ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีประชาชนในพื้นที่ ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ออกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเทศบาลตำบลนาดี ปล่อยทิ้งรถดับเพลิงของหน่วยกองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯ จำนวน 2 คัน ที่มีป้ายระบุว่ารถเสียทิ้งไว้มานาน 6-7 เดือนแต่ไม่มีการซ่อมแซม ส่งผลให้ต้องจอดทิ้งไม่สามารถใช้งานบริการเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ จึงมีข้อร้องเรียนตามมาโดยตลอด เนื่องจากตั้งแต่ต้นปี 2560 เป็นต้นมา ตำบลนาดีได้เกิดไฟไหม้ใหญ่ขึ้นมาแล้ว 4 ครั้ง แต่ไม่มีรถดับเพลิงของเทศบาลเข้าระงับเหตุต้องอาศัยรถ อปท.พื้นที่ใกล้เคียง พันจ่าเอกอัษฎางค์ วิเศษวงศ์ษา ปลัดเทศบาลตำบลนาดี ในฐานะปฏิบัติราชการแทนนายกเทศมนตรีตำบลนาดี กล่าวว่า ปัญหาเรื่องรถดับเพลิงที่จอดทิ้งไว้ดังกล่าว ทางเทศบาลนาดีนั้นมีปัญหาเรื้อรังมานานหลายเดือนแล้วจริง รถคันแรกหลังมีเจ้าหน้าที่ขออนุมัติซ่อมแซมใช้งาน ก็อนุมัติเห็นชอบโดยหลักการ แต่เมื่อให้ไปสำรวจและประเมินความคุ้มค่าเรื่องงบการซ่อมบำรุง เป็นเงินถึง 390,000 บาท ตนกับคณะกรรมการบางคนก็เห็นว่ามีรายการค่าใช้จ่ายในบางส่วนที่เสียเงินสูงเกินไป จึงยังไม่ได้อนุมัติวงเงินเพื่อนำขึ้นมาซ่อมใช้ แต่ได้มีการส่งเรื่องกลับไปให้สมาชิกสภาฯพิจารณาใหม่ แต่ก็ยังไม่ได้รับการยืนยันกลับมา ซึ่งส่วนตัวก็เห็นว่าควรต้องมีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาอย่างละเอียดกันอีกครั้ง พร้อมมีการเทียบเคียงราคาข้อมูลกับ อปท.แห่งอื่นๆที่เคยดำเนินการซ่อมแซมกันทั้งระบบ เพื่อมาประเมินราคากลางและให้เกิดความโปร่งใส อย่างไรก็ตามด้วยความล่าช้าของคณะเหล่าสมาชิกสภเทศบาล จึงเป็นเหตุให้ระยะเวลาของการอนุมัติวงเงินลงมาไม่ทันภายในปี 2560 จึงต้องขยายระยะเวลาไปในปีงบประมาณ 2561 โดยมีเจ้าหน้าที่ที่ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการใหม่อีกครั้ง แต่ต้องมีการแก้ไขบางรายการและบางประเภทด้วย “สำหรับรถดับเพลิงคันที่ 2 นั้น ให้เสนอขออนุมัติซ่อมแซมขึ้นใหม่เช่นเดียวกัน ถ้าหากราคาประเมินถูกกว่าคันแรก ก็จะดำเนินการซ่อมแซมคันที่ 2 ก่อน แต่ถ้าวงเงินการซ่อมแซมทั้ง 2 คันคู่รวมกันแล้วไม่สูงเกินไปกว่างบประมาณที่กำหนดไว้ก็จะทำได้พร้อมๆกันเลย อย่างไรก็ตามมั่นใจได้เลยว่า ทางเทศบาลฯจะดำเนินการซ่อมแซมรถดับเพลิง และบรรทุกน้ำใช้ดับไฟทั้ง 2 คันอย่างแน่นอน แต่มีระยะเวลาภายในเดือนมกราคม 2561 ซึ่งจะต้องเป็นไปตามเกณฑ์กฎหมายและตามระเบียบของภาครัฐกำหนดไว้ด้วย" ปลัดเทศบาลตำบลนาดี กล่าวอีกว่า ส่วนช่วงเวลาว่างที่ยังไม่ได้ทำการซ่อมนั้นจะไปหารือกับทางเทศบาลอื่น หรืออาจจะไปขอยืมรถดับเพลิงมาจอดไว้ที่เทศบาลนาดีก็เป็นได้ เพื่อมีเตรียมไว้รับมือเหตุไฟไหม้มนพื้นที่เราได้ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับในส่วนเรื่องของการจัดซื้อรถดับเพลิงขนาด 12,000 ลิตร ส่วนหนึ่งก็ต้องมีการผ่านการทำประชาคมความต้องการของชาวบ้าน ซึ่งขณะนี้ทางสมาชิกสภาฯเห็นชอบและอนุมัติงบประมาณผ่านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าจะให้มีการจัดซื้อรถดับเพลิงขนาด 6,500 ลิตรแทนขนาด 12,000 ลิตร จะต้องไปเข้าสู่กระบวนการนับหนึ่งใหม่ ดังนั้นเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการต่างๆ ตนเห็นก็ว่าควรที่จะเดินหน้าต่อไปในเรื่องของการจัดซื้อรถดับเพลิงขนาด 12,000 ลิตร ส่วนรถดับเพลิงขนาด 6,500 ลิตรนั้น ก็ให้นำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ เพื่อขออนุมัติกันต่องบประมาณในปี 2562” ด้าน จ่าเอกสุทธิพันธ์ แก้วมีศรี หัวหน้าฝ่ายงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯนาดี เผยว่า ขณะนี้บุคลากรด้านดับเพลิง จำนวน 20 คน และรถดับเพลิง 2 คัน คือสภาพเป็นรถบรรทุกน้ำขนาด 10,000 ลิตร“สี่วา 1” จัดงบประมาณซื้อมาใช้เมื่อปี 2546 ส่วนอีกคัน “สี่วา 2” จัดซื้อเมื่อปีงบประมาณ 2550 ซึ่งได้ใช้งานมานานกว่า 10 ปีแล้ว จึงมีชำรุดเสียหายและต้องทำการซ่อมบำรุงกันปกติธรรมดา จนกระทั่งเมื่อประมาณเดือนธันวาคม 2559 รถดับเพลิงทั้ง 2 คัน ได้ชำรุดเสียหายอย่างหนักรวมทั้งเสียหายในระบบต่างๆ รถจึงเป็นปัญหาต้องจอดทิ้งไว้ดังกล่าว ต่อมาได้มีการขออนุมัติซ่อมรถคันสี่วา 1 ก่อน แต่เบื้องต้นทางปลัดเทศบาลฯ ได้เห็นชอบในหลักการและให้มีการอนุมัติซ่อมแซม ก่อนจัดการสำรวจความเสียหาย พร้อมกับประเมินราคาค่าซ่อมบำรุง เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการตามความเห็นว่า ควรซ่อมแบบครอบคลุมทั้งระบบ 9 อย่าง โดยมีวงเงินงบประมาณ 390,000 บาท ประกอบด้วย 1.ซ่อมระบบคาร์ท 2.ระบบเบรก 3.ระบบขับเคลื่อน 4.ระบบไฟฟ้า 5.ประผุพ่นสี 6.คัทซี 7.ระบบเครื่องยนต์ 8.ระบบของท่อน้ำเข้า-ออก และ 9.เปลี่ยนยางล้อรถ 8 เส้น อย่างไรก็ตามเมื่อสำรวจราคาทั้งจากผู้รับเหมาและจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นข้างเคียง ที่เคยทำการซ่อมแซมแบบลักษณะเดียวกัน ก็ได้เสนอเข้าสู่กระบวนการพิจารณาเพื่อขออนุมัติวงเงินซ่อมแซม จ่าเอกสุทธิพันธ์ กล่าวต่อว่า ปรากฏว่าปลัดเทศบาลนาดีไม่อนุมัติให้ซ่อมแล้ว จากนั้นจึงถูกจอดทิ้งไว้เรื่อยๆมา กระทั่งผ่านมานานหลายเดือนจนถึงวันนี้ ส่งผลให้เทศบาลฯไม่มีรถดับเพลิงใช้ปฏิบัติงานเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ในพื้นที่ ซึ่งเหลือแต่อุปกรณ์ของการใช้เข้าผจญเพลิงเท่านั้นของจำนวนบุคลากรดับเพลิง จำนวน 20 คน ทำให้เวลาที่เกิดเหตุไฟไหม้แต่ละครั้ง เจ้าหน้าที่ก็ได้แต่เข้าไปในที่เกิดเหตุแล้วก็โทรประสานขอความช่วยเหลือจากรถดับเพลิงจากเทศบาลอื่นๆ เพราะไม่สามารถช่วยเหลืออะไรให้ชาวบ้านได้เลย ทำให้ จนท.รู้สึกท้อแท้บางครั้งและหมดกำลังใจทำงาน เพราะไม่สามารถช่วยเหลือผู้ที่ถูกไฟไหม้ได้ “สำหรับเรื่องของการจัดซื้อรถคันใหม่นั้นได้มีการอนุมัติงบประมาณเพื่อการจัดซื้อแล้ว แต่จะซื้อรถขนาด 12,000 ลิตร แต่ทางเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเห็นว่า มีขนาดใหญ่เกินไป ไม่เหมาะกับสภาพพื้นที่ของตำบลนาดี เพราะทุกวันนี้สภาพพื้นที่กลายเป็นชุมชนเมืองอุตสาหกรรม มีโรงงานอยู่มากมาย และถนนตรอกซอกซอยก็เล็ก การมีรถน้ำดับเพลิงขนาดใหญ่เกินไป ทำให้ยากต่อการเข้าถึงพื้นที่ ที่มีเส้นทางเล็กและแคบ จึงต้องการให้มีการจัดซื้อรถดับเพลิงขนาดไม่เกิน 6,500 ลิตร แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าทางสภาจะเห็นชอบด้วย อย่างไรก็ตามส่วนตัวมองว่าหากเทศบาลฯ หลังดำเนินการซ่อมรถเก่าทั้ง 2 คันให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ และอยากให้จัดซื้อรถดับเพลิงคันเล็กเพิ่มอีก 1 คัน จะได้เพียงพอต่อการปฏิบัติงานต่อไป” จ่าเอกสุทธิพันธ์ กล่าว