เป็นที่รู้จักของคนป่วยที่เป็นโรคปวดหลังร้าวลงขาเดินไม่ได้ ที่ เกิดจากกระดูกเคลื่อนของหมอนรองกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาทสำหรับโรงพยาบาลเอสสไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและระบบประสาทแห่งเดียวในประเทศ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปไกลระดับโลก และเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในวงการแพทย์ นายแพทย์ดิตถพงษ์ บุญอำพล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอสสไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ เปิดเผยว่า จากจุดเริ่มต้นที่เหมือนจะไม่ค่อยชอบแพทย์เท่าไหร่ มีความใฝ่ฝันอยากเรียนวิศวกรรมศาสตร์ แต่ครอบครัวอยากให้เรียนแพทย์ จึงทำตามใจครอบครัว สุดท้ายเรียนจบแพทย์ จากรั้วศิริราชพยาบาล พร้อมเก็บเกี่ยวความรู้ที่ได้ไปทำงานโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศ จุดเริ่มต้นของเส้นทางการทำธุรกิจทางการแพทย์ โดยชิมลางเปิดคลินิกขนาดเล็ด จากนั้นขยับขยายเปิดโรงพยาบาลอย่างจริงจัง โหนกระแสธุรกิจทางการแพทย์ที่โตวันโตคืน นายแพทย์ดิตถพงษ์ บอกว่า ตนคือศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาท สมอง และกระดูกสันหลัง คร่ำหวอด อยู่ในวงการแพทย์มานาน และมีความชำนาญในการักษอาการปวดหลังร้าวลงขาเดินไม่ได้ ที่ เกิดจากกระดูกสันหลังและหมอนรองกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท ผ่านประสบการณ์ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเป็นจำนวนมาก และได้ใช้ความรู้ความสามารถด้านแพทย์ที่เรียนมา ส่วนการบริหารจัดการ ก็ได้ใช้ความรู้จากการที่ไปเรียน เพิ่มทางด้านบริหาร และการเงิน ได้นำความรู้หลายศาสตร์มาผสมผสานจึงทำให้ประสบความสำเร็จในวันนี้ ทำให้ปัจจุบัน ผลิตบุคลากรเฉพาะทางป้อนเข้าโรงพยาบาลของตน จนเป็นที่ยอมรับของคนไข้ทั้งชาวไทย และต่างชาติ กุญแจแห่งความสำเร็จทั้งหมดนี้มาจากการมีทีมงานแพทย์ และพยาบาล เฉพาะทางด้านโรคกระดูกสันหลังและระบบปราสาท ที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะด้าน ทำให้รู้ลึก รู้จริง สามารถรักษาได้ตรงจุด การวินิจฉัย ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ประกอบกับการนำนวัตกรรมสมัยใหม่จากทั่วโลกเข้ามาช่วยในการรักษา ใช้เลเซอร์ และส่องกล้องนำวิถีในการผ่านตัดเป็นหลัก ห้องผ่าตัดมีอุปกรณ์ที่ทันสมัยระดับโลก ทำให้รักษาถูกต้องตรงจุด เกิดข้อผิดพลาดน้อยมาก นอกจากนี้ยังใช้ระบบออนไลน์ผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัย คนไข้สามารถดูผล และฟังการวินิจฉัยไปพร้อมๆ กับหมอได้เลย โดยสิ่งสำคัญที่สุด คือคนไข้ที่ได้รับการผ่าตัดด้วยระบบการยิงเรเซอร์ จะมีแผลเล็กมาก ไม่เจ็บปวดมาก และไม่ต้องนอนโรงพยาบาลหลายคืน เพียงใช้เวลาเพียง 1 วัน ก็สามารถเดินได้เหมือนคนปกติ ไม่เหมือนไปทำการผ่าตัดในที่อื่นๆ ที่ต้องเจ็บปวดทรมาน และใช้เวลานานในการรักษา ที่สำคัญการผ่าตัดรักษาโรคปวดหลังที่เกิดจากหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทที่โรงพยาบาลเอสจะเสียเลือดน้อยมาก แผลมีขนาดเล็ก มีเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยในการรักษาคนไข้ อุปกรณ์สะอาดปลอดภัย ตอบโจทย์ผู้ป่วยให้สามารถฟื้นตัวได้รวดเร็ว ไม่ทรมาน และไม่เสี่ยงการติดเชื่อ ขณะที่สิ่งอำนวยความสะดวกก็มีมากมาย เช่น เตียงไฟฟ้า ถังขยะออโต้ รวมถึงการตกแต่งบรรยากาศในโรงพยาบาลให้มีบรรยากาศเป็นโรงแรม รีสอร์ท ให้คนไข้ดูผ่อนคลาย ไม่เครียด ด้วยเหตุนี้ทำให้มีอัตราการเติบโตถึงปีละ100-200% ลูกค้าเพิ่มขึ้นทุกปี ปัจจุบันมีสัดส่วนคนไทย 70 % ต่างชาติ30 % ส่วนใหญ่มาจากตะวันออกกลาง “เปรียบเทียบกับเมื่อก่อน ต้องมีการนอนโรงพยาบาล 1 – 2 อาทิตย์ พักฟื้นอีกหลายเดือนกว่าจะหาย แต่ที่นี่นอนแค่คืนเดียว กลับบ้านได้เลย คนไข้ทำปุ๊บเดินได้เลย ซึ่งเป็นจุดเด่นของเรา แล้วผลแทรกซ้อนก็ต่างกันมากเลย นั่นก็เพราะ 1.ความชำนาญของแพทย์ 2.เทคโนโลยี 3.ความชำนาญของเพื่อนร่วมทีม 3 อย่างนี้เป็นความสำคัญทั้งหมด คือถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไป เขาก็จะเปิดศักยภาพไม่ได้เต็มที่ หรือต่อให้หมอเก่ง แต่ทีมดูแลไม่ดี ก็จบเหมือนกัน ฉะนั้น เราต้องดูแลห่วงโซ่อุปทานให้ดีตั้งแต่ต้นจนจบเลย” นายแพทย์ดิตถพงษ์ กล่าว นี่คือExcellent Center ศูนย์แห่งความเป็นเลิศ ที่ออกมาจากปากของคนไข้ และเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่มีโรงพยาบาลที่รักษาโรคปวดหลังที่เกิดจากกระดูกสันหลังและหมอนรองกระดูก สันหลังกดทับเส้นประสาท ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งในอนาคตจะสามารถดึงเม็ดเงินจำนวนมหาศาลจากต่างชาติ ที่จะเข้ามารักษาในเมืองไทยเพิ่มมากขึ้น