บางครอบครัวอาจมี "แกะดำ" เช่นเดียวกับครอบครัว "มิดเดิลตัน" ของเจ้าหญิงแคเธอรีน ดัชเชส แห่งเคมบริดจ์ พระชายาในเจ้าชายวิลเลียม ดยุคแห่งเคมบริดจ์ องค์รัชทายาทลำดับสองของราชวงศ์อังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนางสาวเคทกลายมาเป็นที่สนใจของคนทั่วโลกด้วยการเข้ามาเป็นสะใภ้หลวง ได้กลายเป็นเจ้าของหัวใจเจ้าชายที่ฮ็อตที่สุดของโลก แม้เวลาจะผ่านมาหลายปีแล้ว แต่ทุกเรื่องทุกการเคลื่อนไหวของเจ้าหญิงแคเธอรีนยังคงเป็นกระแสเสมอ โดยเฉพาะทายาทพระองค์น้อยๆ 2 องค์อย่างเจ้าชายจอร์จ แห่งเคมบริดจ์ กับเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ แห่งเคมบริดจ์ ที่ใช้ความน่ารักเอาชนะใจคนทั่วโลกถล่มทลาย ล่าสุด เพิ่งจะสดๆ ร้อนๆ สัปดาห์ก่อน สำนักพระราชวังเคนชิงตันยืนยันมาแล้ว ว่าเจ้าหญิงแคเธอรีน และเจ้าชายวิลเลียมกำลังจะมีทายาทพระองค์ที่สาม กลับมาที่แกะดำของครอบครัว ยิ่งพี่สาวคนโตถูกแสงไฟส่องให้เจิดจรัสเฉิดฉายเท่าไหร่ อีกด้าน "เจมส์ มิดเดิลตัน" ก็เหมือนคนที่อยู่ในเงา ซ้ำยังถูกกล่าวหา พาดพิง จริงเท็จแค่ไหนไม่มีใครรู้ แม้แต่ "พิปปา มิดเดิลตัน" น้องสาวอีกคนก็ตกเป็นข่าวฉาวอยู่บ่อยๆ ดีหน่อยตอนนี้เธอออกเรือนไปเรียบร้อย วันนี้เราจะมาโฟกัสกันที่ลูกชายคนเดียวของครอบครัว ลองมาดูกันว่าเรื่องฉาวอะไรบ้างที่อยู้รายล้อมรอบตัวเจมส์ ๐ บริษัทร่ำรวยรวดเร็ว ก่อนงานอภิเษกสมรสปี 2554 น้องชายเจ้าปัญหาของเจ้าหญิงเคทเข้าไปมีเอี่ยวกับเรื่องน่าอับอาย ว่าเขาทำงานให้กับริษัทลงทุนที่มุ่งเน้นการร่ำรวยในระยะเวลารวดเร็ว ซึ่งบริษัทนี้ถูกสอบสวนว่าทำธุรกิจหลอกลวง เช่น ขายหน่วยลงทุนที่ไม่ได้มีอยู่จริง จนมีข่าวลือว่าอาจจะกระทบงานใหญ่ของพี่สาว ซึ่งเคทไม่แฮปปีอย่างมาก หลังจากเธอรอมานานถึง 7 ปี กว่าเจ้าชายวิลเลียมจะคุกเข่าของแต่งงาน แต่ในที่สุด เจมส์ก็ได้รับการพิสูจน์ว่าไม่ได้ทำอะไรผิด แต่นั่นแหละมันหลายมาเป็นจุดด่างไม่เพียงงานวิวาห์ แต่กับทั้งครอบครัวมิดเดิลตันเลย ๐ เมาจนต้องหาม ไม่ผิดที่ใครสักคนจะชอบออกไปดื่มที่นั่นที่นี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานวันเกิด ย้อนไปงานวันเกิดอายุครบ 22 ปี ของเขาเมื่อปี 2552 เจมส์เมาทิ้งร่างขนาดที่ว่า ไมเคิล มิดเดิลตัน ผู้เป็นพ่อ และพิปปา มิดเดิลตัน พี่สาวต้องมาหามกลับบ้าน จากไนต์คลับหรูที่เข้าได้เฉพาะสมาชิกเท่านั้นในกรุงลอนดอน ไปถึง 90 นาทีหลังจากที่พวกเขากลับถึงบ้าน เคทในเวลานั้นแทบจะอายจนต้องแทรกแผ่นดินหนี เธอไม่ได้แสดงความพยายามที่จะช่วยเหลือน้องชายเลย ขณะที่แคโรล แม่ของเธอกลับทำ (เรื่องไม่จำเป็น) ในการหยุดไม่ให้สังคมเมาท์กันถึงภาพวันนั้น ก็เห็นได้ชัดว่าความพยายามในการไล่ตามตัวช่างภาพที่ถ่ายรูปเจมส์ยีนฉี่ที่ริมรั้วนั้นล้มเหลว ๐ เค้กต้องห้าม อย่างที่เราทราบ ความสามารถหนึ่งของเจมส์คือ เขาเอาดีทางด้านทำเค้ก ใขาเคยได้รับคำเชิญจากนิตยสาร Hello! ให้ทำเค้ก 21 ก้อน เพื่อฉลองครบรอบ 21 ปีของนิตยสาร ปรากฎว่าหนึ่งในนั้นเป็นเค้กรูปเจ้าหญิงไดอาน่าผู้ล่วงลับ หลายคนมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องอ่นไหว ไม่เหมาะสม ว่าเจมส์กำลังหากำไรจากการที่มีความเกี่ยวพันกับราชวงศ์ แม้ในเวลานั้นยังอีกถึง 2 ปี จึงจะมีพิธีอภิเษกสมรส สำหรับคนธรรมดาที่อบเค้กกันเองในบ้าน หากจะทำเค้กรูปเจ้าหญิงไดอานาก็คงไม่เป็นประเด็น แต่เขาในฐานะน้องชายของว่าที่หลานสะใภ้ราชินีอังกฤษ เรื่องนี้มันเลยสามารถถูกมองว่าแตกต่างไปอยู่บ้าง ๐ เป็นเกย์หรือไม่ คนจำนวนไม่น้อยสงสัยว่าเจมส์อาจจะชอบเพศเดียวกัน จากหลายๆ เหตุการณ์เลี่ยงไม่ได้ที่หลายคนจะตั้งคำถาม เช่นในงานอภิเษกสมรส เจมส์มากับเพื่อนซี๊ผู้ชาย แทนที่จะควงใครสักคนมางาน ปกติเขาก็เป็นคนมีสีสันตามหน้าสื่ออยู่แล้ว ยิ่งข่าวลือว่าเขาสนิทสนมกับผู้ชายหลายคน ขณะที่ ไม่ค่อยจะมีข่าวเรื่องแฟนสาว หรือข่าวกับสาวใดเลยยิ่งเติมเชื้อไฟ แต่ก็นั่นแหละ ต่อเขามีรสนิยมแบบไหนก็ไม่เห็นจะผิดเสียหน่อย ใครแคร์หล่ะ ๐ ยังต้องพึ่งพาพ่อแม่ เจมส์เลือกไม่ได้หลังจากธุรกิจเค้กของเขาประสบภาวะขาดทุนมหาศาลในปี 2555 จำต้องหันหนาไปรับการสนับสนุนด้านการเงินจากบิดามารดา ซึ่งนั่นไม่ผิดอะไรหรอก ใครจะอิจฉาที่เขาเกิดมาโชคดีกว่าคนอื่น เลยล้มบนฟูกก็ช่วยไม่ได้ แต่ข่าวว่า เขาเป็นหนี้ถึง 5 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ ที่สุดแล้วก็เป็นไมเคิล กับแคโรลที่มาช่วยเอาไว้ ต้องไม่ลืมว่าช่วงนั้นสถานการณ์เศรษฐกิจไม่ดีเอาเสียเลย เจมส์บอกว่า เขาตัดสินใจทำธุรกิจด้วยตัวเอง โดยการกู้เงิน ไม่ได้มองหาคนมาร่วมลงทุน ซึ่งมันก็มีทั้งข้อดีแล้วข้อเสีย มันอาจะไปได้ไม่รวดเร็วนัก แต่เขาก็สามารถเป็นคนตัดสินใจทั้งหมดได้คนเดียว แต่ก็นะเราก็รู้ตอนจบกันแล้วหนิ ๐ ขนมหวานเพื่อชาวเกย์ เป็นเรื่องที่คนอื่นไม่ทำ แต่เจมส์ทำ เมื่อเขานำเสนอผลิตภัณฑ์ขนมมาร์ชเมลโลว์ให้กับลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นชาวรักร่วมเพศ ให้ใช้ขนมนี้เป็นสื่อในการบอกเพื่อนฝูง และครอบครัว ถึงตัวตนที่ตัวเองเป็น เขากล่าวสนับสนุนว่า อย่าไปกลัว เป็นอะไรก็บอกไปเลยตรงๆ แต่คนเขาไม่เข้าใจว่าขนมนี่จะช่วยในเรื่องซีเรียสที่ต้องพูดคุยอย่างจริงจังในบางครอบครัว โดยเฉพาะบ้านที่อนุรักษ์นิยมจ๋าตรงไหน กับแผนการตลาดที่ว่า "ขนมหวานที่วิธีที่ดีที่สุดที่จะบอกข่าวกับครอบครัวและเพื่อน" แล้วทำไมมันต้องเป็นหขนมนี่หล่ะ