ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันที่ 2 พ.ย. ถึง 30 พ.ย. รัฐบาลได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร อนุญาตให้ประชาชนได้เข้าชมพระเมรุมาศ โดยวันที่ 2 พ.ย. เวลา 07.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จเป็นองค์ประธานในการเปิดงาน หลังจากนั้นประชาชนได้เข้าชมทั้งหมด ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ที่เราเชื่อถือว่าเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ นับว่าเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศ ที่เรายินดีเชิญชวนให้ทุกคนเข้าชม และคงไม่มีข้อบังคับอะไรมาก แค่ขอความกรุณาผ่านจุดคัดกรองที่มีไว้ 5 จุด โดยแต่งกายสุภาพตามสบายในลักษณะเดียวกันกับการเยี่ยมชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า การเปิดให้เข้าชมแต่ละวันจะเริ่มตั้งแต่ 07.00 - 22.00 น.ทุกวัน โดยกำหนดให้ประชาชนเข้าชมรอบละ 5,500 คน คาดว่าตลอดทั้งเดือนจะมีประชาชนเข้าชมกว่า 3 ล้านคน โดยเปิดให้เข้าชมรอบละ 60 นาที โดย 15 นาทีแรกเป็นการถ่ายภาพในจุดที่เหมาะสม จากนั้นจะมีเวลา 45 นาที ได้ชมพื้นที่ได้อย่างอิสระ สามารถถ่ายรูปได้ตามความเหมาะสมอย่างสุภาพ จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนทยอยเดินทางไปชมพระเมรุมาศ ซึ่งทุกเย็นก็จะมีมหรสพบนเวที บรรยากาศจะคล้ายกับช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นอกจากนั้นในส่วนพระที่นั่งทรงธรรมก็จะมีการจัดนิทรรศการพระราชกรณียกิจในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงพระราชทานให้กับประชาชนตลอดมา พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวถึงกิจกรรมในช่วงวันลอยกระทงในวันที่ 3 พ.ย. ว่า ในระหว่างที่มีงานพระราชพิธี นักท่องเที่ยวยังเดินทางมาประเทศไทย ไม่ได้ลดน้อยลงไป มีการจองที่พักเต็มไปจนถึงปีหน้า และมีกิจกรรมตามปกติ งานวันลอยกระทงก็จะมีตามปกติ เพื่อรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี เท่าที่ทราบกระทรวงวัฒนธรรม ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำข้อกำหนดร่วมกัน โดยมีการยกเว้นเรื่องการจุดพลุดอกไม้ไฟตามกฎกติกา ส่วนการปฏิบัติตามประเพณีก็ถือเป็นสิ่งที่สืบทอดกันมาก็สามารถปฏิบัติได้ตามปกติ เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเทพชัย หย่อง ประธานสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เข้าพบ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงการจัดงานสมาพันธ์นักข่าวอาเซียน ระหว่างวันที่ 25-27 มกราคม 2561 โดยพล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวภายหลังว่า สำหรับงานสมาพันธ์นักข่าวอาเซียน เป็นการรวมตัวของสื่อมวลชนในภูมิภาค ซึ่งจะจัดขึ้น 2 ปีต่อครั้ง โดยครั้งนี้ไทยได้รับผิดชอบเป็นเจ้าภาพ และได้มีการเชิญญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ เข้าร่วมด้วยเป็นอาเซียนบวกสาม โดยรัฐบาลก็ยินดีที่จะสนับสนุนให้การจัดงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งจะมีการหารือในรายละเอียดต่อไป