วันที่ 19 ต.ค.60 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รรม.รอง ผบ.ตร.โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัย น้ำไหลหลาก น้ำเอ่อล้นตลิ่ง จากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่นและการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา ห้วงตั้งแต่วันที่ 10-17 ต.ค. 60 ที่ผ่านมาว่า จกสถานะการณ์ดังกล่าวส่งผลให้พื้นที่ 12 จังหวัดประกอบด้วย จ.กำแพงเพชร ตาก พิจิตร นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี กาฬสินธุ์ หนองบัวลำภู และขอนแก่น บ้านเรือนประชาชาได้รับความเสียหาย และมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวรวม 6 ราย แม้ว่าปัจจุบันสถานการณ์ในบางจังหวัดคลี่คลายลง แต่ยังมีพี่น้องประชาชนอีกกว่า 80,223 หลังคาเรือนที่ยังได้รับความเดือดร้อน พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวแสดงความเสียใจมายังผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในครั้งนี้ทุกท่าน โดยเฉพาะครอบครัวของผู้ที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปในเหตุการณ์ครั้งนี้ อีกทั้งขอบคุณและชื่นชมพี่น้องข้าราชการตำรวจ ในพื้นที่ประสบอุทกภัยทุก ที่ได้ปฎิบัติหน้าที่ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างสุดความสามารถ ถึงแม้ตนเองจะตกอยู่ในสถานะของผู้ประสบอุทกภัยด้วยก็ตาม เช่น สภ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยาโดยจะเห็น ได้จากเสียงสะท้อนผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย และขอบคุณกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ต่างๆ ได้ริเริ่มขึ้นซึ่งหลายโครงการนับว่ามีประโยชน์อย่างยิ่ง อยากให้ข้าราชการตำรวจในพื้นที่อุทกภัยอื่นๆได้ออกไปให้คำแนะนำต่อพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัย เพื่อนนำไปปรับใช้ ยกตัวอย่างโครงการที่เป็นประโยชน์บางโครงการ ตลอดจนให้คำแนะนำต่อผู้ประสบภัย เช่น สภ.บางบาล จว.พระนครศรีอยุธยา เมื่อได้รับทราบว่าพี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนห้องส้วมที่ถูกสุขลักษณะ ก็ได้ค้นคว้าหาวิธีและออกประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ชาวบ้านในการประดิษฐ์ส้วมฉุกเฉินช่วยคราวใช้เอง อีกทั้งยังนำอุปกรณ์ที่สำคัญไปมอบให้จากเงินด้วยเงินส่วนตัวอีกด้วย ทำให้พี่น้องประชาชนได้มีสุขอนามัยที่ดีขึ้น ลดปัญหาโรคระบาดจากสภาวะอุทกภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ในนามของพล.ต.อ.จักรทอพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.รู้สึกชื่นชมต่อทุกความช่วยเหลือ ทั้งตามหน้าที่ และนอกเหนือหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีให้ต่อพี่น้องประชาชน และหน่วยงานอื่น และได้กำชับให้ข้าราชการตำรวจในพื้นที่ หากได้รับการประสานขอความช่วยเหลือใดๆ จากพี่น้องประชาชนหน่วยงานหลักที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยตรง ไม่ว่าจะเป็น สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยท้องถิ่น ตลอดจนองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นต่างๆ แล้ว ขอให้พยายามให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง และหากมีอุปสรรค ขัดข้องประการใด ขอให้ร้องขอการสนับสนุนการปฏิบัติมายังหน่วยเหนือหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังความสามารถต่อไป