นายพินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ พร้อมด้วยนายวิชัช ไตรรัตน์ นายกสมาคม อบต.แห่งประเทศไทย นำคณะผู้แทนทั้ง 4 ภูมิภาค เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน พบปะผู้ประกอบการจีน เพื่อหาช่องทางช่วยเหลือสินค้าเกษตรไทย หวังช่วย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของท้องถิ่น โดยการเดินทางครั้งนี้คณะได้เข้าพบปะร่วมพูดคุยกับผู้ประกอบการจากประเทศจีน ในมหานครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน อาทิเช่น นายจ้าว เฟิงเฟิง นักธุรกิจด้านอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ ,นายฉู เจิงหยู เลขาธิการพรรคคอมมูนิสต์ บริษัท ดัมเบิ้ล คอย จำกัด ประจำเมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งบริษัท ดัมเบิ้ล คอย จำกัด มีกำลังการผลิตยางรถยนต์ 10,000 เส้นต่อวันและมียอดจำหน่ายอันดับ 7 ของโลก ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลจีน โดยมีโรงงานผลิตยางรถยนต์ก่อตั้งอยู่ในประเทศไทยที่นิคมอุตสาหกรรม จ.ระยอง โดบได้มีการเจรจาเพื่อเปิดโอกาสให้มีการถือหุ้นร่วมในกิจการของบริษัทในเครือ เพิ่มช่องทางให้เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราในประเทศไทย สามารถจำหน่ายยางพาราได้ตรง โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจรากหญ้าของไทยและจะทำให้ราคายางสูงขึ้น จากนั้นได้เข้าพบนายเล่อ หมิง นักธุรกิจด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์ และนายจาง โหยง เชิง นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนความรู้วัฒนธรรมการลงทุนระหว่างประเทศไทย-จีน ซึ่งก็ได้รับการยอมรับด้วยดี ต่อมาได้เดินทางไปยังโรงงาน ทริน่า โซลาร์ ซึ่งเป็นโรงงานผลิตแผงโซลาร์ใหญ่ที่สุดในโลก มีบริษัทลูก 30 แห่ง จำหน่ายไปยัง 70 ประเทศทั่วโลกและมีโรงงานอยู่ประเทศไทยที่ นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ฉะเชิงเทรา โดยคณะได้เสนอให้นำเอา โรงงานทริน่า โซล่าร์ในประเทศไทยเข้าตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากมีคุณภาพเป็นอันดับ 1 ของโลก ซึ่งถ้ามีการติดตั้งที่แพร่หลายในประเทศไทยจะเป็นการประหยัดงบประมาณของรัฐได้อย่างมากและยังเป็นพลังงานสะอาดที่ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย สุดท้าย นายวิชัช ไตรรัตน์ นายกสมาคม อบต.แห่งประเทศไทย และคณะได้เข้าพบ นายคูล เล่อร์ ผู้ประสานงานศูนย์แสดงสินค้า เมืองเซี่ยงไฮ้ (ศูนย์เศรษฐกิจ 5 เหลี่ยม) ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองเซี่ยงไฮ้ พบปะพูดคุยรายละเอียดเงื่อนไขต่างๆเกี่ยวกับการนำสินค้า OTOP จากประเทศไทยไปจำหน่ายในมหานครเซี่ยงไฮ้ โดยการเจรจาครั้งนี้นับว่าเป็นความสำเร็จในการเจรจาสร้างความร่วมมือในการพัฒนาเพื่อยกระดับการขยายตลาดสินค้าเกษตรไทยเป็นอย่างยิ่ง นายวิชัช กล่าวว่า ในวันที่ 21 พ.ย. นี้ จะประชุมร่วมกับผู้แทนสมาคม อบต.แห่งประเทศไทยทั้ง 76 จังหวัดเพื่อมอบหมายให้ผู้นำท้องถิ่นทุกจังหวัดช่วยดำเนินการสำรวจข้อมูลสินค้าภาคการเกษตรในพื้นที่ แต่ละชุมชน เร่งพัฒนาศักยภาพสินค้าเกษตรไทย โดยมีเป้าหมายผลักดันให้สินค้าเกษตรไทยได้มีแหล่งจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น เป็นการเพิ่มโอกาสและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับสินค้าเกษตรของไทย ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรไทยระดับฐานรากได้รับประโยชน์