วันที่ 2 พ.ย.60 นายถาวร เสนเนียม อดีตสส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์และแกนนำ กปปส. กล่างถึงกรณี พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน ตัดสินใจลาออกหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ละหัวหน้าคสช.ใช้มาตรา44 สั่งย้ายอธิบดีกรมการจัดหางานไปเป็นรองปลัดกระทรวงแรงงานว่า จากรณีการลาออกของรมว.แรงงาน ตนในฐานะประชาชนที่ใช้บริการรัฐบาลชุดนี้มา4ปีเห็นว่า ถึงเวลาที่นายกฯต้องมีการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ครั้งใหญ่เสียที โดยปรับไปในคราวเดียวกันนี้ เพราะมีรัฐมนตรีบางคน บางกระทรวงที่รับกำกับดูแลงานที่เกี่ยวข้องกับพี่น้องเกษตรกรคนส่วนใหญ่ของประเทศ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาทุกข์ยาก แก้ไขความเดือนร้อนให้ประชาชนได้ นายกฯอาจจะเกรงใจ หรือเป็นสุภาพบุรุษชาติทหารให้โอกาสพรรคพวก เพื่อนฝูง พี่น้องในการบริหารงานในกระทรวงที่แต่งตั้งให้ไปบริหาร แต่ทำให้พี่น้องประชาชนขาดโอกาส เพราะที่ผ่านมากระทรวงที่น่าจับตามองที่ต้องปรับ ครม.ครั้งนี้คือ ความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรตกต่ำเป็นประวัติการณ์ เช่น ข้าวหอมประทุม ที่วันนี้ภาคเหนือจ.เชียงราย ตกเหลือตันละ5,200 บาท ในภาคใต้เหลือ5,500 บาท ยางพาราแผ่นดิบตกเหลือกิโลกรัม(กก.)ละ39-41บาท แล้วแต่พื้นที่ทั่วประเทศไทย เศษยางก้อนตกมากเหลือกก. ละ18 บาท มีประชาชนที่รับผลกระทบมากกว่า40ล้านคน คือเกษตรกรชาวนา ชาวสวนยางพาราราว30 ล้านคน และอีก10ล้านคนเป็นแรงงานรับจ้างที่เกี่ยวเนื่องในการจ้างทำนา หรือรับจ้างกรีดยาง "ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ นายกฯได้ให้โอกาสรัฐมนตรีทั้งสองท่านนี้คือ รมว.เกษตรฯและรมว.พานิชย์มามากพอและ หลายครั้งแล้วในการแสดงฝีมือการบริหารแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ แต่ก็ล้มเหลว สินค้าหมวดเกษตรยังต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ชาวไร่ชาวนาเดือดร้อนถูกกดราคา หากจะให้โอกาสต่อไปก็ควรให้ หรือใช้ในเรื่องส่วนตัว แต่ไม่ใช่มาให้โอกาสทำหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรีที่มีผลกระทบต่อชีวิต ความเป็นอยู่ ปากท้องค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน เกษตรกรคนส่วนใหญ่ซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยและเจ้าของประเทศ ผมจึงเรียนต่อท่านนายกฯว่าเพื่อเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมของชาติ ท่านนายกฯควรจะปรับรัฐมนตรีทั้งสองกระทรวงนี้พ้นจากตำแหน่งได้แล้ว และควรจะเป็นการปรับ ครม.ครั้งใหญ่ โดยให้หาคนดีที่มีฝีมือ เป็นมืออาชีพมาทำหน้าที่แทนได้แล้ว" นายถาวร กล่าว