รพ.ศิริราช คลื่นประชาชนหลั่งไหลวางดอกไม้จันทน์ พยาบาลเผยทั้งน้ำตาที่เคยสนองงานในหลวงทรงเป็นคนไข้ที่ยอดเยี่ยมด้านอดีตแพทย์ รพ.ศิริราช ย้ำให้คนไทยจดจำวันนี้ไว้นานๆ วันที่ 26 ต.ค. บรรยากาศวางดอกไม้จันทน์ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ข้างพลับพลาสยามินทราศิริราชานุสรณีย์ (ใกล้บริเวณท่าเรือรถไฟ) บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยในช่วงเช้ามีประชาชนจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาวางดอกไม้จันทน์บริเวณซุ้มวางดอกไม้จันทน์ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา อย่างไรก็ตามภายในโรงพยาบาลศิริราชได้มีการตั้งจุดจอโปรเจ็คเตอร์ถ่ายทอดพระราชพิธีบริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง และจุดบริการอาหารน้ำดื่มให้กับประชาชนที่เข้ามาวางดอกไม้จันทน์หน้าพระบรมมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทั้งนี้โรงพยาบาลศิริราชจะเปิดให้ประชาชนวางดอกไม้จันทน์ โดยให้ประชาชนลงทะเบียนเริ่มต้นจากหอประชุมราชแพทยาลัย โรงพยาบาลศิริราช แล้วมายังจุดพักคอยบริเวณใต้อาคารอาคารศรีสวรินทิรา และทยอยเดินมายังบริเวณพีธีซุ้มวางดอกไม้จันทน์ ทั้งนี้จะแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงแรกเวลา 09.00 น.-16.30 น.ศ.พญ.สุวรรณี สุรเศรณีวงศ์ รองคณบดีและผู้อำนวยการโรงเรียนแพทย์ศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประธานในพิธีถวายดอกไม้จันทน์ โดยเปิดให้คณะผู้บริหาร คณาจารย์ แพทย์ พยาบาลบุคลากร นักศึกษา และประชาชนวางดอกไม้จันทน์ตามลำดับ ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลศิริราชได้จัดเตรียมดอกไม้จันทน์ จำนวน 109,200 ดอก ไว้ให้ประชาชน ต่อมาเวลา 16.30-18.30 น.หยุดการวางดอกไท้จันทน์ เพื่อให้ประชาชนรวมใจเป็นหนึ่งส่งไปยังพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ พระเมรุมาศ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง สำหรับพิธีวางดอกไม้จันทน์จะเริมอีกครั้งในเวลา 18.30-22.00 โดย น.ศ.นพ.ประเสริฐ อัสสันตชัย รองคณบดีคนที่ 2 คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล เป็นประธานในพิธีนำถวายดอกไม้จันทน์ร่วมกับผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร นักศึกษาและประชาชนถวายดอกไม้จันทน์ และเวลาใน เวลา 22.00 น. ศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาลจะเป็นประธานในการอัญเชิญดอกไม้จันทน์ที่ประชาชนร่วมกันถวายไปเผาที่พระจิตกาธาน ณ วัดเจ้าอาม ร่วมด้วยผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร ที่มาร่วมในพิธี นางวิจิวัณย์ ทิพย์โส ผู้ช่วยหัวหน้าแพทย์พยาบาลโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตนรักเคารพและเทิดทูนในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นอย่างมากในชีวิตนี้ พระองค์คือต้นแบบทุกๆอย่าง ทรงเป็นทั้งพระมหาราชา เป็นพระบิดาของ พระมหากษัตริย์องค์ถัดมา แล้วยังเป็นพ่อของปวงประชาทั้งหลาย มอบหลายๆอย่างให้กับแผ่นดินไทย ที่ลูกๆได้อยู่อย่างเป็นสุขไม่ใช่ช่วงเฉพาะรัชสมัยของพระองค์ ประชาชนยังสามารถอยู่ด้วยพระบารมีของพระองค์ท่านไปอีกนานด้วยสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง โดยเฉพาะโครงการต่างๆ เพื่อให้พสกนิกรชาวไทยทุกคนมีความเป็นอยู่ที่ดี หรือแม้แต่เกษตรกร ชาวไร่ชาวนา พระองค์ท่านดูแลเสมอภาคกันหมดเพื่อให้ทุกคนที่อยู่ในประเทศไทยมีความสุข "มีความประทับใจพระองค์ท่านเรื่องการทรงงาน พระองค์ทำด้วยวิริยะอุตสาหะซึ่งเป็นความยากลำบากหลายๆอย่างต่อให้พระองค์เป็น พระมหากษัตริย์ก็ตาม แต่งานโครงการใหญ่ทั้งหมดที่พระองค์รับผิดชอบ และพระองค์เป็นผู้ริเริ่ม พระองค์ทรงงานด้วยความสุข ผู้ที่สนองงานก็มีความสุขด้วย ที่สำคัญพระองค์ทรงถ่ายทอดความรู้ หรือสอนแบบง่ายๆ ทุกคนที่ทำงานกับพระองค์จึงมีบทเรียนในการทำงาน ได้รับความรู้เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันพระองค์ก็ไม่ได้ถือพระองค์จนทำให้ประชาชนเข้าหาพระองค์ไม่ได้" ตนมีโอกาศสนองงานในหลวงรัชกาลที่ 9 ครั้งที่เสด็จมาประทับรักษาอาการ พระประชวร ตอนที่พระองค์ทรงเข้ารับการผ่าตัด ที่โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต ตอนนั้นต้องรับผิดชอบหลายๆอย่างในการเตรียมพร้อมเพื่อให้พระองค์ได้รับการผ่าตัดที่ปลอดภัยร่วมกับทีมแพทย์ที่ถูกคัดเลือกมาในการถวายการรักษา รู้สึกตื้นตันที่สุดในชีวิต ซึ่งพระองค์ได้ปฏิบัติองค์เป็นผู้ป่วยที่ดีมาก นางวิจิวัณย์ ทิ้งท้ายด้วยว่า ความภาคภูมิใจในวิชาชีพพยาบาลคือ เรียนมาแล้วได้สนองพระเดชพระคุณของพระองค์ท่าน ถ้าตอนเรียนแล้วจะรู้ว่าอนาคตจะได้มีโอกาศเข้ามาสนองงานตอนช่วงเรียนจะเรียนให้หนักกว่านี้อีก เพราะตนคิดว่ายังทำได้ไม่ดีพออยากให้ดีกว่านี้ เหมือนที่พระองค์ทรงทำทุกอย่าง พระองค์ก็คิดว่ายังสามารถทำได้ดีกว่านี้อีก ด้านนายดิลก ดุษฎีวนิช อายุ 78 ปี กล่าวว่า พูดไม่ออกเลยสำหรับองค์พ่อหลวงก็มีองค์เดียว ในชีวิตนี้ท่านจากไปก็ไม่รู้จะทำอย่างไร คงทำได้เพียงเดินตามรอยที่พระองค์ท่านสั่งสอนเอาไว้ ขอให้พระองค์ท่านเสด็จสู่สรวงสวรรคาลัย ประทับใจในองค์ท่านทุกๆอย่าง ถือเป็นแบบแผนในการดำเนินชีวิต ในหลวงของเราเกิดอีกกี่ร้อยชาติก็ไม่เจอ หลังจากนี้ก็คงระลึกถึงพระองค์ท่าน โดยการทำความดีใช้ชีวิตตามวิถีพอเพียง ขณะที่ นพ.อนุวัฒน์ ดวงประทีป อาจารย์แพทย์โรงพยาบาลศิริราช กล่าวถึงประทับใจต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 ว่า พระองค์ท่านในเรื่องการดูแลประชาชนเป็นอย่างดีมาตลอดโดยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยพระวรกาย ประชาชนมีความจงรักภักดีที่จะทำวันนี้ถวายพระองค์ท่าน และคิดว่าประชาชนคงมีท่านเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต ท่านทรงเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ ทรงทำเพื่อประชาชน อย่างหนึ่งที่อยากฝากถึงทุกคน คือ อย่าลืมวันนี้ จดจำความรู้สึกนี้ สิ่งที่อยากจะทำในวันนี้เก็บไว้นานๆ ในฐานะบุคลากรโรงพยาบาลศิริราชก็จะทำหน้าที่ของตนเองให้ดี เพื่อที่ว่าถ้าเราทำดีแล้วอย่างน้อยก็ไม่ส่งผลกระทบกับส่วนรวม