สำ หรับเอ็นริช ส่วนใหญ่จับตลาดบ้านเดี่ยว ต้องบอกว่าคนที่มาซื้อส่วนใหญ่9 0%จะเป็นคนอยู่อาศัยจริง โอนจริง” คุณสุพิชา กล่าวในตอนท้าย