วันที่ 1 พ.ย.60 พล.อ.อักษรา เกิดผล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้กล่าวถึงกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เป็นการดำเนินการภายใต้นโยบายของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้น้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทานเข้าใจ เข้าถึง พัฒนามาเป็นกรอบแนวทางในการกำหนดนโยบาย โดยจากการพูดคุยที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันในเรื่องการจัดตั้งพื้นที่ปลอดภัย และสามารถทราบถึงท่าทีและสภาวะแวดล้อมของกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐผ่านกระบวนการพูดคุยฯ และช่องทางสื่อสารอย่างไม่เป็นทางการผ่านทางผู้อำนวยความสะดวกอีกด้วย พล.อ.อักษรา กล่าวว่า ปัจจุบันยังไม่มีประเด็นใดๆ ที่ทำให้การพูดคุยต้องหยุดชะงักตามที่สื่อเสนอข่าว ซึ่งขณะนี้ผู้เห็นต่างจากรัฐ ก็มีสภาพเช่นเดียวกับคณะพูดคุยฯ ฝ่ายไทย คือมีทั้งกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย และกลุ่มที่อยู่ตรงกลาง ดังนั้นกระบวนการพูดคุยฯ ที่เกิดขึ้นในระยะปัจจุบัน ซึ่งในช่วงการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ จึงเป็นเครื่องมือและวิธีการที่จะทำให้กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยและกลุ่มที่อยู่ตรงกลางเกิดความเชื่อมั่นในกระบวนการพูดคุยฯ ว่าจะสามารถนำไปสู่การยุติความรุนแรงและสร้างสันติสุขในพื้นที่ได้ ซึ่งเป็นเป้าหมายของคณะพูดคุยฯ ของทั้งสองฝ่าย พล.อ.อักษรา กล่าวว่า คณะพูดคุยฯ ขอยืนยัน ที่ผ่านมายังไม่ปรากฏข้อมูลหรือข่าวสารใดที่แสดงว่า มีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดที่สามารถเข้าถึงกลุ่มขบวนการได้อย่างแท้จริง ดังนั้นการเสนอข่าวของสื่อที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้าง องค์กร และยุทธศาสตร์ของกลุ่มขบวนการใดๆ จึงเป็นเพียงข้อมูลที่มาจากการวิเคราะห์ข้อมูลบางส่วนที่ได้จากการซักถามและได้ถูกเผยแพร่ไปในสื่อต่างๆ แต่เนื่องจากข้อมูลที่ได้จากการซักถามเหล่านี้เป็นการบอกเล่าของบุคคลที่ถูกจับกุมที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่ ดังนั้น ข้อมูลที่ได้จึงเป็นข้อมูลที่ได้รับการปรุงแต่งแล้วไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่องของขบวนการบีอาร์เอ็น ที่สื่อมวลชนบางคนพยายามเสนอข่าว เพื่อสร้างการรับรู้ต่อสังคมในฐานะของกลุ่มที่ใช้ความรุนแรง มาเป็นเงื่อนไขต่อรองในการพูดคุยฯ พล.อ.อักษา กล่าวว่า คณะพูดคุยฯ ไม่อยากให้สื่อมวลชนกลายเป็นกระบอกเสียงให้กลุ่ม ที่ยังใช้ความรุนแรงต่อประชาชนยื่นข้อเรียกร้องกดดันรัฐบาลและหากสื่อรวมถึงทุกภาคส่วนของสังคมสนับสนุนแนวทางสันติวิธีก็ย่อมไปกดดันให้กลุ่มที่ใช้ความรุนแรงต่อประชาชนหมดความชอบธรรมและต้องยุติการกระทำไปในที่สุด เช่นเดียวกับคณะพูดคุยฯ ที่พร้อมจะร่วมมือกับผู้เห็นต่างจากรัฐทุกกลุ่มทุกฝ่ายในแนวทางสันติวิธี สร้างพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งเป็นความหวังของประชาชนในพื้นที่ให้บรรลุผล เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยและการพัฒนาในพื้นที่นั้นต่อไป