ย้ำวอร์มอัพ-คูลดาวน์ทุกครั้ง/ช่วยลดเสี่ยงบาดเจ็บ นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัยเปิดเผยว่า กระแสโครงการก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ ช่วยให้ประชาชนหันมาสนใจออกกำลังกายโดยเฉพาะการวิ่งมากขึ้น ซึ่งควรเตรียมพร้อมโดยประเมินร่างกายและให้วิ่งเท่าที่ร่างกายไหว เริ่มจากน้อย ๆ ไปหามาก จากช้าๆ ไปหาเร็ว จากเบาๆ ไปหาหนัก ก่อนวิ่งต้องอบอุ่นร่างกาย ยืดเหยียดขา แกว่งมือ-แขน ให้เลือดสูบฉีดไหลเวียน และเมื่อเริ่มออกตัววิ่ง ควรออกตัวอย่างช้าๆ เบาๆ ในช่วง 15 - 20 นาทีแรก ถ้าเหนื่อยให้ผ่อนความเร็ว-ความหนักลง เมื่อเหนื่อยลดลงจึงค่อยเพิ่มความเร็วใหม่ สำหรับผู้ที่เริ่มต้นวิ่ง อาจจะวิ่งช้าสลับกับเร็วบ้าง หรือทำช้าๆ โดยไม่หยุดพัก 5 นาที แล้วค่อยเพิ่มเป็น 10 นาที ทั้งนี้ ก่อนหยุดวิ่งให้ชะลอความเร็วทีละน้อย เพื่อให้หัวใจเต้นช้าลงทีละน้อย อย่าหยุดกะทันหันเพราะหัวใจจะปรับตัวไม่ทัน อาจเป็นอันตรายได้ จากนั้นจึงคลายอุ่นหรือคูลดาวน์ เพื่อปรับสภาพการทำงานของกล้ามเนื้อให้กลับสู่ปกติ หากเหนื่อยผิดปกติ หัวใจเต้นผิดปกติ หายใจขัด เวียนศีรษะ คลื่นไส้ หน้ามืด ให้หยุดวิ่ง-ออกกำลังกายทันที หากไม่สบาย ท้องเสีย บาดเจ็บ ให้หยุดพักให้ทุเลาก่อน ชุดควรสวมใส่สบาย ระบายความร้อนดี สวมรองเท้าที่เหมาะออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารมีประโยชน์ ดื่มน้ำให้เพียงพอ นพ.วชิระกล่าวว่า การออกกำลังกายทุกแบบหรือแม้แต่ขยับร่างกายในชีวิตประจำวัน จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง-ลดเสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อาทิ เบาหวาน ความดันสูง หลอดเลือดหัวใจและสมอง ทำให้ป่วยน้อยลง ต้นทุนรักษาพยาบาลจะลดลง ส่งผลต่อเศรษฐกิจประเทศ การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีต้องทำประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที หลีกเลี่ยงภาวะเสี่ยงอันตราย ไม่หักโหมจนเกินไป ผู้มีโรคประจำตัวอาจปรึกษาแพทย์