คุณมรกต ยิบอินซอย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยิบอินซอย จำกัด เปิดเผยถึงผลประกอบการปี 2560 และทิศทางการดำเนินธุรกิจปี 2561 ของยิบอินซอยกรุ๊ปว่า ยิบอินซอยกรุ๊ป คือกลุ่มบริษัทของคนไทยที่เริ่มต้นจากธุรกิจค้าแร่ ในปี 2469 ต่อมาจึงจดทะเบียนเป็นบริษัท ยิบอินซอย จำกัด ด้วยความมุ่งมั่น และหัวก้าวหน้าทางการค้าที่มองเห็นธุรกิจใหม่ๆ ในธุรกิจตลอดเวลา ยิบอินซอยจึงเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจที่หลากหลาย จนเติบโตเป็นกลุ่มธุรกิจไทยที่มั่นคงมีบริษัทในเครือมากกว่า 10 บริษัท สามารถแบ่งตามกลุ่มธุรกิจได้ 4 กลุ่ม คือ กลุ่มธุรกิจ IT กลุ่มธุรกิจเกษตร กลุ่มธุรกิจพลังงาน และกลุ่มธุรกิจสุดท้ายคือ กลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้างและเฟอร์นิเจอร์ สำหรับในปี 2560 คาดว่าจะมีผลประกอบการรวมประมาณ 7,000 ล้านบาท แบ่งเป็นผลกระกอบการกลุ่มธุรกิจ IT ประมาณ 71% กลุ่มธุรกิจเกษตร 19% กลุ่มธุรกิจพลังงาน 6% และกลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้างและเฟอร์นิเจอร์ 4% สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2561 ยิบอินซอยกรุ๊ปยังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจทุกกลุ่ม และมองว่าทั้ง 4 กลุ่มยังมีแนวโน้มที่ดี โดยเฉพาะในกลุ่ม IT กลุ่มธุรกิจพลังงานและกลุ่มธุรกิจเกษตร ซึ่งจะสอดคล้องกับโรดแมป 4.0 ที่รัฐบาลวางไว้ จึงมั่นใจว่าในปี 2561 ยิบอินซอยกรุ๊ปจะมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องสืบไป “ยิบอินซอยกรุ๊ป เป็นกลุ่มธุรกิจของคนไทยที่เติบโตมาจากแนวคิดทางธุรกิจ ที่เน้นการสร้างประโยชน์และการแทนคุณแผ่นดิน ตั้งแต่สมัยคุณปู่ ดังนั้นทุกธุรกิจที่เราเลือกทำจึงเติบโตไปพร้อมๆกับสังคม นับตั้งแต่ธุรกิจแรกคือ การค้าแร่ ซึ่งคุณปู่เป็นผู้บุกเบิก เป็นต้นแบบวิชาวิเคราะห์แร่ในประเทศ หรือธุรกิจเกษตร ยิบอินซอยก็เป็นผู้บุกเบิกธุรกิจปุ๋ย-เคมีเกษตรรายแรกให้เกษตรกรไทย เมื่อ 72 ปีที่แล้ว และเป็นการเปิดโลกทัศน์แก่เกษตรกรไทย เพื่อก้าวสู่เมืองเกษตรอุตสาหกรรมแห่งแรกของภูมิภาค สังคมจึงเรียนรู้ที่จะเติบโตไปพร้อมกับเราเช่นกัน ที่สำคัญเราไม่เน้นการเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่เน้นความยั่งยืน เพื่อก้าวผ่านความเป็นองค์กรไทย 100 ปีอย่างสง่างาม ด้วยการมองธุรกิจอย่างรอบด้าน การวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อให้มั่นใจว่า ธุรกิจที่เราเลือกลงทุนจะสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างแท้จริง ควบคู่กับการพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้สอดคล้อง เหมาะสมกับธุรกิจแต่ละประเภทอย่างต่อเนื่อง ในฐานะผู้บริหารสูงสุดของกลุ่มธุรกิจ ต้องขอบคุณทีมบริหารและพนักงานทั้งหมดที่ร่วมกันสร้างยิบอินซอยกรุ๊ปให้แข็งแรงและมั่นคง แม้ว่าบางครั้งสภาพเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศจะไม่เอื้อต่อการเติบโตก็ตาม” คุณมรกต ยิบอินซอย กล่าว กลุ่มธุรกิจ IT 1.บริษัท ยิบอินซอย จำกัด (YIP IN TSOI & CO.,LTD.) 2.บริษัท ทีซีซีแอล จำกัด (TCCL CO.,LTD.) 3.บริษัท ยิบอินซอย คอนซัลติ้ง จำกัด (YIPINTSOI CONSULTING CO., LTD.) 4.บริษัท แทนเจอรีน จำกัด (TANGERINE CO.,LTD.) 5.บริษัท ยิบอินซอย โซลูชั่นส์ จำกัด (YIPINTSOI SOLUTIONS LTD.) 6.บริษัท ยิบอินซอย อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YIPINTSOI INTERNATIONAL CO.,LTD.) กลุ่มธุรกิจเกษตร 1.บริษัท ยิบอินซอยและแย๊คส์ จำกัด (YIP IN TSOI & JACKS LTD.) กลุ่มธุรกิจพลังงาน 1.บริษัท ยิบอินซอย เอ็นเนอร์ยี จำกัด (YIP IN TSOI ENERGY CO., LTD.) กลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้างและเฟอร์นิเจอร์ 1.บริษัท ยิบอินซอยและแย๊คส์ จำกัด (YIP IN TSOI & JACKS LTD.) 2.บริษัท ซีสซั่นส์ เพ้นท์ส (ประเทศไทย) จำกัด (SISSONS PAINTS (THAILAND) LTD.) 3.บริษัท ลีฟฟี จำกัด (LEAFY CO., LTD.) สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจปี 2561 คุณมรกต ยิบอินซอย กล่าวว่า จากการคาดการณ์ของธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) การขยายตัวทางเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับปีหน้าเป็น 5.1% เพิ่มจากปีนี้นิดหน่อย โดยได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของการค้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ การเกษตร การลงทุนจากต่างชาติและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในอนาคต แต่ถ้าเฉพาะในประเทศไทย จะขยายตัวในระดับ 3.6% ซึ่งเป็นผลจากการส่งออกที่คาดว่าจะขยายตัวได้ถึง 7.0% ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ตัวเลขนี้อาจจะไม่ใช่ตัวเลขที่หวือหวา แต่ถือว่ามีการเติบโตและมั่นใจว่าจะเติบโตต่อเนื่อง สำหรับธุรกิจของยิบอินซอยกรุ๊ปเติบโตทั้ง 4 กลุ่ม โดยกลุ่มธุรกิจเกษตร ซึ่งเป็นธุรกิจผลิต-จำหน่ายปุ๋ยและเคมีเกษตรนั้น มีการสร้างโรงงานแห่งใหม่มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท เปิดดำเนินการแล้วเมื่อปี 2559 แต่เนื่องจากธุรกิจนี้มีการเติบโตสูง จึงมีการลงทุนเพิ่มเพื่อขยายไลน์การผลิต ทำให้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตในพื้นที่เดิมอีก 100% และคาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาสแรกของปี 2561 สำหรับกลุ่มพลังงานซึ่งเป็นธุรกิจน้องใหม่ ในช่วงแรกจะเน้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น การก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย เราให้บริการในรูปแบบ turnkey project รวมทั้งการบริหารงานให้แล้วเสร็จตามแผนที่ลูกค้าต้องการ ธุรกิจนี้พร้อมเติบโตเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ได้ เพราะประเทศไทยยังคงมีความต้องการการใช้ไฟมากขึ้นทุกปี และเชื่อว่าจะเป็นธุรกิจดาวรุ่งของยิบอินซอยกรุ๊ปในอนาคต