"มีชัย"ปัดมือประสานปรับ ครม.ชี้ภาพไม่เกี่ยวการเมือง ยัน คสช.ครม.ลงสมัคร สส.ไม่ได้ เหตุพ้น 90 วันตาม รธน. วันที่ 7 พ.ย.ที่รัฐสภา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)ให้สัมภาษณ์ว่า ส่วนตัวไม่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลหรือฝ่ายใดในการทำหน้าที่ประสานงานกับอดีตนักการเมืองเพื่อไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลตามที่ปรากฏเป็นข่าวก่อนหน้านี้ เพราะตนเองไม่ได้มีศักยภาพที่จะดำเนินการดังกล่าวได้ ส่วนที่มีรูปภาพตนร่วมเดินทางไปสาธารณรัฐประชาชนจีนกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ และ นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร อดีตรัฐมนตรีก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่เป็นการเดินทางต่างประเทศตามปกติเท่านั้น อีกทั้งนายปรีชาก็ไม่ได้สนใจการเมืองแล้ว จึงคิดว่าการเดินทางไปจีนไม่ได้มีนัยทางการเมืองแต่อย่างใด “รัฐบาลจะดำเนินการปรับคณะรัฐมนตรีอย่างไรก็เป็นเรื่องของรัฐบาล คงจะไปให้คำปรึกษาหรือประสานงานได้”นายมีชัย กล่าว เมื่อถามว่า หากคนในรัฐบาลจะตั้งพรรคการเมืองสามารถทำได้ในเวลานี้ใช่หรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า ต้องแยกกันระหว่างการลงสมัครสส.กับการตั้งพรรคการเมือง โดยการลงสมัครสส. บทเฉพาะกาลในรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ได้กำหนดชัดเจนว่าหากสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะลงสมัครสส.ได้ก็ต่อเมื่อได้พ้นจากตำแหน่งเป็นเวลา 90 วันนับแต่วันที่ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ซึ่งปัจจุบันได้พ้นระยะเวลาดังกล่าวออกมาแล้ว จึงเท่ากับว่าไม่สามารถลงสมัครสส.ได้ แต่ส่วนการตั้งพรรคการเมืองและเป็นการสมาชิกพรรคการเมืองเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่กฎหมายรองรับเอาไว้ ซึ่งสามารถดำเนินการดังกล่าวได้ ขณะที่ กรธ.ต้องห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 2 ปีอยู่แล้ว นายมีชัย กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าในการจัดทำร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสว กรธ.ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว แต่กรธ.กำลังคิดว่าอาจจะรอให้การทำร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสส.เสร็จก่อน และส่งร่างกฎหมายทั้งสองฉบับไปให้ สนช.พร้อมกันในวันที่ 28 พ.ย. เพื่อให้ง่ายต่อการพิจารณาในชั้นสภา เพราะร่างกฎหมายทั้งสองฉบับมีเนื้อหาบางส่วนที่เชื่อมโยงกัน นอกจากนี้คิดว่าหากมีความจำเป็นก็อาจต้องตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญหนึ่งคณะเพื่อพิจารณาร่างกฎหมายทั้งสองฉบับไปในคราวเดียวกัน เพื่อไม่ให้เกิดการลักลั่นในการพิจารณาเนื้อหาในร่างกฎหมาย