การอุดหนุนงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อใช้ในการจัดงานส่งเสริมประเภณีวัฒนธรรมในพื้นที่ต่างๆ กำลังจะกลายเป็นปัญหาหนักใจสำหรับผู้บริหาร หลังจากที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ได้ห้ามท้องถิ่น ใช้เงินงบประมาณ สนับสนุน หน่วยงานอื่นๆ ที่มีต้นสังกัด เช่น งานประเพณีต่างๆต้องเป็นเรื่อง กรมการศาสนา ซึ่งมีกระทรวง ศึกษาธิการ เป็นผู้ดูแลวัด และโรงเรียน อยู่ตามหน้าที่อยู่แล้ว ท้องถิ่น จึงไม่สมควรจะต้องลงไปดูแล เพราะไม่ใช่หน้าที่โดยตรง นายวรพงศ์ วรทัศน์ นายก อบต. บางพรม อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม กล่าวว่า อบต.บางพรมสนับสนุนวัดแก่นจันทร์เจริญ ในเขตตำบลบางพรมเป็นเวลาหลายปี ที่มีการจัดงานประเพณีตักบาตรขนมครก แห่งเดียวในไทย หนึ่งเดียวในโลก เพื่อต้องการให้ประเพณีอันดีงามนี้ ไว้ให้เด็กรุ่นหลัง ได้ศึกษา หาความรู้ ตำนานต่างๆ ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมไทย และสืบสานต่อไป นายวรพงศ์ กล่าวต่อว่า แม้ว่าในปีนี้ จะมีปัญหาเรื่องงบประมาณในการจัดงานประเพณี ตักบาตรขนมครก ที่ อบต. จะสนับสนุน การจัดงาน ต่ำสุดปีละ 5หมื่นบาท และทาง อบจ.สมุทรสงคราม จะสนับสนุนงบประมาณ มาให้อีกจำนวนหนึ่งทางสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสงคราม และทางสำนักพุทธจังหวัดสมุทรสงครามก็สนับสนุน ในเรื่องของการจัดงาน และจัดพิธีการต่างๆ อีกส่วนหนึ่ง จึงทำให้งานประเพณีตักบาตรขนมครกของวัดแก่นจันทร์เจริญจัดได้ผ่านไปอีกปีหนึ่ง “ถือเป็นอีกปีหนึ่งที่ คณะกรรมการจัดงานไม่ค่อยสบายใจนัก เพราะ ก่อนหน้าที่จะจัดงานประเพณีตักบาตรขนมครกทางท้องถิ่น ทั้ง อบต.บางพรม และ ทาง อบจ.สมุทรสงคราม ต่างวิตกว่างบประมาณที่เคยสนับสนุนให้กับวัดแก่นจันทร์เจริญ จัดงานประเพณีตักบาตรขนมครก ทุกปี แต่การตีความของ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. และ และ ปปช. ก็จับตามองว่า เป็นการใช้เงินผิดประเภทหรือไม่ เพราะ มี พรบ.ออกมาว่า ห้ามท้องถิ่น ใช้เงินงบประมาณ สนับสนุน หน่วยงานอื่นๆ ที่มีต้นสังกัดเช่นงานประเพณีต่างๆต้องเป็นเรื่อง กรมการศาสนา ซึ่งมีกระทรวง ศึกษาธิการ เป็นผู้ดูแลวัด และโรงเรียน อยู่ตามหน้าที่อยู่แล้ว ท้องถิ่น จึงไม่สมควรจะต้องลงไปดูแล เพราะไม่ใช่หน้าที่โดยตรง เช่นเดียวกับ นายพิสิฐ เสือสมิงนายก อบจ.สมุทรสงคราม กล่าวว่า ก็ลังเลอยู่พอสมควรว่า จะจัดงบประมาณให้กับทางวัดแก่นจันทร์เจริญ จัดงานประเพณีตักบาตรขนมครกได้หรือไม่ เพราะ สตง. มีหนังสือผ่านมาว่าท้องถิ่นไม่สามารถจัดสรรงบประมาณ ส่งเสริมวัดหรือโรงเรียน และหน่วยงานอื่นๆ ได้ เช่น งานประเพณีต่างๆ ประเพณีตักบาตรขนมครกของวัดแก่นจันทร์เจริญ ประเพณีถือศีลกินเจเจ้า ประเพณีลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง แต่พอปรึกษา ผู้รู้กฎหมาย ก็แนะนำว่า น่าจะสนับสนุนตามปกติได้ เพราะอยู่ในหมวดส่งเสริมด้านศิลปวัฒนธรรม และประเพณีต่างๆ แต่ถ้าไปสนับสนุน แบบจ่ายค่าอาหารถวายพระภิกษุ และสามเณร เนื่องในวันออกพรรษา อย่างนี้ไม่ได้ เพราะไม่ใช่การจัดงานปกติ นายพิสิฐ กล่าวต่อว่า แต่สำหรับประเพณีตักบาตรขนมครก ของวัดแก่นจันทร์เจริญ เป็นเรื่องของการอนุรักษ์ วัฒนธรรม แลประเพณีอันดีงาม เพื่อให้คนรุ่นหลัง คือเด็กและเยาวชนได้เรียนรู้ และสืบทอดต่อไป หากไม่อนุรักษ์ หรือทำนุบำรุงไว้ ประเพณีอันดีงามก็จะหายไป แล้วเด็กและเยาวชน ก็ไปเอาแบบอย่าง ต่างประเทศเข้ามาแทน ดูตัวอย่างเรื่องการรำการเต้น สมัยก่อนเป็นการรำ อ่อนช้อยน่ารัก แต่ในปัจจุบัน เป็นการเต้น หรือ ดิ้น ซึ่งมันไม่ใช่ศิลปะและวัฒนธรมของไทย อบจ.สมุทรสงคราม มีความตั้งใจแล้วว่า เกี่ยวกับเรื่องการสนับสนุน ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและประเพณีต่าง ๆ ทั้งของชาวไทย และชาวจีน อบจ.จะให้การสนับสนุนทุกโครงการ “ในปีนี้งานประเพณีตักบาตรขนมครก ของวัดแก่นจันทร์เจริญ ที่ผ่านมา มีเด็กนักเรียนและเยาวชน มาร่วมพิธีกันจำนวนมาก หลากหลายโรงเรียน ด้วยกัน ทั้งโรงเรียนในเขตพื้นที่ และโรงเรียนนอกเขตพื้นที่ ที่ต้องการ นำเด็กนักเรียน มาเรียนรู้ วัฒนธรรม ประเพณี ของคนไทย ในอดีตนั้นเป็นอย่างไร เด็กรุ่นใหม่ที่ผู้ปกครอง ซื้อแต่ขนมเค้กฝรั่ง เคปญี่ปุ่น สาหร่ายจีน หรือของขบเคี้ยวที่ ไม่มีประโยชน์ ต่อร่างกาย และการเติบโตของเด็ก ยิ่งเฉพาะอาหารที่ ต้องไปบำรุงสมอง ต้องเป็นอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ใช่ตามแฟชั่นนิยม ทาง อบจ.สมุทรสงคราม จึงคิดต่อไปว่า คงสนับสนุนกิจกรรมประเพณีตักบาตรขนมครกตลอดไป” นายกอบจ.สมุทรสงครามกล่าว การจัดงานประเพณีตักบาตรขนมครก ของวัดแก่นจันทร์เจริญ เลิกราไปหลายปี เพราะมีอุปสรรคต่างๆ ไม่สามารถจัดพิธี หรือจัดงานได้ ต่อมา ก็ประมาณ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ก็มีหลายคน เริ่มมีความคิดว่า น่าจะฟื้นฟู ปะเพณีตักบาตรขนมครกขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาหาความรู้และร่วมกันสืบทอดตลอดไป สำหรับ ในปีนี้ ผู้ที่มาไม่ทัน เพราะพึ่งทราบข่าว ก็ไม่เป็นไร ปีหน้าจำไว้ แรม 8 ค่ำ เดือน 8 วัดแก่นจันทร์เจริญ ต.บางพรม อ.บางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม จัดงานประเพณีตักบาตรขนมครก แห่งเดียวในไทย หนึ่งเดียวในโลก เรื่อง : สราวุฒิ ศรีธนานันท์/สมุทรสงคราม