จากกรณี นช.ธวัชชัย มะลิแย้ม อายุ 33 ปี ชาว ต.บ้านแหลม อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี นักโทษคุมขังคดีจำหน่ายยาบ้า และ นช.เอกชัย เคลือบแก้ว 36 ปี ชาวอ.เด่นชัย จ.แพร่ นักโทษคุมขังคดีลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ได้หลบหนีที่คุมขังเรือนจำกลางเพชรบุรีโดยอาศัยช่วงจังหวะปีนกองทรายที่เรือนจำกลางเพชรบุรี ขนเข้าไปในเรือนจำกลางเพชรบุรี และกองรวมไว้เพื่อบรรจุใส่กระสอบกั้นน้ำซึ่งเกิดจากภาวะน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี และข้ามกำแพงหลบหนีไปเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น เมื่อเวลา 08.30 น. พ.ต.ท.เฉลิมพล จิตรบรรจง รอง ผกก.สภ.บ้านแหลม พร้อมด้วย กำลังเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ จากกรมราชทัณฑ์ เจ้าหน้าที่จากเรือนจำกลางเพชรบุรี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบ้านแหลม กว่า 80 คน ได้สนธิกำลังร่วมปิดล้อมพื้นที่ ที่บริเวณ หมู่ 7 บ้านน้ำหัก ต.ท่าแร้ง อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี หลังได้รับแจ้งจากประชาชนว่าพบเห็น นช.ธวัชชัย เดินขึ้นมาจากริมน้ำเพชรบุรี ลักษณะหนาวสั่นและอ่อนแรง เข้ามาขออาหาร และเสื้อจากคนในหมู่บ้านเพื่อประทังความหิวและสวมใส่ ชาวบ้านที่พบเห็นคาดว่าน่าจะเป็นนักโทษที่หลบหนีเนื่องจาก เห็นรูปตามสื่อต่างๆ จึงหยิบโทรศัพท์เพื่อตรวจสอบใบหน้ากับข้อมูลที่สื่อได้นำเสนอปรากฏว่า นายธวัชชัยได้วิ่งหลบหนีลงไปในบริเวณป่าละเมาะจึงได้ประสานงานแจ้ง พ.ต.ท.เฉลิมพล นำกำลังมาปิดล้อมจับกุม ทั้งนี้ลักษณะพื้นที่ ที่ นช.ธวัชชัย หลบหนีซ่อนตัวดังกล่าวเป็นพื้นที่ ป่าละเมาะขนาดกว้าง และด้านในมีน้ำท่วมขังสูงและมีร่องลึก ตลอดจนมีต้นไม้รกทึบและมีหนามแหลมคมเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังปิดล้อมค้นหานานกว่า 2 ชั่วโมง จนกระทั่งคาดว่านายธวัชชัยอาจจะ หลบหนีไปทางพื้นที่ด้านหลังซึ่งติดต่อกับทุ่งกว้างโล่งที่มีน้ำท่วมขังสูง พ.ต.ท.เฉลิมพลจึงได้ประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่และเรือจากมูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถานฯ เพื่อใช้ในเป็นพาหนะในการล่องตรวจสอบ และปิดล้อม ขณะเดียวกันได้ นำภรรยาของนายธวัชชัย (ขอสงวนชื่อ) มาออกกระจายเสียงที่หอกระจายข่าวเกลี้ยกล่อมให้นายธวัชชัยมอบตัว โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาปฏิบัติงานในการตรวจค้นทางน้ำนานกว่า 3 ชั่วโมงแต่ไม่พบตัว คาดว่านายธวัชชัยอาศัยพื้นที่ป่าและน้ำท่วมสูงหลบหนีไปได้ จึงถอนกำลังกลับ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะได้ติดตามจับกุมตัว นช.ธวัช มะลิแย้ม และ นช.เอกชัย เคลือบแก้ว ซึ่งยังหลบหนีการจับกุมทั้ง 2 คน มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว