ราชบุรีชวนท่องเที่ยวตามรอยรัชกาลที่ 9 เยือนเขาชะงุ้มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในวันที่ 4 มกราคม 2528 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานพระราชกระแสกับหม่อมเจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธ์ ซึ่งนำความกราบบังคมทูลเกี่ยวกับ โครงการการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มฯ ดังนี้ - แนวทางการฟื้นฟูให้พัฒนาแหล่งน้ำเป็นที่ปลูกไม้ยืนต้นให้มีความชุ่มชื้น สวยงามตามธรรมชาติ - ให้ใช้ชื่อโครงการฯ ตามที่เสนอไปคือ โครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ - การศึกษาปรับปรุงบริเวณที่ดินเสื่อมโทรมอย่างหนัก โดยวิธีการเสริมสร้างแหล่งน้ำปรับปรุงบ่อดิน แก้ปัญหาดินลูกรังและจัดระดับให้เหมาะสมเพื่อให้มีน้ำใช้ “โครงการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ตามรอยรัชกาลที่ 9” เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์แผนการท่องเที่ยวของจังหวัดราชบุรี โดยเฉพาะ โครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอโพธาราม ได้กลายเป็นแลนด์มาร์คของจังหวัดราชบุรี ซึ่งปัจจุบันมาเป็นศูนย์ศึกษาและพัฒนาด้านเกษตรกรรมส่งเสริมอาชีพแก่เกษตรกรและผู้สนใจ ทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ประชาชนคนไทยและผู้สนใจแวะไปศึกษาสัมผัสวิถีชีวิตเรียบง่ายพอเพียงพออยู่พอกินมีความสุขอย่างยั่งยืนตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 นายบุญช่วย ช่วยระดม ผู้อำนวยการโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ กล่าวว่า ในปี 2529 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรโครงการศูนย์ศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มฯ เป็นครั้งแรก ทรงมีพระราชดำริ ให้ดำเนินการศึกษาหาวิธีการปรับปรุงดินเสื่อมโทรมให้สามารถใช้ประโยชน์ในการเพาะปลูกได้ โดยทำการทดสอบวางแผนและจัดระบบปลูกพืชที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ในลักษณะศูนย์ศึกษาการพัฒนาขนาดย่อม นายบุญช่วยบอกว่าภายในโครงการฯ สามารถเข้าชมบริเวณภายใน ซึ่งประกอบด้วย แปลงสาธิตการพัฒนาดิน การปลูกพืช ปลูกไม้ที่เหมาะสมกับสภาพดิน ซึ่งเบื้องต้นการพัฒนาดินโดยต้องให้ความสำคัญเรื่องน้ำที่เป็นปัจจัยสร้างความชุ่มชื้นความเจริญงอกงามของสรรพชีวิต ผู้ที่เข้าเที่ยวชมพื้นที่จะได้ซึมซับการเรียนรู้ต่างๆ ได้ชื่นชมพลับพลาที่ประทับซึ่งเตรียมไว้รับเสด็จในหลวง รัชกาลที่๙ ตั้งอยู่บริเวณอ่างเก็บน้ำ และต้นประดู่อายุ 21 ปี ที่พระองค์ทรงปลูกไว้ เส้นทางศึกษาธรรมชาติบนป่าเขาเขียว ในเส้นทางได้สัมผัสกับป่าเต็ง และป่า เบญจพรรณ จุดชมวิวเขาเขียวเห็นพื้นที่ด้านล่าง เป็นต้น ปีหนึ่งๆ ในช่วงฤดูท่องเที่ยวฤดูหนาวปลายปี เช่นในปี 2559 ได้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าเขาชะงุ้มมากกว่า 160,000 คน สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชน ซึ่งปัจจุบันเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่จังหวัดราชบุรี ผลักดันให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ เปรียบเสมือนเป็นพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ เป็นแลนด์มาร์คของจังหวัดราชบุรี” ผู้อำนวยการโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มฯกล่าวอีกว่า นอกจากพื้นที่กิจกรรมตามรอยพระบาทในหลวงรัชที่ 9 ณ โครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอโพธาราม แล้ว ยังมีสถานที่ที่พระองค์ทรงเคยเสด็จฯเยือน โดยทรงปลูกต้นอินทนิล ๒ ต้น ไว้เป็นที่ระลึก และเป็น Unseen ในจังหวัดราชบุรี นั่นก็คือ “วัดป่าพระธาตุเขาน้อย” อำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี ซึ่งภายในวัดยังมีอัฐิธาตุหลวงปู่เทสก์ ให้นักท่องเที่ยวได้กราบนมัสการเพื่อความเป็นสิริมงคล รวมถึงบนเขายังเป็นจุดชมวิวพาโนราม่า มองได้รอบทิศทาง 360 องศา นายบุญช่วยบอกอีกว่านอกจากแหล่งท่องเที่ยวตามรอยเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรรัชกาลที่ 9 ดังที่ได้กล่าวข้างต้น ยังมีชุมชนที่น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงฯ นำมาปรับใช้ในการบริหารจัดการการดำรงชีวิตเพื่อความพออยู่พอกินโดยยึดแนวพระราชดำริประยุกต์เอาทรัพยากรธรรมชาติที่ได้รับการฟื้นฟูอนุรักษ์มาสร้างมูลค่าด้านการท่องเที่ยวโดยชุมชน ทำให้เกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดราชบุรี นั่นก็คือ “กาดวิถีชุมชน ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงฯ” หรือ ตลาดเมืองโบราณบ้านคูบัว ตั้งอยู่ ณ วัดโขลงสุวรรณคีรี อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี พระครูใบฎีกาสุพจน์ ธีรวํโส เจ้าอาวาสวัดโขลงสุวรรณคีรีในฐานะแหล่งรวมใจของชาวชุมชนผู้นำทางสู่ความดีงามตามหลักธรรมในพระพุทธศาสนา กล่าวว่า วันนี้วัด โรงเรียน ชุมชน และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันเดินตามรอยพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ริเริ่ม “กาดวิถีชุมชนคูบัว” ขึ้น เพื่อให้เป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวโดยชุมชน ไท – ยวน เป็นตลาดย้อนยุค ที่มีบรรยากาศตามวิถีชีวิตท้องถิ่นของชุมชน มีเอกลักษณ์ และอัตลักษณ์ความเป็นไท- ยวน ดั้งเดิม “กาดวิถีชุมชนคูบัว” ณ วัดโขลงสุวรรณคีรี ตำบลคูบัว อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เปิดให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสบรรยากาศได้ในทุกวันศุกร์ - เสาร์ – อาทิตย์ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยวได้เดินทางมาพักผ่อน เก็บงำประสบการณ์หลักการดำเนินชีวิตตามแนวพระราชดำริพอเพียงที่ชาวบ้านน้อมนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เที่ยวชม และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชม นำมาซึ่งรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของชาวชุมชน รวมถึงการได้ศึกษาประวัติศาสตร์ของเมืองโบราณบ้านคูบัว ได้สัมผัสโบราณสถานความรุ่งเรืองในสมัยทวารวดีของเมืองราชบุรีอีกด้วย แล้วก็อีกมากมายหลายแห่งที่ผู้ไปเยือนจังหวัดราชบุรีจะเด้สัมผัสเน้นทางตามรอยพระยุคลบาทในเส้นทางโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตามรอยรัชกาลที่ 9” เฉพาะในพื้นที่จังหวัดราชบุรี สามารถเชื่อมโยงเป็นเส้นทางท่องเที่ยว เพื่อให้ประชาชนได้น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้จากเรื่องราวแห่งพระราชกรณียกิจที่ทรงมีต่อชาวจังหวัดราชบุรีและคนไทยทั้งประเทศที่มีประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า และมีเหตุการณ์อันน่าประทับใจ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 032-3222028