เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 2 พ.ย. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป1) ลงพื้นที่ จว.ศรีสะเกษ เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนคดี จากกรณีเมื่อวันที่ 20 ก.ค.60 นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี บ้านเลขที่ 83/1 ม.3 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.บึงมะลู แจ้งว่าเมื่อวันที่ 3 ก.ค.60 น.ส.จุฑาภรณ์ หรืออ้อย อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 65 ม.3 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ฯ ซึ่งเป็นบุตรสาว ได้หายตัวไปจากบ้านเช่าหลัง ธ.ก.ส. ในเขตเทศบาลเมืองกันทรลักษ์ พร้อมกับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีออส สีบรอนด์ หมายเลขทะเบียน กษ-8201-เชียงใหม่ ต่อมา สภ.กันทรลักษ์ รับเป็นคดีอาญาที่ 567/60 ลง 9 ส.ค.2560 เพื่อติดตามความคืบหน้าที่ในการสืบสวน การตรวจพิสูจน์ของกลาง และการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในแต่ละฐานความผิด โดยมีผลความคืบหน้าของการสืบสวนสอบสวนในกรณีนี้ ดังนี้ การสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานคดีที่แจ้งข้อกล่าวหา ร.อ.ศุภชัย กับพวกไปแล้ว พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน และได้หารือกับพนักงานอัยการ ซึ่งมีผลความคืบหน้าการดำเนินคดี ในข้อหาลักทรัพย์ หรือรับของโจร ขณะนี้มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะฟ้องผู้กระทำผิดตามข้อหาดังกล่าวได้ ในข้อหาเอาไปเสียซึ่งเอกสารใดของผู้อื่น ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน ขณะนี้มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะฟ้องผู้กระทำผิดตามข้อหาดังกล่าวได้ ในข้อหาปลอมเอกสาร และใช้เอกสารปลอม ขณะนี้พยานหลักฐานเพียงพอ เพราะมีผลการตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อในเอกสารของกลางจาก พฐ. รายงานว่าลายมือชื่อตามเอกสารของกลางไม่ตรงกับลายมือชื่อของ น.ส.จุฑาภรณ์ ที่เคยเซ็นไว้ในสมุดลงเวลามาทำงาน เพียงแค่อยู่ระหว่างรอผลการตรวจพิสูจน์จาก พฐ. เกี่ยวกับลายเซ็นชื่อตัวอย่างเพื่อส่งเปรียบเทียบของผู้ต้องหาทั้งหมด มาประกอบในสำนวนสอบสวน ในข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขัง เนื่องจากข้อหานี้เป็นความผิดต่อส่วนตัว จึงให้สอบสวนสามี หรือพ่อของ น.ส.จุฑาภรณ์ ให้ได้ความว่า มีความประสงค์ร้องทุกข์แทน น.ส.จุฑาภรณ์ ที่ไม่สามารถดำเนินการเองได้ และขอให้ศาลสั่งให้เป็นผู้แทนในคราวเดียวกัน สำหรับความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ให้หาพยานหลักฐานทุกชนิดเพื่อเชื่อมโยงให้ได้ว่าผู้ต้องหาเป็นผู้ใช้หรือเข้าถึงข้อมูลของ น.ส.จุฑาภรณ์ และการเข้าถึงข้อมูล ที่จะดำเนินคดีเป็นการกระทำผิดแต่ละกรรมได้ ซึ่งขณะนี้ ได้สอบสวนพยานบุคคลไปแล้วทั้งหมด จำนวน 28 ปาก ส่วนการสืบสวนแสวงหาพยานหลักฐานใหม่ เพื่อดำเนินคดีความผิดเกี่ยวกับชีวิต/ร่างกาย เพื่อดำเนินคดีกับ ร.อ.ศุภชัย ในความผิดเกี่ยวกับชีวิต (คดีฆ่าผู้อื่นฯ) โดยการหาหาจุดทิ้งศพ น.ส.จุฑาภรณ์ เส้นทางการเดินทางต่าง ๆ ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ให้มีการตั้ง ศปก. ในพื้นที่ สภ.กันทรลักษ์ ประกอบด้วย บก.ป.,บก.สส.ภ.3,กก.สส.ภ.จว.ศรีสะเกษ, สภ.กันทรลักษ์, สภ.บึงมะลู โดยมีการวางแผนการแบ่งงานกันทำ อาทิ วิเคราะห์ข้อมูลโทรศัพท์,บัญชีธนาคารและจะนำผลการวิเคราะห์ข้อมูล มาใช้เป็นแนวทางในการทำงานในแต่ละวัน เช่นเส้นทางที่คนร้ายใช้ จุดที่คาดว่าจะมีการทิ้งศพ ขอความร่วมมือร้านทอง ร้านพระ ในเขตพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ เพื่อดูกล้องใหม่ว่า คนร้ายใช้รถยนต์ในการกระทำผิดกี่คัน เป็นต้น การตรวจสอบจุดเสี่ยงที่คาดว่าจะทิ้งศพ เช่น พื้นที่ที่เป็นหน้าผา ป่า น้ำ และตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามที่เจ้าหน้าที่ ปอท. กู้ข้อมูลกลับมาได้ การตรวจสอบข้อมูลท้องถิ่น เช่น ข้อมูลของรถโดยสารประจำทาง ตั้งแต่เวลา 18.00 -20.00 น.ว่ามีรถเข้าออกกี่รอบ,รายชื่อโรงแรม รีสอร์ท รายชื่อคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างที่สถานีขนส่ง อ.กันทรลักษ์ ป่ารกร้างในเขตเทศบาล, บ้านของทหารที่อยู่บริเวณฟ้าใสรีสอร์ท, สบายใจรีสอร์ท,ร้านวัสดุก่อสร้างในพื้นที่ เนื่องจากคดีนี้ เป็นคดีที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจ และการที่ญาติพี่น้องผู้เสียหาย มีความไม่สบายใจ เกรงกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม จากกรณีที่ผู้ต้องหาเป็นคนมีสี ซึ่งท่าน ผบ.ตร. (พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา)ได้ให้ความสำคัญ และเน้นย้ำให้เร่งคลี่คลายคดีและดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดในถึงที่สุด โดยให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องร่วมกันทำงาน เร่งรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ได้มากที่สุด เพื่อสร้างความมั่นใจและให้เกิดความเชื่อมั่นของญาติผู้เสียหายและประชาชน