กฟผ.สนองพระราชดำรัส “ปลูกป่าในใจคน” (2) เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2512 พระ บาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงเล่าถึงแรงบันดาลพระราชหฤทัยในความสนพระทัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง ป่า น้ำดิน ซึ่งโยงใยมีผลกระทบต่อกัน ตั้งแต่เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ว่า ".....อาจมีบางคนเข้าใจว่า ทำไมถึงสนใจเรื่องชลประทาน หรือเรื่องป่าไม้ จำได้เมื่ออายุ 10 ขวบ ที่โรงเรียนมีครูคนหนึ่ง ซึ่งเดี๋ยวนี้ตายไปแล้วสอนเรื่องวิทยาศาสตร์ เรื่องการอนุรักษ์ดินแล้วให้เขียนว่าภูเขาต้องมีป่า อย่างนั้นเม็ดฝนลงมาแล้วจะชะดินลงมาเร็วทำให้ไหลตามน้ำไป ไปทำความเสียหายดินหมดจากภูเขาเพราะไหลตามสายน้ำไป ก็เป็นหลักของป่าไม้ เรื่องการอนุรักษ์ดิน และเป็นหลักของชลประทานที่ว่า ถ้าเราไม่รักษาป่าไม้ข้างบน จะทำให้เดือดร้อนตลอด ตั้งแต่ดินภูเขาจะหมดไปกระทั่งการที่จะมีตะกอนลงมาในเขื่อน มีตะกอนลงมาในแม่น้ำทำให้น้ำท่วมนี่นะเรียนมาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ....." การที่ทรงเห็นความสำคัญของปัญหาป่าเสื่อมโทรม ซึ่งส่งผลกระทบต่อปัญหาด้านอื่นๆ ไม่เฉพาะแต่ปัญหาเรื่องดิน เรื่องน้ำเท่านั้น หากโยงใยถึงปัญหาทางสังคม เศรษฐกิจ การเมืองคุณธรรมและระบบนิเวศน์ ด้วยเหตุดังกล่าวจึงทำให้แนวพระราชดำริในการแก้ไขปัญหาป่า มิได้เป็นกิจกรรมที่ดำเนินไป อย่าง โดดๆ หากแต่รวมเอางานพัฒนาที่เกี่ยวเนื่องทั้งหมดเข้าไปทำงานในพื้นที่อย่าง ประสานสัมพันธ์กันแนวพระราชดำริด้านการป่าไม้ ณ หน่วยงานพัฒนาต้นน้ำทุ่งจ๊อ ในปี พ.ศ. 2519 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชได้พระราชทานพระราชดำริให้มีการปลูกต้นไม้ 3 ชนิด 3 ชนิด ที่แตกต่างกัน คือไม้ผลไม้โตเร็วและไม้เศรษฐกิจเพื่อจะทำให้เกิดป่าไม้แบบผสมผสานและสร้าง ความสมดุลแก่ธรรมชาติอย่างยั่งยืนสามารถตอบสนองความต้องการของรัฐ และวิถีประชาในชุมชน ประการสำคัญนั้นมีพระราชดำริที่ยึด เป็นทฤษฎีการพัฒนาด้านป่าไม้โดยปลูกฝังจิตสำนึกแก่ประชาชนว่า "เจ้าหน้าที่ป่าไม้ควรจะปลูกต้นไม้ลงในใจคนเสียก่อน แล้ว คนเหล่านั้นก็จะพากันปลูกต้นไม้ลงบนแผ่นดิน และรักษาต้นไม้ด้วยตนเอง" นับเป็นทฤษฎีที่เป็นปรัชญาในด้านการพัฒนาป่าไม้ที่ยิ่งใหญ่โดยแท้ นายมานะ โพธิ์ทอง หัวหน้ากองพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมกฟผ.ในฐานะที่เป็นหัวหน้าทีมจากกฟผ.ส่วนกลางนำจิตอาสาจากบรอดคาส 103 ไลฟ์เอฟเอ็มไปยังพื้ทนี่ในความรับผิดชอบส่งเสริมสนับสนุนโดยโรงไฟฟ้ากระบี่ตามนโยบายกฟผ.บอกย้ำว่าการปลูกป่าสืบสานพระราชปณิธานงานของพ่อโดยกฟผ.นั้นเดินตามแนวพระราชดำริคือปลูกป่าที่ใจแล้วไปปลูกที่ป่า โดยก่อนร่วมปลูกได้ร่วมกันปล่อยป่าในแหล่งน้ำเป็นเบื้องต้น จากนั้นลงพื้นที่ป่าชายเลนบ้านแหลมกรวด อำเภอเหนือคลอง ปลูกป่า ในพื้นที่ 5 ไร่ เป็นการร่วมกันกับชมจักรยานจังหวัดกระบี่ปั่นจักรยานเข้าไปปลูก ผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าภาคใต้กฟผ.กล่าวในเบื้องต้นว่า กฟผ.สืบสานพระราชปณิธานด้านการปลูกป่าตั้งแต่ปี2537 ถึงวันนี้ปลูกไปแล้วทั่วประเทศทั้งป่าบกป่าชายเลนประมาณเกือบห้าแสนไร่โดยปลูกในแหล่งผืนป่าต้นน้ำ ป่าชุมชนและป่าชายเลน เน้นการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน เยาวชนและทุกภาคส่วนเพื่อร่วมสร้างจิตสำนึกที่ดีและเสริมสร้างองค์ความรู้ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระราชดำรัส“ปลูกป่าในใจคน”และได้พระราชทานพระราชดำริให้แก่พสกนิกรชาวไทยในหลายโอกาสเพื่อปลูกฝังการอนุรักษ์ป่าทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน กฟผ.จึงถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณร่วมสนองแนวพระราชดำริร่วมสืบสานพระราชปณิธานโดยถือเป็นภารกิจกำหนดเป็น 9 พระราชปณิธานเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยจัดกิจกรรมเดินตามรอยพระยุคลบาท “ปั่น ปั้น ปัน ปลูก”ร่วมกับชาวอำเภอเหนือคลองและจิตอาสา ตลอดจนดาราศิลปินเพื่อคืนความอุดมสมบูรณ์ให้ป่าชายเลนพื้นที่อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่”ผอ.โรงไฟฟ้าภาคใต้กฟผ.กล่าว จากนั้นศิวเรศ ธรรมวิเศษ พลังงานจังหวัดกระบี่กล่าวเปิดงานความโดยสรุปว่า นับเป็นเรื่องดีงามเป็นความโชคดีที่ได้มาร่วมในกิจกรรม “ปั่น ปั้น ปัน ปลูก”ภายใต้โครงการกฟผ.สืบสานพระราชปณิธานงานของพ่อ ต้องขอชื่นชมในความมุ่งมั่นความตั้งใจในการให้ความสำคัญต่องานอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของกฟผ. เฉพาะอย่างยิ่งเป็นการเดินตามรอยพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้านการปลูกป่า รักษาแหล่งต้นน้ำ พัฒนาดินมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน “ปัจจุบันป่าชายเลนป่าชายเลนในพื้นที่จังหวัดกระบี่ที่เคยเสื่อมโทรมจำนวนไม่น้อยกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง สัตว์น้ำเศรษฐกิจหลายชนิดที่เคยหมดไปกลับมีขึ้นและเพิ่มปริมาณเป็นเครื่องแสดงให้เห็นความสมบูรณ์อันกล่าวได้ว่าเป็นเพราะพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชที่ทรงนำทางปลูกป่าอนุรักษ์เฉพาะอย่างยิ่งพระราชดำรัสเตือนใจคนไทยปลูกป่าในใจคน ทำให้ชาวประมงดำเนินชีวิตที่มีมีคุณภาพดีขึ้น” พลังงานจังหวัดกล่าวว่าวันนี้หน่วยงานต่างๆทุกภาคส่วน ประชาชนและเยาวชนได้รับการปลูกฝังจิตสำนึกโดยน้อมนำแนวพระราชดำริและพระราชปณิธานมาดำเนินกิจกรรมในหลากหลายวิธี กฟผ.เป็นองค์กรหนึ่งที่ดำเนินการสืบสานพระราชปณิธานเป็นกำลังสำคัญที่เข้มแข็ง น้อมนำพระราชดำริ พระบรมราโชวาทใส่เกล้าใส่กระหม่อมดำเนินการโครงการปลูกป่าในใจคนต่อเนื่องอย่างที่ดำเนินการกิจกรรม “ปั่น ปั้น ปัน ปลูก”โดยพลังจิตอาสาในวันนี้ที่เป็นกิจกรรมสุดท้ายของปีที่กฟผ.กำหนดโครงการ 4 เส้นทาง จึงอยากเชิญชวนชาวจังหวัดกระบี่และประชาชนคนไทยร่วมกันสืบสานพระราชปณิธาน รัก หวงแหน ดูแลรักษาป่าแหล่งต้นน้ำ ทรัพยากรธรรมชาติเพื่อคงรักษาแหล่งการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีงามของคนไทยให้คงอยู่สืบไปสนอพระมหากรุณาธิคุณถวายเป็นพระราชกุศล (อ่านต่อ)