วันที่ 29 พ.ย. 60 ที่สำนักงานแห่งชาติ นายพล ชีพทีฆ์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจ เข้าพบ พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ทรงเมตตา รรท.รอง ผบ.ตร./โฆษก สำนักงานแห่งชาติ พร้อมยื่นหนังสือร้องทุกข์จำนวน 1 ชุด 16 หน้า เพื่อนำเสนอต่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษพนักงานสอบสวน สภ.ควนมีด จ.สงขลา พร้อมจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม 13 นาย มีพฤติการณ์ยักยอกไม้แก่นกฤษณาของกลางน้ำหนัก 13 กิโลกรัมมูลค่าประมาณ 65 ล้านแสนบาท หลังจากคดีสิ้นสุด ตามศาลจังหวัดนาทวี คดีอาญาหมายเปรียบเลขที่ 65 ล้านบาท คดีอาญาหมายเลขดำที่ 1509/2559 เมื่อคดีถึที่สิ้นสุด แต่ไม่คืนไม้แก่นกฤษณาแก่นายสุเวช ฮาลาบี เจ้าของ ตามคำสั่งศาล นายพล กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 59 เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจถาวรบ้านควนมีด หมู่ 1 ต.จะโหน่ง อ.จะนะจ.สงขลา จำนวน 13 นายจับกุมนายสุเวช ฮาลาบี และ น.ส.หง สัญชาติลาว ตรวจยึดไม้แก่นกฤษณาน้ำหนัก 13 กิโลกรัมเป็นของกลาง โดยผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธและยืนยันว่าไม้แก่นกฤษณา มิใช่ของผิดกฎหมาย แต่ชุดจับกุมลงบันทึกตรวจยึดไม้แก่นกฤษณา ไว้เป็นของกลาง จากนั้นสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 สงขลา มีหนังสือมายัง ผกก.สภ.ควนมีด พร้อมคำสั่งศาลจังหวัดนาทวี ตามคำพิพากษาเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2560 พิพากษาว่า ให้คืนไม้ปริศนาและเครื่องชั่งดิจิตอลของกลางแก่เจ้าของไปในคดีดังกล่าวถึงที่สุด แล้วไม่มีคู่ความอุทธรณ์ นับตั้งแต่ศาลมีคำสั่งคืนของกลางให้แก่ นายสุเวช จนถึงปัจจุบันปรากฏว่านายสุเวช ยังไม่ได้รับการส่งมอบของกลางคืนแต่อย่างใด ในฐานะทนายความ ผู้รับมอบอำนาจ ดำเนินการทางกฎหมาย เรียกร้องค่าเสียหายจากสำนักงานแห่งชาติ และกรมการปกครองหรือกรมป่าไม้ ในฐานะผู้รับผิดชอบทางแพ่งต่อเจ้าหน้าที่ผู้กระทำละเมิดขั้นต้น ในการร่วมกันทำของกลางซึ่งเป็นไม้กฤษณาน้ำหนัก 13 หายไปไม่ว่าโดยเจตนาทุจริตหรือประมาทเลินเล่อ อีกทั้งอาจเป็นการกระทำผิดทางอาญา แก่นไม้เกรดดีที่สุด ราคาส่งออกต่างประเทศกิโลกรัมละ 5 ล้านบาทในการนี้น่าจะมีผู้ร่วมกระทำความผิด ประกอบด้วย รอง สวป.สภ.ควนมีด รอง ผบก.สงขลา/ผบ.ศปก.สข.สน. นอภ.จะนะ ผกก.สภ.ควนมีด พนักงานสอบสวนผู้รับของกลางจัดซื้อจัดกลุ่มมีอำนาจหน้าที่เก็บรักษาของกลางและผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอความเป็นธรรม จากผู้บังคับบัญชาระดับสูง ของสำนักงานแห่งชาติได้ดำเนินการทำการสอบสวนทางวินัย ดำเนินคดีอาญาแก่ผู้กระทำผิด อีกทั้งให้ผู้ที่รับผิดชอบในทางแพ่งร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 65 ล้านบาทแก่ นายสุเวช ผู้ได้รับความเสียหาย/จำเลย จากการถูกยึดไม้กฤษณาในครั้งนี้ เพื่อความชอบธรรมที่จะบังเกิดโดยชอบด้วยกฏหมาย