เมื่อวันที่ 16 พ.ย.60 นายวีระพงษ์ วงศ์แหวน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เปิดเผยว่า หากบริษัท ช.ทวี (มหาชน)จำกัด ไม่สามารถส่งมอบงานได้ทันกำหนด เรื่องนี้พิจารณาได้คือประเด็นแรก สัญญาบอกว่า ภายในวันที่ 13 ต.ค.60 บริษัทช.ทวีต้องส่งมอบอุปกรณ์ควบรถจำนวน 100 คันและต้องใช้งานได้ หลังจากนั้นค่อยทยอยส่งจนครบ 800 คันภายในวันที่ 12 ธ.ค.60 แต่ที่ทราบขณะนี้ระบบไม่สามารถใช้งานได้ และแก้ไขปัญหาเฉพาะด้วยการใช้โมบายโฟน หรือเอาคูปองฉีก ซึ่งอย่าลืมว่า พนักงานเก็บค่าโดยสารถ้าขายตั๋วเขาจะมีค่าตอบแทนประมาณ10 สตางค์ต่อหนึ่งใบ และแม้ว่าบริษัท ช.ทวี จะเป็นเสนอตัวออกมารับผิดชอบค่าโดยสารให้ ขสมก.แทนภาครัฐ และยอมจ่ายค่าปรับ แต่ทางเราไม่ต้องการเงินค่าปรับ เราต้องการนำรถมาใช้งาน เพราะการปรับไม่เกิดประโยชน์ ส่วนจะผิดสัญญาหรือไม่นั้นต้องไปดูที่รายละเอียดว่า เขียนไว้อย่างไร แต่ถ้าสัญญาบอกว่าวันที่ 13 ต.ค. 60 แล้วไม่ทันต้องถือว่าทิ้งงาน นายวีระพงษ์กล่าวต่อว่า การที่ขสมก.อนุญาติให้นำอุปกรณ์ที่ไม่อยู่ใน TOR ก็อีกกรณี ถึงอยากให้ไปตรวจสอบ ผอ.สารสนเทศต้องออกมาชี้แจงว่า โมบายโฟนอยู่ในสัญญาหรือไม่ และเอาโมบายโฟนมาใช้เพื่ออะไร ส่วนข้อครหาที่ว่า การบริหารสัญญาของ ขสมก.เลือกปฏิบัตรกรณีสัญญาจัดซื้อจัดจ้างรถโดยสารเอ็นจีวี 489 คันที่ทำไว้กับบริษัทเบสทริน กรุ๊ป จำกัด เปรียบเทียบกับสัญญาที่ ขสมก.เปรียบเทียบกับสัญญาจัดซื้อจัดจ้างติดตั้งระบบอี-ทิคเก็ต ของบริษัท ช.ทวี อาจเข้าข่าย 2 มาตราฐานนั้น เรื่องนี้ ขสมก.มีคณะกรรมการตรวจรับอยู่ก็ต้องไปดูสัญญา ถ้าเกิดไม่ทำตามสัญญาก็ต้องปฏิบัติให้เหมือนกันยืนยันว่าเรื่อง อี-ทิคเก็ต ก็ต้องรอให้ถึงวันที่ 12 ธ.ค.60 ก่อน ซึ่งคณะกรรมการจะไปดูว่าเป็นไปตามสัญญาหรือไม่ถ้าไม่เป็นไปตามสัญญา ขสมก.ก็คงต้องยกเลิกสัญญาแล้วหาบริษัทผู้ที่มีความชำนาญเฉพาะด้านมากกว่านี้มาดำเนินการให้แล้วเสร็จต่อไป