เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2560 พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.สุเทพ ชนะสิทธิ์ ผกก.สภ.กมลาไสย นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กมลาไสย ทั้งฝ่ายปราบปราม ฝ่ายอำนวยการ ฝ่ายสืบสวน ฝ่ายสอบสวน งานจราจร และตำรวจชุมชนสัมพันธ์จำนวน 50 คน ร่วมกับนายสนิท หระมาตย์ นายกอบต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ และผู้นำชุมชน ลงแขกเกี่ยวข้าวช่วยครอบครัวนางสีตาล ระวาดชัย อายุ 66 ปี เกษตรกรบ้านแจ้งจม ม.7 ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ตามโครงการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ลงแขกเกี่ยวข้าวช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายและช่วยเหลือเกษตรที่มีฐานะยากจนขาดทุนทรัพย์จ้างแรงงาน อีกทั้งนาข้าวประสบภัยน้ำท่วมขังที่เกิดจากพายุเซินกา พายุตาลัส และแม่น้ำชีหนุนสูงเอ่อเข้าท่วมพื้นที่นาข้าวนานกว่า 4 เดือน จนไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวที่ปลูกไว้ด้วยตนเอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยการลงแขกเกี่ยวข้าวในครั้งนี้เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากระดับน้ำยังคงท่วมสูงกว่า 1-1.50 เมตร และท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งบางจุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่อบต.เจ้าท่าต้องลอยคอเกี่ยวข้าว พร้อมกับใช้เรือท้องแบน เรือพาย และเรือหางยาว ขนผลผลิตข้าวขึ้นฝั่งให้กับชาวบ้าน โดยผู้บังคับการฯและตำรวจ ยังได้ร่วมกันลอยคอเกี่ยวข้าวนานกว่า 4 ชั่วโมงโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย สร้างความประทับใจและเสริมพลังให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การลงแขกเกี่ยวข้าว ตามโครงการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ลงแขกเกี่ยวข้าวช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการสร้างความสมัครสมานความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน และฟื้นฟูประเพณีอันดีงามตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจภูธรภาค 4 แล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะค่าแจ้งแรงงานที่สูงถึงวันละ 300-350 บาทให้กับนางสีตาล ซึ่งเป็นครอบครัวที่ยากจน สามีล้มป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ขาดทุนทรัพย์ และยังประสบภัยน้ำท่วมนาข้าวมายาวนานกว่า 4 เดือนแล้ว แม้การลงแขกเกี่ยวข้าวจะเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะระดับน้ำท่วมสูง ต้องใช้เรือ และลอยคอเกี่ยวข้าว แต่ตำรวจทุกนายก็ยินดีที่จะช่วยเหลือให้ถึงที่สุด เพราะจะต้องการันตีคำขวัญที่เคยเอ่ยกันมาว่า “ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้” พล.ต.ต.มนตรี กล่าวอีกว่า ในช่วงนี้เป็นฤดูเก็บเกี่ยวนอกจากการลงแขกเกี่ยวข้าวช่วยเหลือเกษตรกรที่ยากจนแล้วขณะนี้ตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ยังได้มีโครงการลานตากข้าวเพื่อประชาชน โดยเปิดลานหน้าโรงพักทั้ง 23 สถานีให้เกษตรกรที่เก็บเกี่ยวข้าวเสร็จแล้วนำข้าวเปลือกมาตากให้แห้ง ซึ่งถือเป็นการป้องกันการลักขโมยข้าวเปลือกของกลุ่มมิจฉาชีพ และเป็นการส่งเสริมให้เกษตรตากข้าวเปลือกให้แห้งเพื่อที่จะไม่ถูกหักค่าความชื้นมากเกินไปและสามารถขายข้าวได้ราคาดีขึ้น และยังเป็นการชะลอการขายข้าวพร้อมกันอีกด้วย ดังนั้นจึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังเกษตรกรที่มีฐานะยากจนและไม่มีค่าแจ้งแรงงานหรือไม่สามารถเก็บเกี่ยวข้าวได้สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือและขอกำลังตำรวจช่วยเกี่ยวข้าวได้ที่สถานีตำรวจทุกแห่ง ซึ่งตำรวจยินดีที่จะให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ด้านนางสีตาล ระวาดชัย อายุ 66 ปี เกษตรกรบ้านแจ้งจม ม.7 ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ปัจจุบันตนอาศัยอยู่กับสามี และลูกสาวรวม 3 คน แต่ปัจจุบันเนื่องจากสามี ซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัวเกิดล้มป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ไม่สามารถทำงานได้เหมือนเดิม ภาระการทำนาจึงตกอยู่กับตนและลูกสาว อีกทั้งในปีนี้ข้าวนาปีที่ครอบครัวปลูกไว้จำนวน 15 ไร่ก็ถูกน้ำท่วมขังทั้งหมดมานาน 4 เดือนแล้ว เนื่องพายุฝนและแม่น้ำชีเอ่อท่วมทำ จึงทำให้ไม่มีแรงที่จะเก็บเกี่ยว และไม่มีเงินจ้างแรงงาน ซึ่งทุกวันนี้ค่าจ้างแรงงานวันละ 300-350 บาท ส่วนการที่ตำรวจเข้ามาช่วยเกี่ยวข้าวครั้งนี้สามารถช่วยได้อย่างมาก จึงขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่เสียสละมาช่วยเกี่ยวข้าวแม้นาข้าวของตนยังมีน้ำท่วมสูง สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมโดยเฉพาะพื้นที่ อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำ และที่ผ่านมาได้รับอิทธิพลจากพายุเซินกา พายุตาลัส และแม่น้ำชีหนุนสูง ทำให้นาข้าวของเกษตรกรถูกน้ำท่วมเสียหายไปแล้วหลายหมื่นไร่ และขณะนี้ยังมีนาข้าวของเกษตรกรที่ยังคงถูกน้ำท่วมขังสูงเป็นบริเวณกว้างและนานกว่า 4 เดือนอีกหลายพันไร่ ซึ่งอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ ทำให้เกษตรกรส่วนใหญ่เก็บเกี่ยวข้าวด้วยความยากลำบาก และทำให้ต้นข้าวเมล็ดลีบ ซึ่งยังคงรอการช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐต่อไป