นายกฯ ห่วงพื้นที่น้ำท่วม สั่งเร่งรัดแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง เตรียมสำรวจความเสียหายและช่วยเหลือตามระเบียบราชการ วันที่ 5 พ.ย. 60 พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้รับรายงานสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาโดยกรมชลประทานได้ปรับลดการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในภาพรวมลง 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำในช่วง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เริ่มลดลง 15 – 20 เซนติเมตรส่วน จ.สิงห์บุรี และอ่างทอง ลดลง 10 เซนติเมตร ส่วนบริเวณคลองโผงเผงและคลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ลดลง 6 - 8 เซนติเมตร และคาดว่าจะลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงยการติดเครื่องผลักดันน้ำบริเวณปากแม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อบังคับน้ำให้ไหลลงสู่ทะเลควบคู่กับการระบายน้ำออกจากทุ่ง 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่ทุ่งบางระกำ จ.พิษณุโลก ตั้งแต่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา และจะดำเนินการต่ออีก 12 ทุ่งตอนล่าง ในวันที่ 15 พ.ย.นี้ ทั้งนี้น้ำที่ถูกระบายจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ที่น้ำท่วมอยู่แล้ว พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า นายกฯ เป็นห่วงประชาชนที่ประสบภัย จึงได้ออกตรวจเยี่ยม เร่งรัดการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำเป็นอย่างมาก เนื่องจากประเทศไทยเกิดปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งเป็นประจำทุกปี แต่รัฐบาลได้ทบทวนแนวทางการป้องกันและรับมือกับปัญหาเป็นอย่างดี จึงทำให้เกิดผลกระทบน้อยกว่าในอดีต ในส่วนพื้นที่ที่เคลี่คลาย นายกฯ ได้สั่งการผ่านกระทรวงมหาดไทยไปยังแต่ละจังหวัด เร่งสำรวจ ประเมิน และจัดทำบัญชีความเสียหาย ทั้งชีวิต ครอบครัว ผู้เสียชีวิตทุกราย การประกอบอาชีพ ที่อยู่อาศัย การเกษตร และสิ่งสาธารณประโยชน์ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและฟื้นฟูความเสียหายให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว นอกจากนี้นายกฯ ขอให้ทุกจังหวัดทำความเข้าใจกับประชาชน เพื่อให้ทุกคนคลายความกังวลจากปัญหาที่ต้องพบเจอ โดยรัฐบาลและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจะไม่ทอดทิ้งผู้ประสบภัย และพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเต็มที่ตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่กำหนด จึงขอให้ทุกคนเชื่อมั่นและร่วมมือเพื่อฝ่าวิกฤติไปด้วยกัน